นี่เป็นซีรี่ส์ที่ผมได้ยินคำชมมาเยอะเลยครับ บ้างก็ชอบมาก บ้างก็เฉย(แต่ส่วนเฉยจะน้อยมาก) ฉะนั้นความคาดหวังของผมก็คงสูงเป็นธรรมดาครับ เพราะผมเป็นคนที่ชอบหนังหรือว่าซีรี่ส์ลึกลับมากพอสมควร อย่าง American Horror Story นี่ผมชอบทุกซีซั่นเลย(แต่ที่ชอบที่สุดก็คือ Asylum) หรือว่าของไทยก็ตอบง่ายๆ เลยครับว่า "เพื่อนเฮี้ยน...โรงเรียนหลอน" มันไม่ได้สุดยอดมากมายแต่ผมชอบในความบันเทิงของมันครับ ส่วนเรื่องนี้ ทีแรกผมกะว่าจะดูทีละ Episode พอ ไม่อยากจะดูจบรวดเดียว แต่สุดท้าย...ก็ล่อเข้าไปยันเช้า จนได้นะเมิงงงง
เรื่องย่อ
รัฐอินเดียน่าในช่วงยุคปี 1980 เมื่อแม่คนหนึ่งที่ที่ชื่อว่า จอยส์ บีเยอร์ (Joyce Byers) ได้ออกตามหา วิล บีเยอร์ (Will Byers) ลูกชายของเธอที่จู่ๆ ก็ได้หายตัวไปอย่างลึกลับแบบไร้ร่องรอย เธอได้ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานท้องถิ่นให้ออกมาช่วยตามหาลูกของเธออีกแรง แต่แล้วเธอก็ได้ค้นพบว่า การหายตัวไปของลูกชายเธอนี้ ดูเหมือนจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทดลองลับๆ บางอย่างของรัฐบาล ไปจนถึงเรื่องราวเหนือธรรมชาติสุดระทึกของเด็กคนหนึ่งที่มีพลังจิตที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาลอีกด้วย!!!
แม่เจ้าโว้ยยยยยยยยยย!!! มันสนุกเยี่ยงแท้เลยออเจ้า ไม่นึกว่าพล็อตโบราณหงำเหงือกขนาดนี้ สองพี่น้อง Duffer จะนำเสนอออกมาได้น่าสนใจขนาดนี้ กะอีแค่พล็อตเด็กคนนึงหายไป มันจะยืดยาวมาถึง 8 ตอนได้ แต่ผมไม่ได้หมายความว่ามันดูเนือยนะครับ มันดูไม่ได้รีบร้อนในการเล่า เพราะมันต้องใช้เวลาในการคลายปมค่อนข้างเยอะ แค่คลายปมก็ล่อไป 2 ตอนละคุณเธอ แต่มันก็ไม่ได้ดูยืดยาด อืดอาดจนผิดสังเกตุ และในแต่ละตอนความน่าติดจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ครับ ช่วง Episode แรกๆ จะไม่ได้ลุ้นมากเพราะต้องใช้เวลาในการวางปมปริศนาต่างๆ และพอถึงตอนปลายๆ ซีซั่นก็ถึงเวลาคลายปม ซึ่งก็คลายได้ดีนะครับ มีหยอดๆ ไปซีซั่นสองด้วย
ที่ผมทึ่งคือทั้งซีซั่นมันไม่ได้มีแค่เรื่องเด็กหายตัวไปแค่นั้นครับ หนังยังมีซับพล็อตตามมาด้วย ทั้งเรื่องการทดลองลับรัฐบาล, มิติกลับด้าน, สัตว์ประหลาด, เด็กสาวพลังจิต, เรื่องราวของโจนาธาน แนนซี่ กับสตีฟ, การตามหาประตูมิติของเหล่าเด็กๆ โอ้โห! พล็อตเยอะขนาดนี้คุมให้อยู่ด้วยกันและไปถึงยากนะครับ เพราะมีหลายเรื่องพยายามทำแล้วเหลวไม่เป็นท่า แต่..... พี่น้อง Duffer คุมพล็อตอยู่ครับ เล่าทุกพล็อตได้ครบทุกประเด็นครบถ้วน ไม่มีตกค้าง ผมขอชื่นชมฝีมือพี่น้อง Duffer นะครับ ที่คุมพล็อตๆ พวกนี้ได้อยู่ภายในระยะเวลาแค่ 8 ตอน แต่ละตอนก็ไม่ถึงชั่วโมง โห! มันยากนะครับที่จะคุมพล็อตให้อยู่ด้วยกันได้ แต่พี่น้อง Duffer ทำได้ ผมว่าเก่งครับ เก่งมากๆ เพราะถ้าคุมไม่อยู่มันเละเลยนะ เก่งครับ ปรบมือ👏👏👏
