มนุษย์เงินเดือนอย่างเราสองคนหลังจาก ทำงานหนักๆ วุ่นวายๆ ในเมืองกรุง พร้อมกับฝุ่นที่หนาแน่นมานานหลายเดือน ก็ได้เวลาหนีความวุ่นวายไปสูดลมหายใจให้เต็มปอด เพื่อเป็นการชาร์ตแบต รีบูทร่างกายของเราอีกครั้ง...
----------------------------------------------------------------
ก่อนจะไปชมภาพ เรามาสรุปค่าเสียหายกันก่อน
ทริป 4 วัน 3 คืน
ค่าตั๋วเครื่องบิน 400 บาท (สำหรับ 2 คน) เสียค่ากระเป๋าเพิ่ม 400 บาทเท่านั้น
ค่าเช่ารถ ตกวันละ 575 บาท (รถขนาด 1.5 Auto)
** ในส่วนคูปอง อันนี้แนะนำให้ไปหาซื้อคูปองเช่ารถ พวก Avis Budget ที่งานพวก ททท. จะถูกกว่าไปจองใกล้ๆ ที่นั่นนะ เราซื้อโปรแบบซื้อ 5 แถม 1 ใบละ 690 บาท
----------------------------------------------------------------
ค่าที่พัก และรายละเอียดกันบ้าง
** เครดิตภาพจากเว็บของทางที่พัก
บีทู ปาย พรีเมียร์ โฮเต็ล (B2 Pai Premier Hotel) 1,344.50 บาท ที่นี่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากถนนคนเดินตรงตัวเมืองปายไม่ไกลมาก ถือว่าทำเลใช้ได้ และตัวรีสอร์ทเองก็เงียบสงบดีมากๆค่ะ
** เครดิตภาพจากเว็บของทางที่พัก ชาสารักไทย
ชาสารักไทย 2,000 บาท (รวมอาหารเช้า) จริงๆ เราแพลนจะมาพักที่ ลีไวน์รักไทย รีสอร์ท แต่ห้องพักเต็มหมดในช่วงที่เราไป เราเลยสอบถามข้อมูลจากคนที่บ้านลุงปาละ เกสท์เฮ้าส์ เค้าแนะนำที่นี่เพราะอยู่ใกล้ๆกับ ร้านกาแฟลีไวน์รักไทย ที่เราอยากจะไปถ่ายรูปในตอนเช้า ที่นี่ถือว่าใช้ได้เลยแหละ เผื่อเป็นตัวเลือกสำหรับใครหลายๆคนอยากจะมาพักแถวๆ นั้น เพราะจริงๆ เราว่ามันก็คล้ายๆ กันนะ
** เครดิตภาพจากเว็บของทางที่พัก ลุงปาละเกสท์เฮ้าส์ บ้านป่าไผ่
ลุงปาละ เกสท์เฮ้าส์ 1,500 บาท (รวมอาหารเช้าแล้ว) อันนี้เราพักในส่วนของบ้านป่าไผ่ ซึ่งที่นี่จะพักอยู่ด้านนอกอุทยานปางอุ๋ง แต่ห่างจากที่อุทยานไม่ไกลมาก ประมาณ 200 เมตรก็ถึงอุทยานแล้ว
เมื่อพร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันเลย....
ครั้งนี้เราแพลนโดยนั่งเครื่องมาลงที่เชียงใหม่ และเดินทางต่อโดยรถเช่าเพื่อมุ่งหน้าสู่แม่ฮองสอนกันเลย
สถานีแรกของเราก็คือ ปาย นั่นเอง
----------------------------------------------------------------
เมื่อเดินทางมาได้พักใหญ่ๆ หลังจากผ่านมาหลายโค้งนั่น อยู่ๆก็เห็นป้ายข้างทาง ที่เขียนไว้สะดุดตาว่า จุดพักอ้วก ซึ่งมันเป็นช่วงพักที่เหมาะมากจิงๆ เพราะ ถ้าไม่พักจุดนี้ ก็คงจะอ้วกจิงๆแน่ๆ ตรงจุดพักมีต้นไม้สีชมพูเด่นอยู่หลายต้น ก็ระหว่างพักผ่อนให้หายมึน เราก็เก็บภาพไปเรื่อยๆ
ตรงหน้าห้องน้ำมีแมวตัวอ้วนๆ นอนอยู่เล่นยังไงก็ไม่ตื่น ใครผ่านไปมาจะเสียงดังแค่ไหนก็หลับสนิท 555 เลยแชะภาพมา 1 รูป
----------------------------------------------------------------
>> ปาย
หลังจากเดินทางกันมา หยุดๆพักๆ เล่นๆ ระหว่างทางไปเรื่อยๆ ในที่สุดเราก็มาถึงปาย แต่เนื่องจากเรามาถึงก็เย็นมากๆแล้วพร้อมกับเหนื่อยเดินทาง เลยเดินเล่นกันชิวๆ ที่ถนนคนเดิน
----------------------------------------------------------------
>> จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล
ที่นี่เป็นอีกที่ๆ ในอำเภอปาย ที่ใครที่มาเที่ยวปายแล้ว ก้ต้องไม่พลาดที่จะขึ้นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นกัน
ซึ่งวันนี้เราตื่นกันตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อเดินทางมาที่นี่ ซึ่งการเดินทางขึ้นมาชมวิวด้านบน เราจะต้องต่อรถที่เค้าให้บริการอยู่ขึ้นไป ซึ่งค่าบริการจะอยู่คนละ 30
ช่วงเวลาที่แนะนำให้ขึ้นไปชม คือ ตั้งแต่ 6 โมงเช้า - 7 โมงเช้า
----------------------------------------------------------------
บ้านจ่าโบ่
ที่นี่เหมือนเป็นชุมชนเล็กๆ แต่กลับมีนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปผ่านมา ไม่ว่าจะไปปาย หรือไปปางอุ๋ง บ้านรักไทย ต้องมาแวะทานข้าวกันที่นี่กันเยอะ เราเองก็เช่นกัน ทริปนี้เราแวะทั้งขาไป และขากลับกันเลย สิ่งที่ห้ามพลาดเลยของที่นี่ คงหนีไม่พ้น ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ่ เป็นร้านเล็กๆ ที่อยู่ในย่านนั้น แต่เป็นจุดชมวิวที่เรียกได้ว่าดีงามพระราม 9 กันเลยทีเดียว รวมไปถึงก๋วยเตี๋ยวก็อร่อยจนต้องสั่งเพิ่ม และกลับมาใหม่ และอีกอย่างนึงที่อร่อยไม่แพ้กันคือกาแฟ กับโกโก้เย็นของที่นี่ รสชาติดีงาม
ส่วนอีกร้านที่อร่อยไม่แพ้กันเช่นกัน คือร้าน Dekdoi coffee ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ่ คือขากลับ เรามีได้แวะไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านบ้านจ่าโบ่อีกรอบ และบังเอิญร้านกาแฟในร้านก๋วยเตี๋ยวปิด เลยเดินถัดไปจากร้านก๋วยเตี๋ยวมาเจอร้าน Dekdoi coffee ซึ่งเป็นร้านที่วิวสวยไม่แพงกันเลยแหละ รสชาติกาแฟกับโกโก้เย็นก็อร่อยพอๆกันเลย
ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ราคาอยู่ที่ 30-40 บาท
กาแฟ / โกโก้ ราคาอยู่ที่ 40 บาทขึ้นไป
----------------------------------------------------------------
บ้านรักไทย
พูดถึงที่นี่คงหนีไม่พ้นร้าน Lee wine coffee ซึ่งที่นี่ เรามาเก็บภาพกันตั้งแต่เช้าตรู่เลย เพราะช่วงสายๆ คนจะเยอะมาก ใครที่อยากมาเก็บภาพ ชมบรรยากาศสวยๆ สายหมอกที่รอบล้อมด้วยภูเขา ทะเลสาบ และแสงสะท้อน คือดีจนบรรยายไม่ถูก ให้ภาพบอกเล่าบรรยากาศแทนแล้วกันค่ะ
ต้องบอกว่าชอบที่นี่มากๆ ถึงมากที่สุด บรรยากาศตอนเช้าคือหนาวมากๆ อากาศดีมากๆ สมกับที่ตั้งใจมาสูดลมหายใจให้เต็มปอดอย่างแท้ทรู รูปก็จะเยอะหน่อยตามความชอบตามความชอบ 555
----------------------------------------------------------------
ปางอุ๋ง
เมื่อถ่ายรูปจนเต็มอิ่มแล้ว ก็พร้อมออกเดินทางกันต่อ จุดหมายถัดมาของเรา ปางอุ๋ง ที่นี่อากาศก็ดีอีกเช่นกัน รวมไปถึงบรรยากาศโดยรอบๆของที่นี่ สงบมากๆ ในช่วงเช้า สวยมาก รวมไปถึงตอนกลางคืนเราสามารถมองเห็นดาวระยิบระยับด้วยตาเปล่าๆ เราเป็นจำนวนเยอะมากๆ
[CR] >>หนีฝุ่นในเมืองกรุง ไปสูดลมหายใจให้เต็มปอดที่แม่ฮองสอน
ทริป 4 วัน 3 คืน
ค่าตั๋วเครื่องบิน 400 บาท (สำหรับ 2 คน) เสียค่ากระเป๋าเพิ่ม 400 บาทเท่านั้น
ค่าเช่ารถ ตกวันละ 575 บาท (รถขนาด 1.5 Auto)
