ครั้งแรกตั้งใจสมัครpantip ขออภัยที่อาจจะตั้งกระทู้ไม่ถูกนะคะ
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเราเป็นคนไม่โรแมนติกเลยเราเคยมีความรักที่แสนแย่กับคนเก่ามาแล้วเราโดนนอกใจเราโดนปล่อยให้เหงาเศร้าและสู้เพียงลำพังเลิกกับแฟนคนเก่ากว่าจะทำใจได้ก็ยากมากวันนึงเราเลยตัดสินใจหาไรทำกับเพื่อนเพื่อไม่ให้ฟุ้งซ่านเลยตกลงจะขายของกันธุรกิจเริ่มมาได้พักใหญ่ขายของเป็นการขายอาหารตอนกลางคืนลูกค้าผุ้ชายก็จะเข้ามาคุยตลอดแต่ด้วยความที่เราลืมแฟนเก่ายังไม่ได้เลยยังไม่ได้สนใจอะไรเน้นขายของและกินเหล้าอย่างเดียวเลยค่ะจะได้หมดๆวันไปนานวันเข้าจนวันนึงมีลูกค้าคนนึงคนนี้จะมาแปลกกว่าคนอื่นจะมายิ้มหวานๆอยู่หน้าร้านมาซื้อของกินจากร้านเราทีละเยอะๆมาแทบทุกวันมาแล้วก็มายิ้มทำแบบวนไปวนมาจนเค้าน่าจะใจกล้าแหละมั้งเลยมาขอเบอร์ไอ้เราก็เล่นตัวพร้อมอยากขายของได้เยอะๆก็เลยบอกพี่เค้าไปว่าอยากได้เบอร์ก็ต้องมาซื้อของวันไหนมาก็จะได้ไป1 ตัวเค้าก็มานะมาซื้อวันนึงก็ได้ไป1 ตัว( น่าสงสาร) วนๆไปแบบนี้จนเหลือ4 ตัวสุดท้ายวันนั้นเป็นวันที่แฟนเด่าเรามานั่งกินข้าวแล้วเจอกันมาคุยกับเรายอมรับว่าใจหวั่นไหวมากเฮ้อ!!! ส่วนพี่ลูกค้าเค้าก็ยังมาหาตามปกติแต่สำหรับวันนี้มันไม่ปกติเพราะเราอ่อนไหวอยู่ไงเลยย้อมใจกินเหล้าให้เมาพอพี่เค้าเดินมาหามาหาตามปกติของเค้าอ่ะนะเราดันไล่เค้าไป“ พี่ไม่ต้องมายุ่งกะหนูได้ปะจะไปไหนก็ไปแล้วไม่ต้องมาอีกไม่เอาไม่ชอบไม่ต้องมายุ่ง“ สุดท้ายพี่เค้าก็หายไปจริงๆอืมมแต่ชั่งเหอะก็ตอนนั้นเรายังไม่สนใจอะไรเค้ามากไงวันเวลาล่วงเลยมาหลายเดือนงานประจำเราก้เริ่มเยอะขึ้นไม่ค่อยมีเวลาขายของแล้วอีกอย่างคือต้องไปอยรมที่กรุงเทพบ่อยๆเลยต้องขอถอนหุ้นร้านนั้นกับเพื่อนระหว่างนั้นมันเข้าสู่ช่วงเดือนพฤศจิกายนละหน้าหนาวเทศกาลลอยกระทงไงเหงามากเศร้ามากแต่ทำไงได้เนอะเลือกเยอะ🤣สมน้ำหน้าตัวเอง
นับวันวนไปนับเดือนวนไปอีกจนมาถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของปีพ.ศ.ใหม่แล้วนะวันนึงเรามีโอกาสได้ไปเยือนร้านของเพื่อนที่เคยหุ้นกันเพิ่อไปsurprise วันเกิดนั่งกินข้าวกินเค้กกันตามประสาแต่อยู่ๆมีผู้ชายคนนึงเดินเข้ามาทักตกใจมาก!! เค้าคือพี่ลูกค้าคนที่เราไล่เค้าไปครั้งก่อนเค้ามาเหมือนกันและเค้ายังบอกด้วยว่าตั้งวันนั้นก็แอบมาหาอีกแต่ไม่เจอวันนี้เลยตั้งใจจะมาอีกครั้งถ้าไม่เจอคงถอยแล้วจริงๆแต่คุณพระดันมาเจอกันพอดีจากนั้นเราก็เลยได้มีโอกาสได้แลกFB กันและเริ่มได้ลองคุยกันเราเริ่มจะศึกษากันคือวันที่14 กุมภาพันธ์59 