ก่อนจะเข้ารีวิว ขอตะโกนดังๆ หน่อยนะครับว่า "Turn Around, Look At What You SEEEEEEEEEEEEEEEEEEEE!!!"(555)

     ซีซั่นนี้จัดเต็มกว่าซีซั่นที่ผ่านมามากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ครับ ความมันส์นี่เต็มแม็กซ์ ความลุ้นก็เต็มสูบจริงๆ ใครที่ชอบอะไรลุ้นๆ มันส์ๆ รีบดูเลยครับ ไม่ผิดหวังแน่นอน

     ปี 1985 เมืองฮอว์กินส์ถูกปลุกให้คึกคักด้วยการมาของห้างสตาร์คอร์ต แหล่งบันเทิงใหม่ของเหล่าวัยรุ่น และในขณะเดียวกันภัยร้ายจากสัตว์ประหลาดต่างมิติก็เริ่มคืบคลานและรุกรานเมืองฮอว์กินส์ จน วิล ไมค์ ลูคัส ดัสติน และ แอล ต้องผนึกกำลังกับครอบครัวของพวกเขาเพื่อหาทางหยุดภัยร้ายก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป

     "มันส์มากเลยคร้าาบบบท่านผู้โช้มมมมมมมมม!!!" คือความรู้สึกแบบสั้นๆ ที่ผมมีต่อซีซั่นนี้ นี่คือซีรี่ส์ที่มีองค์ประกอบยอดเยี่ยมไปหมดเลยครับไม่ว่าจะเป็นบทที่เคี่ยวมาดี การดำเนินเรื่องที่น่าติดตามมากๆ หรือว่าการแสดงที่ยอดเยี่ยมของเหล่านักแสดง ถ้าจะให้พูดถึงมีอะไรให้พูดถึงเยอะมากครับ อ้อ! และแน่นอน รีวิวนี้มีสปอยเด้อจ้า ใครที่ยังไม่ดูไปดูก่อนแล้วค่อยมาอ่านก็ได้นะ

     ผมว่าโจทย์ของซีซั่นนี้ค่อนข้างยากครับ เพราะว่าซีซั่นก่อนๆ ปล่อยของค่อนข้างมาก และเนื่องด้วยมันสดมาก ฉะนั้นการทำซีซั่นนี้ให้ออกมาสนุกมันทำยากครับ ยกตัวอย่างซีรี่ส์เรื่องต่างๆ ที่ประสบกับโจทย์เดียวกันเช่น Pretty Little Liars ที่ซีซั่นแรกๆ น่าชื่นชมมากๆ แต่หลังๆ มาเริ่มวนในอ่างและไม่มีอะไรใหม่, 13 Reasons Why ที่ซีซั่นสองไม่มีอะไรใหม่ หรือว่าล่าสุดกับ Game Of Thrones ที่หาทางลงได้ไม่ถูกใจแฟนเสียเท่าใหร่ แต่กับ Stranger Things กลับกลายเป็นสิ่งที่ต้องยินดีกับผกก. ที่ยังสรรค์หามุขใหม่ๆ มาให้เราได้ชมได้อีกทั้งๆ ที่ซีซั่นที่ผ่านมามันน่าจะหมดมุขแล้ว ถือว่าสองพี่น้องดัฟฟเฟอร์ฝีมือไม่ธรรมดาครับ

     สิ่งที่ซีซั่นนี้ยังทำได้ดีก็คือ"การพัฒนาตัวละคร"ครับ เปิด Episode มาก็นับว่าเปิดประเด็นน่าสนใจละ ไม่ว่าจะเป็นปมการเลี้ยงดูแอลของฮอปเปอร์, ความสัมพันธ์ของไมค์กับแอล, ความสัมพันธ์ของฮอปเปอร์กับจอยซ์, ชีวิตใหม่ของโจนาธานกับแนนซี่(ดรูวส์), ห้างที่เปิดใหม่, งานใหม่ของสตีฟ ฯลฯ ซึ่งแต่ละปมนั้นก็มีผลกับการ "เติบโตของเด็กๆ" ซึ่งการแสดงของดาราทุกคนยอดเยี่ยมครับ โดยเฉพาะน้อง Brown ที่ปล่อยของจัดเต็มมากครับ ยอดเยี่ยมขนาดเข้าชิง Golden Globe สาขานักแสดงนำหญิงในลิมิเต็ดซีรี่ส์ได้เลย และเราจะได้เห็นทุกอย่างที่เราเคยเป็นในสมัยวัยรุ่น(ที่กำลังเห่อฮามอย) และอันที่โดนใจผมมากก็คือ "การแง้มประตู 3 นิ้ว" กับ "การบอกเลิก" แน่นอนว่าใครที่เคยเป็นวัยรุ่นแล้วต้องกลายมาเป็นพ่อคนแม่คนต้องประสบกับปัญหานี้เหมือนกันแน่นอน555