** ในส่วนคูปอง อันนี้แนะนำให้ไปหาซื้อคูปองเช่ารถ พวก Avis Budget ที่งานพวก ททท. จะถูกกว่าไปจองใกล้ๆ ที่นั่นนะ เราซื้อโปรแบบซื้อ 5 แถม 1 ใบละ 690 บาท
ครั้งนี้เราแพลนโดยนั่งเครื่องมาลงที่เชียงใหม่ และเดินทางต่อโดยรถเช่าเพื่อมุ่งหน้าสู่แม่ฮองสอนกันเลย
สถานีแรกของเราก็คือ ปาย นั่นเอง
หลังจากเดินทางกันมา หยุดๆพักๆ เล่นๆ ระหว่างทางไปเรื่อยๆ ในที่สุดเราก็มาถึงปาย แต่เนื่องจากเรามาถึงก็เย็นมากๆแล้วพร้อมกับเหนื่อยเดินทาง เลยเดินเล่นกันชิวๆ ที่ถนนคนเดิน
ที่นี่เป็นอีกที่ๆ ในอำเภอปาย ที่ใครที่มาเที่ยวปายแล้ว ก้ต้องไม่พลาดที่จะขึ้นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นกัน
ซึ่งวันนี้เราตื่นกันตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อเดินทางมาที่นี่ ซึ่งการเดินทางขึ้นมาชมวิวด้านบน เราจะต้องต่อรถที่เค้าให้บริการอยู่ขึ้นไป ซึ่งค่าบริการจะอยู่คนละ 30
ช่วงเวลาที่แนะนำให้ขึ้นไปชม คือ ตั้งแต่ 6 โมงเช้า - 7 โมงเช้า
ที่นี่เหมือนเป็นชุมชนเล็กๆ แต่กลับมีนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปผ่านมา ไม่ว่าจะไปปาย หรือไปปางอุ๋ง บ้านรักไทย ต้องมาแวะทานข้าวกันที่นี่กันเยอะ เราเองก็เช่นกัน ทริปนี้เราแวะทั้งขาไป และขากลับกันเลย สิ่งที่ห้ามพลาดเลยของที่นี่ คงหนีไม่พ้น ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ่ เป็นร้านเล็กๆ ที่อยู่ในย่านนั้น แต่เป็นจุดชมวิวที่เรียกได้ว่าดีงามพระราม 9 กันเลยทีเดียว รวมไปถึงก๋วยเตี๋ยวก็อร่อยจนต้องสั่งเพิ่ม และกลับมาใหม่ และอีกอย่างนึงที่อร่อยไม่แพ้กันคือกาแฟ กับโกโก้เย็นของที่นี่ รสชาติดีงาม
ส่วนอีกร้านที่อร่อยไม่แพ้กันเช่นกัน คือร้าน Dekdoi coffee ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ่ คือขากลับ เรามีได้แวะไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านบ้านจ่าโบ่อีกรอบ และบังเอิญร้านกาแฟในร้านก๋วยเตี๋ยวปิด เลยเดินถัดไปจากร้านก๋วยเตี๋ยวมาเจอร้าน Dekdoi coffee ซึ่งเป็นร้านที่วิวสวยไม่แพงกันเลยแหละ รสชาติกาแฟกับโกโก้เย็นก็อร่อยพอๆกันเลย
ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ราคาอยู่ที่ 30-40 บาท
กาแฟ / โกโก้ ราคาอยู่ที่ 40 บาทขึ้นไป
พูดถึงที่นี่คงหนีไม่พ้นร้าน Lee wine coffee ซึ่งที่นี่ เรามาเก็บภาพกันตั้งแต่เช้าตรู่เลย เพราะช่วงสายๆ คนจะเยอะมาก ใครที่อยากมาเก็บภาพ ชมบรรยากาศสวยๆ สายหมอกที่รอบล้อมด้วยภูเขา ทะเลสาบ และแสงสะท้อน คือดีจนบรรยายไม่ถูก ให้ภาพบอกเล่าบรรยากาศแทนแล้วกันค่ะ
ต้องบอกว่าชอบที่นี่มากๆ ถึงมากที่สุด บรรยากาศตอนเช้าคือหนาวมากๆ อากาศดีมากๆ สมกับที่ตั้งใจมาสูดลมหายใจให้เต็มปอดอย่างแท้ทรู รูปก็จะเยอะหน่อยตามความชอบตามความชอบ 555
เมื่อถ่ายรูปจนเต็มอิ่มแล้ว ก็พร้อมออกเดินทางกันต่อ จุดหมายถัดมาของเรา ปางอุ๋ง ที่นี่อากาศก็ดีอีกเช่นกัน รวมไปถึงบรรยากาศโดยรอบๆของที่นี่ สงบมากๆ ในช่วงเช้า สวยมาก รวมไปถึงตอนกลางคืนเราสามารถมองเห็นดาวระยิบระยับด้วยตาเปล่าๆ เราเป็นจำนวนเยอะมากๆ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้