ความสัมพันธ์เราเริ่มพัฒนาขึ้นเรื่อยๆเค้าดูแลเอาใจใส่ดีมากๆจนวันนึงคุณพ่อประสบอุบัติเหตุต้องเข้ารพ. ช่วงเดือนเมษายน59 พอเค้ารู้เค้าก็ไม่อิดออดที่จะมาเยี่ยมและอยู่ดูแลพ่อกับเราเลย เค้าเอาใจใส่เราและครอบครัวอย่างดีมากๆอย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะมีใครทำให้ขนาดนี้เลยเหรอแต่เนาะเราไม่ได้วางใจหรอกคบกันใหม่ๆอะไรก็คงดีเราคิดแบบนั้น
จนเวลาล่วงเลยมาเรื่อยๆเรื่อยๆ1 ปี2 ปีระหว่างนั้นเราเอาแต่ใจมากบอกเลิกเค้าทำเค้าสารพัดคือเค้าเป็นคนดีมากๆไงแล้วเราอ่ะไม่ได้เป็นคนดีอะไรเลยเอาแต่ใจเหมือนไม่มีอะไรที่เหมาะกับเค้าว่าเค้างอนเค้าสารพัดแต่ลึกๆเรารักเค้ามากเลยนะแต่ด้วยนิสัยไม่ดีแบบนี้ไงเลยไม่กล้าที่จะคบกับเค้าต่อแต่เค้าก็ยังอยู่ยังดีกับเราคอยเตือนสติเราว่าอย่าเอาแต่ใจมากเค้าไม่ไปไหนเค้าจะอยู่กับเราเค้ารักเราเพราะเราเป็นรักสุดท้ายของเค้าแล้วเค้าอยากดูแลเราอยากแต่งงานกับเรามันจุกทุกคำพุดที่เค้าได้พูดออกมาหลังจากนั้นเราก็เริ่มปรับตัวใหม่เริ่มใจเย็นลงเริ่มทำตัวเป็นแฟนที่น่ารักกับเค้าเราตัวติดกันตลอดค่ะไปไหนมาไหนด้วยกันกินนอนเล่นทำทุกActivity ด้วยกันหมดและplan ว่าจะแต่งงานกันปี63ระหว่างนั้นก็งอนบ้างนิดๆหน่อยๆนะแฮ่ๆนิสัยไม่ดีเลย จนล่วงเลยมาปีที่3 ปีนี้มันเป็นปีที่เป็นจุดเปลี่ยนสำหรับเรา
เค้าเริ่มบ่นปวดหลังเลยพากันไปหาหมอแต่คำตอบคือกล้ามเนื้ออักเสบก็ได้ยามากินกินมาพักใหญ่ความเจ็บก็ไม่เคยทุเลาลงเลยจน30 มกราคม61 เลยชวนเค้าไปxray ดูปรากฏว่าเจอสิ่งผิวปกติที่หลังจนทางรพ.เค้าต้องส่งไปct scan รพ.ที่เค้ามีสิทธิ์การรักษาที่เบิกได้
ช่วงเดือนมากราคมต้นปีเราก็รอลุ้นผลตรวจบวกกับอาการเจ็บของเค้าก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆจนวันนึงผลตรวจออกมาปรากฏว่าเค้าเป็น“มะเร็ง” เราช็อคนะแต่ด้วยความที่กลัวแฟนเราคิดมากเลยต้องทำใจดีสู้ให้กำลังใจและคอยปลอบแต่เค้าดูok ค่ะดูไม่คิดมากแต่เราอยู่ด้วยกันตลอดเราดูออกแหละค่ะว่าลึกๆเค้าคงคิดอะๆรเยอะไปหมดแน่ๆตั้งแต่นั้นมาเค้าก็ได้เริ่มรักษาด้วยการฉายแสงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ระหว่างนั้นเราก็ไปอยู่ไปเฝ้าไปให้กำลังใจหาของกินเพื่อสุขภาพทำน้ำผักผลไม้ปั่นให้เค้ากินตลอดพยายามดูแลและอยู่ข้างๆตลอดทุกๆวันทำแบบนี้จนถึงเดือนเมษายนที่ต้องนัดผ่าตัดเรานอนไม่หลับเราตื่นเต้นกังวลกลัวไปหมดค่ะไหว้พระขอพรบนบานศาลเกล้าให้เค้าปลอดภัยก่อนผ่าตัดเค้าร้องไห้กับเราแล้วถามเราว่า“เธอฉันจะหายมั้ย?” โถเธอจ๋าเธอต้องหายแน่นอนเธอเก่งเธอแข็งแรงเธอต้องหาย
