เห็นในพันทิพ มักมีการพูดถึงรายได้ต่อหัวต่อเดือน เชื่อ ไม่เชื่อ หรือได้เยอะเพราะอะไร ไม่ได้เยอะเพราะอะไร วันนี้เราเอาเรื่องรายได้กับอุปนิสัยมาแชร์ให้ได้เห็นกัน
โดยส่วนตัวแล้ว ไม่คิดว่า ความเก่งจะเป็นปัจจัยเดียว หรือเป็นปัจจัยแรกสุดที่จะทำให้รายได้เยอะ แต่กลับกัน ผมกลับเชื่อว่า นิสัยต่างหาก ที่เป็นตัวบ่งชี้ถึงแนวทางการพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆของตัวบุคคล เพราะคนที่ใฝ่รู้อย่างหนึ่ง ก็จะทำแบบหนึ่ง คนที่พัฒนาตัวเองอีกแบบ ก็จะได้รับค่าตอบแทนอีกแบบ โดยคร่าวๆ (เอาแค่การพัฒนาศักยภาพนะครับ ไม่นับการรับมรดก)
หลายๆคนคงจะคุ้นเคยกับ MBTI มาบ้างแล้ว แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยรู้จักมัน ผมขอเล่าให้ฟังสั้นๆดังนี้ครับ (เล่ายาวเดี๋ยวจะเบื่อ)
Myers–Briggs Type Indicator (
MBTI) เป็นหลักการจัดหมวดหมู่อุปนิสัยของผู้คนในสังคมในเชิงจิตวิทยา ซึ่งจะสามารถจัดเป็นหมวดหมู่ใหญ่ๆ ได้ 16 แบบด้วยกัน ดังนั้น บ่อยครั้ง MBTI จึงถูกเรียกว่า 16 personalities
MBTI เป็นวิธีการจัดหมวดหมู่ที่เป็นขั้นเป็นตอน อาศัยอุปนิสัยที่มีลักษณะที่ตรงข้ามกันทั้งหมดสี่กลุ่ม ซึ่งวิธีนี้ ถูกเสนอครั้งแรกโดย Katharine Cook Briggs ผู้เป็นแม่และลูกสาว Isabel Briggs Myers โดยอาศัยหลักการทางจิตวิทยาจาก Carl Jung ซึ่ง Brigg ได้อธิบายในงานตีพิมพ์ของเธอครั้งแรกในปี 1926 (ตอนนั้นผมยังไม่เกิดครับ
ทีนี้ หลังจากทฤษฎีนี้เกิดขึ้น นักจิตวิทยาก็ได้ทำการศึกษาเพิ่มเติม ทั้งในแง่จิตวิทยาเชิงลึกของผู้คน และในแง่สถิติ
จนเมื่อเร็วๆนี้ มี report จาก Truity Psychometrics LLC ซึ่งเป็นเว็บไซด์ (บริษัท) ที่เกี่ยวกับการทดสอบด้านบุคลิกภาพและการทำงาน (ออกไปทาง HR นะ ผมว่า) ได้ทำการเปิดเผยรายงานด้านสถิติที่ทางบริษัทได้ทำการรวบรวมจากกลุ่มตัวอย่าง 4,367 คน พบว่า รายได้โดยสถิติ สัมพันธ์กับอุปนิสัยดังนี้
อันนี้เป็นสถิติจาก "ผู้ชาย"
อันนี้เป็นสถิติจาก "ผู้หญิง"
อันนี้เป็นสถิติรวมครับ
จะเห็นได้ว่า โดยส่วนใหญ่ คนที่รายได้สูง มีความคิดเป็นแบบ Extravert (กลุ่มคนที่ได้พลังงานจากปฏิสัมพันธ์) เสียมากกว่า Introvert (กลุ่มคนที่เป็นนักคิดและเก็บตัว)
และมักจะลงท้ายด้วย Judement ซึ่งก็คือ มีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนครบถ้วน (พวก "เป๊ะ" ถ้ามากเกินก็ "เยอะ" ครับ 555) มากกว่าที่จะเป็น Perception คือพวกยืดหยุ่น (ถ้ามากเกิน ก็คือ ชุ่ย ครับ เอากลางๆไว้จะดีกว่า)
ขอย้ำไว้ก่อนนะครับ ว่านี่เป็นผลเพียงคร่าวๆจากหน่วยงานเดียวเท่านั้น ไม่ได้ทำการสำรวจเป็นล้านคน และที่สำคัญ ไม่ได้ทำการสำรวจในไทย ดังนั้น อาจจะไม่ตรงกับเราทั้งหมดครับ และอาจมีเคส ที่เป็น exception ได้เสมอ (ซึ่งอาจเป็นคุณ)
แต่อย่างน้อย ก็พอจะเป็นแนวโน้ม เพื่ออธิบาย ได้ว่าได้เยอะ ได้น้อย เท่าไหร่ ยังไง ทำไมคนนิสัยแบบนึง มักจะได้รายได้แบบหนึ่ง และนิสัยอีกแบบ มักจะได้อีกแบบ อันนี้โดยเฉลี่ยนะครับ
คิดเห็นกันยังไง เชื่อนักจิตวิทยากันแค่ไหน
สุดท้าย ใช้ชีวิตกันให้มีความสุขครับ ได้รายได้เท่าไหร่ มันก็ไม่เท่ากับการที่ว่า เราตื่นเช้าไปทำงานที่เราพอใจไหม ในช่วงชีวิตวัยทำงาน 40 ปีในชีวิต สวรรค์บ้าง นรกบ้าง ทั้งหมด สุดท้ายก็อยู่ในใจครับ