     และผมชอบการเปิดตัวตัวละครใหม่ในซีซั่นนี้นะ อย่าง "เอริก้า" ที่ซีซั่นนี้มีบาทมากขึ้นและเรียกเสียงฮาจากผมได้ไม่น้อย(ผมยังขำกับสำเนียงน้องและมุขลิตเติ้ล โพนี่ไม่หายเลยเนี่ย555) หรือว่าตัวละคร "โรบิน" ที่เป็นตัวละครที่ผมชอบมากที่สุดในซีซั่นนี้ เธอไม่ใช่ตัวละครวัยรุ่นในหนังสยองขวัญดาดๆ ที่มัวแต่กรี้ดๆๆๆ กับสร้างปัญหาให้คนอื่น แต่เธอเป็นตัวละครที่ฉลาดและไหวพริบดีมากๆ และปูมหลังของเธอก็เล่นกับอารมณ์คนดูได้ผลชงัดเลย ซึ่งการแสดงของ Hawke ก็ทำให้เราตกหลุมรักตัวละครนี้จนได้ครับ

     แต่ปมที่ผมว่าน่าสนใจมากและหวังว่าซีซั่นหน้าจะหยิบเอาปมนี้มาเล่นก็คือปมของ "วิล" ผมว่าซีซั่นนี้บทของวิลไม่ค่อยเด่นสักเท่าไหร่ เพราะสองซีซั่นที่ผ่านมานั้นเป็นซีซั่นของวิลเลย แต่ว่าในซีซั่นนี้ก็ได้มีการหยอดปมของเขามาแล้วเล็กน้อยจากคำพูดของไมค์ที่พูดว่า "ไม่ใช่ความผิดฉันที่นายไม่สนใจผู้หญิง"  อันนี้ตีความได้สองแบบคือไมค์อาจจะหมายความว่าวิลไม่คิดจะหาแฟนสักคนเหมือนเพื่อน หรือถ้าคิดอีกแบบก็อาจหมายความว่าวิลอาจจะไม่ได้สนใจผู้หญิงแบบที่ไมค์พูดจริงๆ ก็หวังว่าซีซั่นหน้าจะมีการขยายปมให้ชัดเจนขึ้นครับเพราะว่าปมนี้ก็น่าสนใจไม่ใช่น้อยเลย

     ในส่วนของการดำเนินเรื่องก็จัดว่าน่าติดตามครับ สาม Episode แรกก็จะค่อยๆ หยอดปมมาเรื่อยๆ ก่อนจะมาเริ่มตื้นเต้นขึ้นเรื่อยๆๆๆๆๆ ใน Episode 4,5,6 และมาบูมกับไคล์แมกซ์ใน Episode 7 กับ 8 ซึ่งไคล์แมกซ์ถือว่า "ยิ่งใหญ่อลังการสมการรอคอยครับ" และผมว่าผมชอบฉากไคล์แมกซ์เรื่องนี้ไล่เลี่ยกันกับไคล์แมกซ์ของ Avengers: Endgame ด้วยนะ ผมว่ามันจัดเต็มทุกอารมณ์เลยทั้งมันส์(ฉากในห้าง) ทั้งลุ้น(ฉากที่เด็กๆ สู้กับเอเลี่ยน) ทั้งเศร้า(ฉากการตายของบิลลี่และฮอปเปอร์) และซีรี่ส์ก็แทรกอารมณ์เหล่านี้เข้ามาในจังหวะที่ถูกต้อง ไม่ยัดเยียด ไม่เล่นใหญ่ แต่ว่าได้ผลชงัด ใครที่ตามมาทั้งสามซีซั่นมีร้องไห้แน่นอน(ผมแหละคนนีง555)