9 ชั่วโมงสำหรับการผ่าตัดเอาชิ้นเนื้อออกเรากับน้องๆและแม่เค้าเฝ้าหน้าห้องผ่าตัดลุ้นทุกเวลานาทีจนคุณหมอออกมาบอกว่าชิ้นเนื้อเอาออกได้ไม่หมดเพราะคิดส่วนสำคัญของร่างกายเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตมากแต่การผ่าตัดผ่านไปด้วยดีคนไข้ปลอดภัยทุกคนดีใจค่ะแต่มันดีใจไม่สุดเพราะตัวก้อนออกไม่หมดและยังต้องผ่าตัดใส่กระดูกเทียมและเหล็กดามไขสันหลังอีกสงสารแฟนมากเพราะต้องเจ็บแล้วเจ็บอีกระหว่างออกห้องผ่าตัดเค้าเจ็บมากปวดมากต้องเทคมอร์ฟีนหนักๆและยาแก้ปวดจำนวนเยอะๆเพื่อบรรเทาเรากับน้องสาวเค้าทำอะไรไม่ได้เลยได้แค่ปลอบและคอยเฝ้าให้กำลังใจสุดๆ
เวลาล่วงเลยประมาณ2 อาทิตย์หมอแจ้งว่าได้คิวผ่ากระดูกแล้วเฮ้อเจ็บอีกแล้วสินะการผ่าตัดรอบนี้เร็วกว่าเดิมใช้เวลาประมาณ4-5ชม. ก็เสร็จเรากับน้องสาวเค้าก็ยังคอยเฝ้าลุ้นอยู่ทุกครั้งหลังจากออกมาพักฟื้นหลังผ่าตัดครั้งที่2 เสร็จคราวนี้เค้าปวดกว่าเดิมเพราะกระดูกเนอะเอาเหล็กเข้าไปดามมันคงทรมานสุดๆคราวนี้ต้องเทคมอร์ฟีนส์ดิบเพื่อบรรเทาอาการแต่นั้นยังไม่จบค่ะเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดปอดมีอาการแฟ่บมีพังพืดเกาะมีลิ่มเลือดในปอดจึงต้องผ่าตัดจัดการกับปอดอีก1 ครั้งขนาดเราเรายังท้อเรายังแย่แล้วความรู้สึกเค้าหละจะขนาดไหนเรากับน้องสาวเค้าและแม่ก็ได้แต่ใจแข็งปลอบให้กำลังใจแต่ภายในของเราทั้งหมดสงสารเสียใจและแอบร้องไห้กันอยู่บ่อยๆล่วงเลยเดือนกว่าจะ2 เดือนแล้วเค้าเริ่มหัดเดินฝึกขยายปอดอาการเหมือนดีขึ้นมากๆค่ะแต่ว่าเริ่มมีไข้ถี่ขึ้นจนหมอแจ้งว่าเค้าติดเชื้อแลปอดเริ่มยังขยายไม่ดีมีพังผืดต้องไปผ่าตัดอีกพระเจ้าอะไรจะแย่ไปกว่านี้อีกสุดสงสารแฟนมากๆแอบร้องไห้ตลอดไม่อยากให้เค้าเห็นเพราะเค้าก็สู้ๆสุดๆเอาหละผ่าก็ผ่าแต่ครั้งนี้โชคไม่ดีหลังผ่าตัดเสร็จครั้งที่4 ห้องicu มีการระบาดของเชื้อโรคดื้อยาแฟนซึ่งได้รับการผ่าตัดมาหมาดๆร่างกายอ่อนแออยู่แล้วจึงสันณิษฐานว่าจะติดเชื้อโรคนี้จึงถูกย้ายไปห้องสังเกตุการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อเรากับน้องสาวเค้าก็ยังทำหน้าที่นอนเฝ้าและดูแลอยุ่ไม่ห่างเช่นเดิม จนมาถึงวัน6 มิ.ย. 62 ที่ผ่านมากลางวันเราออกมาทำงานกติน้องสาวโทรมาบอกว่าแฟนเราเหนื่อยหอบมากต้องกลับไปห้องicu เพื่อใส่ท่อช่วยหายใจอีกครั้งเราใจหายมากตกใจสงสารแฟนทำอะไรไม่ถูกค่ะตกเย็นเลยรีบมาหาที่รพ.เราเห็นสภาพแฟนแล้วสงสารเค้าที่สุดคิดแค่ว่าทำไมคนดีๆแบบเค้าต้องมาทรมานซ้ำแล้วซ้ำอีกแบบนี้