สำหรับคนไม่เคยเล่นครับ
https://www.16personalities.com/th/%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E
MBTI กับรายได้เฉลี่ย เชื่อหรือไม่
โดยส่วนตัวแล้ว ไม่คิดว่า ความเก่งจะเป็นปัจจัยเดียว หรือเป็นปัจจัยแรกสุดที่จะทำให้รายได้เยอะ แต่กลับกัน ผมกลับเชื่อว่า นิสัยต่างหาก ที่เป็นตัวบ่งชี้ถึงแนวทางการพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆของตัวบุคคล เพราะคนที่ใฝ่รู้อย่างหนึ่ง ก็จะทำแบบหนึ่ง คนที่พัฒนาตัวเองอีกแบบ ก็จะได้รับค่าตอบแทนอีกแบบ โดยคร่าวๆ (เอาแค่การพัฒนาศักยภาพนะครับ ไม่นับการรับมรดก)
หลายๆคนคงจะคุ้นเคยกับ MBTI มาบ้างแล้ว แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยรู้จักมัน ผมขอเล่าให้ฟังสั้นๆดังนี้ครับ (เล่ายาวเดี๋ยวจะเบื่อ)
Myers–Briggs Type Indicator (MBTI) เป็นหลักการจัดหมวดหมู่อุปนิสัยของผู้คนในสังคมในเชิงจิตวิทยา ซึ่งจะสามารถจัดเป็นหมวดหมู่ใหญ่ๆ ได้ 16 แบบด้วยกัน ดังนั้น บ่อยครั้ง MBTI จึงถูกเรียกว่า 16 personalities
MBTI เป็นวิธีการจัดหมวดหมู่ที่เป็นขั้นเป็นตอน อาศัยอุปนิสัยที่มีลักษณะที่ตรงข้ามกันทั้งหมดสี่กลุ่ม ซึ่งวิธีนี้ ถูกเสนอครั้งแรกโดย Katharine Cook Briggs ผู้เป็นแม่และลูกสาว Isabel Briggs Myers โดยอาศัยหลักการทางจิตวิทยาจาก Carl Jung ซึ่ง Brigg ได้อธิบายในงานตีพิมพ์ของเธอครั้งแรกในปี 1926 (ตอนนั้นผมยังไม่เกิดครับ
ทีนี้ หลังจากทฤษฎีนี้เกิดขึ้น นักจิตวิทยาก็ได้ทำการศึกษาเพิ่มเติม ทั้งในแง่จิตวิทยาเชิงลึกของผู้คน และในแง่สถิติ
จนเมื่อเร็วๆนี้ มี report จาก Truity Psychometrics LLC ซึ่งเป็นเว็บไซด์ (บริษัท) ที่เกี่ยวกับการทดสอบด้านบุคลิกภาพและการทำงาน (ออกไปทาง HR นะ ผมว่า) ได้ทำการเปิดเผยรายงานด้านสถิติที่ทางบริษัทได้ทำการรวบรวมจากกลุ่มตัวอย่าง 4,367 คน พบว่า รายได้โดยสถิติ สัมพันธ์กับอุปนิสัยดังนี้
จะเห็นได้ว่า โดยส่วนใหญ่ คนที่รายได้สูง มีความคิดเป็นแบบ Extravert (กลุ่มคนที่ได้พลังงานจากปฏิสัมพันธ์) เสียมากกว่า Introvert (กลุ่มคนที่เป็นนักคิดและเก็บตัว)
และมักจะลงท้ายด้วย Judement ซึ่งก็คือ มีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนครบถ้วน (พวก "เป๊ะ" ถ้ามากเกินก็ "เยอะ" ครับ 555) มากกว่าที่จะเป็น Perception คือพวกยืดหยุ่น (ถ้ามากเกิน ก็คือ ชุ่ย ครับ เอากลางๆไว้จะดีกว่า)
ขอย้ำไว้ก่อนนะครับ ว่านี่เป็นผลเพียงคร่าวๆจากหน่วยงานเดียวเท่านั้น ไม่ได้ทำการสำรวจเป็นล้านคน และที่สำคัญ ไม่ได้ทำการสำรวจในไทย ดังนั้น อาจจะไม่ตรงกับเราทั้งหมดครับ และอาจมีเคส ที่เป็น exception ได้เสมอ (ซึ่งอาจเป็นคุณ)
แต่อย่างน้อย ก็พอจะเป็นแนวโน้ม เพื่ออธิบาย ได้ว่าได้เยอะ ได้น้อย เท่าไหร่ ยังไง ทำไมคนนิสัยแบบนึง มักจะได้รายได้แบบหนึ่ง และนิสัยอีกแบบ มักจะได้อีกแบบ อันนี้โดยเฉลี่ยนะครับ
คิดเห็นกันยังไง เชื่อนักจิตวิทยากันแค่ไหน
สุดท้าย ใช้ชีวิตกันให้มีความสุขครับ ได้รายได้เท่าไหร่ มันก็ไม่เท่ากับการที่ว่า เราตื่นเช้าไปทำงานที่เราพอใจไหม ในช่วงชีวิตวัยทำงาน 40 ปีในชีวิต สวรรค์บ้าง นรกบ้าง ทั้งหมด สุดท้ายก็อยู่ในใจครับ
สำหรับคนไม่เคยเล่นครับ
https://www.16personalities.com/th/%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E