     แต่ผมว่าถ้าใครที่ไม่เคยดู Stranger Things มาเลยสักซีซั่น แล้วมาดูซีซั่นนี้เลย ผมว่าอรรถรสมันจะไม่ค่อยเต็มที่ เพราะขอบอกก่อนเลยนะครับว่าสาม Episode แรกนี่เรื่อยๆ มาก สำหรับแฟนที่ตามมาทุกซีซั่นแบบผม ผมไม่เบื่อนะ เพราะผมผูกพันกับตัวละครเหล่านี้ไปแล้ว ดังนั้นการสนธนากันแบบวัยรุ่นของเด็กๆ ผมดูแล้วสนุกและยิ้มตาม ผมมีความสุขกับการเห็นเด็กๆ กลับมาซี้กันอีกครั้ง แต่ว่าถ้าใครไม่เคยดูซีซั่นก่อนมาเลยซักซีซั่น ผมว่าสาม Episode แรกนี่มีหาวเลยนะ เพราะการดำเนินเรื่องมันไม่ได้เร่งรีบขนาดนั้น แถมปมต่างๆ ก็ยังไม่ได้ทำงานแบบเต็มที่ ก็เหมือนกับที่เราไปดู Endgame นั่นแหละครับ ถ้าใครที่ผูกพันธ์กับ Marvel มาก็จะดูได้แบบไม่มีปัญหาและอินกับเรื่องราวได้ไม่ยาก แต่ถ้าใครที่ไม่เคยดูหนังของ Marvel มาเลยสักกะเรื่อง ก็จะไม่อินและไม่ชอบหนังเลยก็เป็นได้ครับ เช่นเดียวกับ Stranger Things ครับ ถ้าคุณไม่รู้จักกับแก๊งแฟนฉัน ไม่รู้ว่าจอมบงการคืออะไร หรือว่าไม่รู้ว่าโลกกลับด้านคืออะไร ยังไงคุณก็ไม่อินกับเรื่องราวของซีรี่ส์เท่าแฟนๆ ที่ตามมาสามซีซั่นหรอกครับ เพราะฉะนั้นถ้าอยากรู้ว่าเรื่ิองราวมันเป็นยังไงถึงมาถึงจุดนี้ได้ ก็รีบย้อนดูซีซั่นก่อนๆ ให้ไวครับ

     และในส่วนขององค์ประกอบฉากนั้น ยอดเยี่ยมมากครับ ไม่ว่าจะเป็น Pop Cultures ยุค 80' ต่างๆ เช่น หนังยุค 90' ต่างๆ ที่เป็น Easter Egg ให้เราตามเก็บ เช่น Day of the Dead(หนังที่ฉายในโรง), The Thing(ฉากรวมร่างของสัตว์ประหลาดในโรงบาล), Dawn of the Dead(ฉากไคล์แมกซ์), Terminator: Judgment Day(ฉากการต่อสู้ในแล็บ), Nancy Drew(ตัวละครของแนนซี่) หรือแม้กระทั่งเครื่องเปิดประตูมิติของรัซเซียที่ออกแบบมาคล้าย Transformers มาก(ฉากเปิดเรื่องผมว่ายิ่งเหมือน555) และสุดท้ายก็คือ Soundtrack ที่คัดมาแต่เพลงดีๆ ติดหูทั้งนั้น ขออีกทีนะครับ "Turn Around, Look At What You SEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEE!!!"555

     สรุปแล้วซีซั่นนี้นับว่ายอดเยี่ยมมากครับ มันส์และลุ้นแบบเต็มสูบและสมการรอคอยมาสองปีมากๆ เรื่องราวก็นับว่าคืบหน้าและทำให้อยากดูซีซั่นสี่เร็วๆ นี้เลย ปมต่างๆ ถือว่าขมวดได้ดีเลยครับ อย่างปมของวิลนี่น่าสนใจว่าซีซั่นหน้าจะขยายปมให้กว้างขวางขึ้นหรือไม่ ก็ต้องรอดูครับแต่ว่าซีซั่นนี้ถือว่าประทับใจมากๆ เลยครับ และแน่นอนว่าผมชอบเรื่องนี้มากกว่า Game of Thrones อีกนะ555

ข้อดี

     1) สนุกและน่าติดตาม เป็นซีรี่ส์ที่ดูรวดเดียวจบและอิ่มมากๆ

     2) การดำเนินเรื่อง ไม่เร็วเกินไป ไม่ช้าเกินไป และไม่มีช่วงไหนที่น่าเบื่อเลย

     3) Millie Bobby-Brown ทุกคนเล่นดีหมด แต่ว่าการแสดงของน้องบราวน์มันน่าชื่นชมแบบเป็นพิเศษจริงๆ

     4) โรบิน อันนี้ชอบแบบส่วนตัว

     5) บทหนัง ยอดเยี่ยม!

     6) ฉากไคล์แมกซ์ ยิ่งใหญ่ อลังการ และมันส์โคตรๆ

     7) องค์ประกอบฉาก ดักทางคนรักยุค 80' แบบเอาใจไปเลย

ข้อเสีย

     1) สาม Episode แรกช้า สำหรับแฟนซีรี่ส์คือดูได้แบบสนุกและอมยิ้ม แต่ถ้าไม่ใช่คุณหาวแน่นอน

คะแนนเฉลี่ยรวม : 10/10

เรตหนัง : หนังยอดเยี่ยมที่ไม่ควรพลาด