จุดเปลี่ยนเริ่มแล้วค่ะอาการของแฟนเริ่มแย่ลงแย่ลงเพราะเชื้อโรคที่อยู่ในตัวเค้ามันดื้อยายาตัวไหนก็ไม่ทำปฏิกิริยากับเชื้อโรคเลยพูดก็ไม่ได้เพราะเครื่องช่วยหายใจติดคาปากได้แค่เขียนสื่อสารกันเค้าเริ่มเบลอรู้จักหมดค่ะว่าใครเป็นใครแต่การสั่งการบางอย่างมันไม่เหมือนเดิมเริ่มเขียนไม่เป็นคำเขียนคำงงๆจนสุดท้ายหมอบอกว่าเค้าต้องเจาะคอนะไม่งั้นหลอดลมจะตีบไม่ดีกับตัวคนไข้ญาติๆก็okทำเถอะเพื่อให้เค้าได้ดีขึ้นแต่ด้วยความที่ร่างกายเค้าอ่อนแอยู่แล้วจากดีขึ้นมันกลับเลวร้ายลงทุกวันเค้าไม่ค่อยฟื้นความดันตกหัวใจเต้นเร็วมากเพราะได้ยากระตุ้นความดันเค้าหลับเค้าไม่ฟื้นมาดูอะไรเลยจนวันที่3 ของการเจาะคอเค้าลืมตามามองหน้าเราเราดีใจมากเลยบอกให้เค้ายิ้มเค้ายิ้มหวานให้เรามากๆเลยค่ะและเค้าก็หลับไป
จนวันที่ไม่คาดคิดก็มาถึงวันที่หมอนัดคุยกับญาติๆเพื่อสรุปอาการของแฟนหมอแจ้งว่าตอนนี้ร่างกายเค้าไม่ตอบสนองกับนาแล้วอยู่ได้เพราะเครื่องช่วยหายใจพอได้ฟังเราทุกคนต่างปล่อยโฮกันแบบไม่อายหมออายใครอีกเลยมันเป็นฝันร้ายใช่มั้ยทำไมมันต้องเกิดขึ้นกับแฟนเรากับคนดีๆรักครอบครัวแบบนี้สุดท้ายแล้วเค้าก็ต้องมาจากเราไปจริงๆเมื่อวันที่2 ก.ค.62 เสียเค้าไปอย่างไม่มีวันกลับอีกเลย
หลังจากนั้นช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาเราจัดงานศพให้เค้าอย่างดีและสมเกียรติที่สุดตลอดเวลา2 เดือนกว่าที่เค้ารักษาตัวเรากับน้องสาวก็อยู่ดูแลเค้าอย่างเต็มที่ที่สุดงานเราพยายามทำให้ออกมาดีมากที่สุดเพื่อเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราจะตอบแทนความรักที่เค้าเคยมอบให้ หวังว่าเธอคงรับรู้ถึงความรักและความตั้งใจที่ทำเพื่อเธอนะคะ🖤
ตอนนี้ครบ7 วันที่เราไม่เจอหน้าแฟนไม่ได้กอดไม่ได้จับมือเค้าเราคิดถึงเค้ามากเราร้องไห้ทุกเวลามันคงยากทำใจและต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนที่จะเข้มแข็งอีกครั้งเธอจ๋าฉันรู้ว่าเธอไม่เจ็บไม่ทรมานแล้วเพราะเธอทำบุญเยอะเธอคนดีมากๆดูแลบุพการีและคนรักอย่างดีเธอคงไปอยู่ในภพภูมิที่ดีแล้วนะคะ
ส่วนฉันก็ยังคงรักและจะเก็บความทรงจำแสนดีนี้ไปตลอดชั่วชีวิตค่ะรักเธอนะรักมากที่สุดในหัวใจ( คนที่มีความรักที่ยังอยู่ด้วยกันอยากฝากไว้ให้ทำดีต่อกันมากๆรักกันเยอะๆชีวิตมันสั้นค่ะการจากเป็นมันยังมีโอกาสได้เห็นแต่การจากตายจะไปหาที่ไหนอีกคงไม่มีคงไม่เจอ)
***สุดท้ายแล้วขอขอบคุณเว็บพันทิปที่ให้พื้นที่ได้ระบายความเศร้าและช่วยบรรเทาความเหงาลงได้บ้างค่ะผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ
ตอบส่งต่อ
รักกับแฟนมาก กำลังวางแผนแต่งงาน แต่สุดท้ายก็แพ้ความตาย...
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเราเป็นคนไม่โรแมนติกเลยเราเคยมีความรักที่แสนแย่กับคนเก่ามาแล้วเราโดนนอกใจเราโดนปล่อยให้เหงาเศร้าและสู้เพียงลำพังเลิกกับแฟนคนเก่ากว่าจะทำใจได้ก็ยากมากวันนึงเราเลยตัดสินใจหาไรทำกับเพื่อนเพื่อไม่ให้ฟุ้งซ่านเลยตกลงจะขายของกันธุรกิจเริ่มมาได้พักใหญ่ขายของเป็นการขายอาหารตอนกลางคืนลูกค้าผุ้ชายก็จะเข้ามาคุยตลอดแต่ด้วยความที่เราลืมแฟนเก่ายังไม่ได้เลยยังไม่ได้สนใจอะไรเน้นขายของและกินเหล้าอย่างเดียวเลยค่ะจะได้หมดๆวันไปนานวันเข้าจนวันนึงมีลูกค้าคนนึงคนนี้จะมาแปลกกว่าคนอื่นจะมายิ้มหวานๆอยู่หน้าร้านมาซื้อของกินจากร้านเราทีละเยอะๆมาแทบทุกวันมาแล้วก็มายิ้มทำแบบวนไปวนมาจนเค้าน่าจะใจกล้าแหละมั้งเลยมาขอเบอร์ไอ้เราก็เล่นตัวพร้อมอยากขายของได้เยอะๆก็เลยบอกพี่เค้าไปว่าอยากได้เบอร์ก็ต้องมาซื้อของวันไหนมาก็จะได้ไป1 ตัวเค้าก็มานะมาซื้อวันนึงก็ได้ไป1 ตัว( น่าสงสาร) วนๆไปแบบนี้จนเหลือ4 ตัวสุดท้ายวันนั้นเป็นวันที่แฟนเด่าเรามานั่งกินข้าวแล้วเจอกันมาคุยกับเรายอมรับว่าใจหวั่นไหวมากเฮ้อ!!! ส่วนพี่ลูกค้าเค้าก็ยังมาหาตามปกติแต่สำหรับวันนี้มันไม่ปกติเพราะเราอ่อนไหวอยู่ไงเลยย้อมใจกินเหล้าให้เมาพอพี่เค้าเดินมาหามาหาตามปกติของเค้าอ่ะนะเราดันไล่เค้าไป“ พี่ไม่ต้องมายุ่งกะหนูได้ปะจะไปไหนก็ไปแล้วไม่ต้องมาอีกไม่เอาไม่ชอบไม่ต้องมายุ่ง“ สุดท้ายพี่เค้าก็หายไปจริงๆอืมมแต่ชั่งเหอะก็ตอนนั้นเรายังไม่สนใจอะไรเค้ามากไงวันเวลาล่วงเลยมาหลายเดือนงานประจำเราก้เริ่มเยอะขึ้นไม่ค่อยมีเวลาขายของแล้วอีกอย่างคือต้องไปอยรมที่กรุงเทพบ่อยๆเลยต้องขอถอนหุ้นร้านนั้นกับเพื่อนระหว่างนั้นมันเข้าสู่ช่วงเดือนพฤศจิกายนละหน้าหนาวเทศกาลลอยกระทงไงเหงามากเศร้ามากแต่ทำไงได้เนอะเลือกเยอะ🤣สมน้ำหน้าตัวเอง
นับวันวนไปนับเดือนวนไปอีกจนมาถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของปีพ.ศ.ใหม่แล้วนะวันนึงเรามีโอกาสได้ไปเยือนร้านของเพื่อนที่เคยหุ้นกันเพิ่อไปsurprise วันเกิดนั่งกินข้าวกินเค้กกันตามประสาแต่อยู่ๆมีผู้ชายคนนึงเดินเข้ามาทักตกใจมาก!! เค้าคือพี่ลูกค้าคนที่เราไล่เค้าไปครั้งก่อนเค้ามาเหมือนกันและเค้ายังบอกด้วยว่าตั้งวันนั้นก็แอบมาหาอีกแต่ไม่เจอวันนี้เลยตั้งใจจะมาอีกครั้งถ้าไม่เจอคงถอยแล้วจริงๆแต่คุณพระดันมาเจอกันพอดีจากนั้นเราก็เลยได้มีโอกาสได้แลกFB กันและเริ่มได้ลองคุยกันเราเริ่มจะศึกษากันคือวันที่14 กุมภาพันธ์59 ความสัมพันธ์เราเริ่มพัฒนาขึ้นเรื่อยๆเค้าดูแลเอาใจใส่ดีมากๆจนวันนึงคุณพ่อประสบอุบัติเหตุต้องเข้ารพ. ช่วงเดือนเมษายน59 พอเค้ารู้เค้าก็ไม่อิดออดที่จะมาเยี่ยมและอยู่ดูแลพ่อกับเราเลย เค้าเอาใจใส่เราและครอบครัวอย่างดีมากๆอย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะมีใครทำให้ขนาดนี้เลยเหรอแต่เนาะเราไม่ได้วางใจหรอกคบกันใหม่ๆอะไรก็คงดีเราคิดแบบนั้น
จนเวลาล่วงเลยมาเรื่อยๆเรื่อยๆ1 ปี2 ปีระหว่างนั้นเราเอาแต่ใจมากบอกเลิกเค้าทำเค้าสารพัดคือเค้าเป็นคนดีมากๆไงแล้วเราอ่ะไม่ได้เป็นคนดีอะไรเลยเอาแต่ใจเหมือนไม่มีอะไรที่เหมาะกับเค้าว่าเค้างอนเค้าสารพัดแต่ลึกๆเรารักเค้ามากเลยนะแต่ด้วยนิสัยไม่ดีแบบนี้ไงเลยไม่กล้าที่จะคบกับเค้าต่อแต่เค้าก็ยังอยู่ยังดีกับเราคอยเตือนสติเราว่าอย่าเอาแต่ใจมากเค้าไม่ไปไหนเค้าจะอยู่กับเราเค้ารักเราเพราะเราเป็นรักสุดท้ายของเค้าแล้วเค้าอยากดูแลเราอยากแต่งงานกับเรามันจุกทุกคำพุดที่เค้าได้พูดออกมาหลังจากนั้นเราก็เริ่มปรับตัวใหม่เริ่มใจเย็นลงเริ่มทำตัวเป็นแฟนที่น่ารักกับเค้าเราตัวติดกันตลอดค่ะไปไหนมาไหนด้วยกันกินนอนเล่นทำทุกActivity ด้วยกันหมดและplan ว่าจะแต่งงานกันปี63ระหว่างนั้นก็งอนบ้างนิดๆหน่อยๆนะแฮ่ๆนิสัยไม่ดีเลย จนล่วงเลยมาปีที่3 ปีนี้มันเป็นปีที่เป็นจุดเปลี่ยนสำหรับเรา
เค้าเริ่มบ่นปวดหลังเลยพากันไปหาหมอแต่คำตอบคือกล้ามเนื้ออักเสบก็ได้ยามากินกินมาพักใหญ่ความเจ็บก็ไม่เคยทุเลาลงเลยจน30 มกราคม61 เลยชวนเค้าไปxray ดูปรากฏว่าเจอสิ่งผิวปกติที่หลังจนทางรพ.เค้าต้องส่งไปct scan รพ.ที่เค้ามีสิทธิ์การรักษาที่เบิกได้
ช่วงเดือนมากราคมต้นปีเราก็รอลุ้นผลตรวจบวกกับอาการเจ็บของเค้าก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆจนวันนึงผลตรวจออกมาปรากฏว่าเค้าเป็น“มะเร็ง” เราช็อคนะแต่ด้วยความที่กลัวแฟนเราคิดมากเลยต้องทำใจดีสู้ให้กำลังใจและคอยปลอบแต่เค้าดูok ค่ะดูไม่คิดมากแต่เราอยู่ด้วยกันตลอดเราดูออกแหละค่ะว่าลึกๆเค้าคงคิดอะๆรเยอะไปหมดแน่ๆตั้งแต่นั้นมาเค้าก็ได้เริ่มรักษาด้วยการฉายแสงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ระหว่างนั้นเราก็ไปอยู่ไปเฝ้าไปให้กำลังใจหาของกินเพื่อสุขภาพทำน้ำผักผลไม้ปั่นให้เค้ากินตลอดพยายามดูแลและอยู่ข้างๆตลอดทุกๆวันทำแบบนี้จนถึงเดือนเมษายนที่ต้องนัดผ่าตัดเรานอนไม่หลับเราตื่นเต้นกังวลกลัวไปหมดค่ะไหว้พระขอพรบนบานศาลเกล้าให้เค้าปลอดภัยก่อนผ่าตัดเค้าร้องไห้กับเราแล้วถามเราว่า“เธอฉันจะหายมั้ย?” โถเธอจ๋าเธอต้องหายแน่นอนเธอเก่งเธอแข็งแรงเธอต้องหาย
9 ชั่วโมงสำหรับการผ่าตัดเอาชิ้นเนื้อออกเรากับน้องๆและแม่เค้าเฝ้าหน้าห้องผ่าตัดลุ้นทุกเวลานาทีจนคุณหมอออกมาบอกว่าชิ้นเนื้อเอาออกได้ไม่หมดเพราะคิดส่วนสำคัญของร่างกายเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตมากแต่การผ่าตัดผ่านไปด้วยดีคนไข้ปลอดภัยทุกคนดีใจค่ะแต่มันดีใจไม่สุดเพราะตัวก้อนออกไม่หมดและยังต้องผ่าตัดใส่กระดูกเทียมและเหล็กดามไขสันหลังอีกสงสารแฟนมากเพราะต้องเจ็บแล้วเจ็บอีกระหว่างออกห้องผ่าตัดเค้าเจ็บมากปวดมากต้องเทคมอร์ฟีนหนักๆและยาแก้ปวดจำนวนเยอะๆเพื่อบรรเทาเรากับน้องสาวเค้าทำอะไรไม่ได้เลยได้แค่ปลอบและคอยเฝ้าให้กำลังใจสุดๆ
เวลาล่วงเลยประมาณ2 อาทิตย์หมอแจ้งว่าได้คิวผ่ากระดูกแล้วเฮ้อเจ็บอีกแล้วสินะการผ่าตัดรอบนี้เร็วกว่าเดิมใช้เวลาประมาณ4-5ชม. ก็เสร็จเรากับน้องสาวเค้าก็ยังคอยเฝ้าลุ้นอยู่ทุกครั้งหลังจากออกมาพักฟื้นหลังผ่าตัดครั้งที่2 เสร็จคราวนี้เค้าปวดกว่าเดิมเพราะกระดูกเนอะเอาเหล็กเข้าไปดามมันคงทรมานสุดๆคราวนี้ต้องเทคมอร์ฟีนส์ดิบเพื่อบรรเทาอาการแต่นั้นยังไม่จบค่ะเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดปอดมีอาการแฟ่บมีพังพืดเกาะมีลิ่มเลือดในปอดจึงต้องผ่าตัดจัดการกับปอดอีก1 ครั้งขนาดเราเรายังท้อเรายังแย่แล้วความรู้สึกเค้าหละจะขนาดไหนเรากับน้องสาวเค้าและแม่ก็ได้แต่ใจแข็งปลอบให้กำลังใจแต่ภายในของเราทั้งหมดสงสารเสียใจและแอบร้องไห้กันอยู่บ่อยๆล่วงเลยเดือนกว่าจะ2 เดือนแล้วเค้าเริ่มหัดเดินฝึกขยายปอดอาการเหมือนดีขึ้นมากๆค่ะแต่ว่าเริ่มมีไข้ถี่ขึ้นจนหมอแจ้งว่าเค้าติดเชื้อแลปอดเริ่มยังขยายไม่ดีมีพังผืดต้องไปผ่าตัดอีกพระเจ้าอะไรจะแย่ไปกว่านี้อีกสุดสงสารแฟนมากๆแอบร้องไห้ตลอดไม่อยากให้เค้าเห็นเพราะเค้าก็สู้ๆสุดๆเอาหละผ่าก็ผ่าแต่ครั้งนี้โชคไม่ดีหลังผ่าตัดเสร็จครั้งที่4 ห้องicu มีการระบาดของเชื้อโรคดื้อยาแฟนซึ่งได้รับการผ่าตัดมาหมาดๆร่างกายอ่อนแออยู่แล้วจึงสันณิษฐานว่าจะติดเชื้อโรคนี้จึงถูกย้ายไปห้องสังเกตุการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อเรากับน้องสาวเค้าก็ยังทำหน้าที่นอนเฝ้าและดูแลอยุ่ไม่ห่างเช่นเดิม จนมาถึงวัน6 มิ.ย. 62 ที่ผ่านมากลางวันเราออกมาทำงานกติน้องสาวโทรมาบอกว่าแฟนเราเหนื่อยหอบมากต้องกลับไปห้องicu เพื่อใส่ท่อช่วยหายใจอีกครั้งเราใจหายมากตกใจสงสารแฟนทำอะไรไม่ถูกค่ะตกเย็นเลยรีบมาหาที่รพ.เราเห็นสภาพแฟนแล้วสงสารเค้าที่สุดคิดแค่ว่าทำไมคนดีๆแบบเค้าต้องมาทรมานซ้ำแล้วซ้ำอีกแบบนี้
จุดเปลี่ยนเริ่มแล้วค่ะอาการของแฟนเริ่มแย่ลงแย่ลงเพราะเชื้อโรคที่อยู่ในตัวเค้ามันดื้อยายาตัวไหนก็ไม่ทำปฏิกิริยากับเชื้อโรคเลยพูดก็ไม่ได้เพราะเครื่องช่วยหายใจติดคาปากได้แค่เขียนสื่อสารกันเค้าเริ่มเบลอรู้จักหมดค่ะว่าใครเป็นใครแต่การสั่งการบางอย่างมันไม่เหมือนเดิมเริ่มเขียนไม่เป็นคำเขียนคำงงๆจนสุดท้ายหมอบอกว่าเค้าต้องเจาะคอนะไม่งั้นหลอดลมจะตีบไม่ดีกับตัวคนไข้ญาติๆก็okทำเถอะเพื่อให้เค้าได้ดีขึ้นแต่ด้วยความที่ร่างกายเค้าอ่อนแอยู่แล้วจากดีขึ้นมันกลับเลวร้ายลงทุกวันเค้าไม่ค่อยฟื้นความดันตกหัวใจเต้นเร็วมากเพราะได้ยากระตุ้นความดันเค้าหลับเค้าไม่ฟื้นมาดูอะไรเลยจนวันที่3 ของการเจาะคอเค้าลืมตามามองหน้าเราเราดีใจมากเลยบอกให้เค้ายิ้มเค้ายิ้มหวานให้เรามากๆเลยค่ะและเค้าก็หลับไป
จนวันที่ไม่คาดคิดก็มาถึงวันที่หมอนัดคุยกับญาติๆเพื่อสรุปอาการของแฟนหมอแจ้งว่าตอนนี้ร่างกายเค้าไม่ตอบสนองกับนาแล้วอยู่ได้เพราะเครื่องช่วยหายใจพอได้ฟังเราทุกคนต่างปล่อยโฮกันแบบไม่อายหมออายใครอีกเลยมันเป็นฝันร้ายใช่มั้ยทำไมมันต้องเกิดขึ้นกับแฟนเรากับคนดีๆรักครอบครัวแบบนี้สุดท้ายแล้วเค้าก็ต้องมาจากเราไปจริงๆเมื่อวันที่2 ก.ค.62 เสียเค้าไปอย่างไม่มีวันกลับอีกเลย
หลังจากนั้นช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาเราจัดงานศพให้เค้าอย่างดีและสมเกียรติที่สุดตลอดเวลา2 เดือนกว่าที่เค้ารักษาตัวเรากับน้องสาวก็อยู่ดูแลเค้าอย่างเต็มที่ที่สุดงานเราพยายามทำให้ออกมาดีมากที่สุดเพื่อเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราจะตอบแทนความรักที่เค้าเคยมอบให้ หวังว่าเธอคงรับรู้ถึงความรักและความตั้งใจที่ทำเพื่อเธอนะคะ🖤
ตอนนี้ครบ7 วันที่เราไม่เจอหน้าแฟนไม่ได้กอดไม่ได้จับมือเค้าเราคิดถึงเค้ามากเราร้องไห้ทุกเวลามันคงยากทำใจและต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนที่จะเข้มแข็งอีกครั้งเธอจ๋าฉันรู้ว่าเธอไม่เจ็บไม่ทรมานแล้วเพราะเธอทำบุญเยอะเธอคนดีมากๆดูแลบุพการีและคนรักอย่างดีเธอคงไปอยู่ในภพภูมิที่ดีแล้วนะคะ
ส่วนฉันก็ยังคงรักและจะเก็บความทรงจำแสนดีนี้ไปตลอดชั่วชีวิตค่ะรักเธอนะรักมากที่สุดในหัวใจ( คนที่มีความรักที่ยังอยู่ด้วยกันอยากฝากไว้ให้ทำดีต่อกันมากๆรักกันเยอะๆชีวิตมันสั้นค่ะการจากเป็นมันยังมีโอกาสได้เห็นแต่การจากตายจะไปหาที่ไหนอีกคงไม่มีคงไม่เจอ)
***สุดท้ายแล้วขอขอบคุณเว็บพันทิปที่ให้พื้นที่ได้ระบายความเศร้าและช่วยบรรเทาความเหงาลงได้บ้างค่ะผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ
ตอบส่งต่อ