ด้านดารานี่ยอดเยี่ยมเลยครับ Ryder นี่สุดยอดมากๆ อ่ะ ตีบทแตกกระจุย, Harbour นี่ก็เข้มขรึมแต่ข่มอารมณ์ในใจได้ดีครับ, Wolfhard, McLaughlin, Matorazzo นี่ก็ซี้กันได้ดีครับ เล่นได้โดดเด่นทุกคน, Brown ก็ไปได้ดีกับบทนิ่งๆ ครับ ทุกวันนี้ผมยังจำเธอในบทอีเลเว่นอย่างตราตรึงเลย(ขนาดตอนดูตัวอย่าง King of Monsters ยังเห็นเป็นอีหนูแอลมานั่งกรี๊ดอยู่เลย555), Dyer, Heaton, Keery นี่ก็ไปได้ดีครับ การแสดงถือว่าเด่นพอตัว และสองรายสุดท้ายที่ออกน้อยแต่ว่าน่าจดจำ Purser ในบทบาร์บ บทน้อยแต่มีส่วนกับเรื่องราวมากครับ และก็ Schnapp ในบทวิล เด็กชายผู้หายตัวไป แหม... มา Episode แรกเล่นไปไม่ถึง 10 นาทีก็ Gone Boy (ไปซะแล้วไอ้หนู) เป็นที่เรียบร้อย(ฮา)
ในส่วนของทางด้านภาพจัดว่างามเลยครับ ดูไปก็คิดถึงพวกบรรยากาศยุค 80's (อย่าดักแก่ผมนะ!) ถ้าสังเกตุดีๆ จะมี Easter Egg ของหนังสยองขวัญยุคเก่าๆ อยู่เยอะเลยครับ เช่นโปสเตอร์ The Evil Dead, วิทยุสื่อสารจากเรื่อง The Thing ของลุง Carpenter ฯลฯ และเรื่องนี้ลุง Carpenter ก็ลงทุนมาทำให้เลยนะครับ ฉะนั้นไม่แปลกที่ดูไปจะได้กลิ่นอายของหนังสยองขวัญยุคเก่าๆ ของลุงแก
😊จุดดี😊
๏ เล่าเรื่องได้น่าติดตามทุก Episode
๏ ซับพล็อตน่าสนใจ
๏ ฉากลุ้นทำได้ดีมาก
๏ ภาพสวย Production ดี
๏ ดนตรีประกอบเข้าท่ามาก
๏ นักแสดงทำได้ยอดเยี่ยม
😈จุดด้อย😈
๏ พล็อตไม่แปลกใหม่มาก
คะแนนเฉลี่ยรวม : 9.5/10
[CR] ##REVIEW## Netflix's Stranger Things: Season One (2016) สเตรนเจอร์ ธิงค์: ซีซั่นแรก | สนุกมว๊าากกก [ไร้ส้มป่อย]
รัฐอินเดียน่าในช่วงยุคปี 1980 เมื่อแม่คนหนึ่งที่ที่ชื่อว่า จอยส์ บีเยอร์ (Joyce Byers) ได้ออกตามหา วิล บีเยอร์ (Will Byers) ลูกชายของเธอที่จู่ๆ ก็ได้หายตัวไปอย่างลึกลับแบบไร้ร่องรอย เธอได้ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานท้องถิ่นให้ออกมาช่วยตามหาลูกของเธออีกแรง แต่แล้วเธอก็ได้ค้นพบว่า การหายตัวไปของลูกชายเธอนี้ ดูเหมือนจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทดลองลับๆ บางอย่างของรัฐบาล ไปจนถึงเรื่องราวเหนือธรรมชาติสุดระทึกของเด็กคนหนึ่งที่มีพลังจิตที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาลอีกด้วย!!!
แม่เจ้าโว้ยยยยยยยยยย!!! มันสนุกเยี่ยงแท้เลยออเจ้า ไม่นึกว่าพล็อตโบราณหงำเหงือกขนาดนี้ สองพี่น้อง Duffer จะนำเสนอออกมาได้น่าสนใจขนาดนี้ กะอีแค่พล็อตเด็กคนนึงหายไป มันจะยืดยาวมาถึง 8 ตอนได้ แต่ผมไม่ได้หมายความว่ามันดูเนือยนะครับ มันดูไม่ได้รีบร้อนในการเล่า เพราะมันต้องใช้เวลาในการคลายปมค่อนข้างเยอะ แค่คลายปมก็ล่อไป 2 ตอนละคุณเธอ แต่มันก็ไม่ได้ดูยืดยาด อืดอาดจนผิดสังเกตุ และในแต่ละตอนความน่าติดจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ครับ ช่วง Episode แรกๆ จะไม่ได้ลุ้นมากเพราะต้องใช้เวลาในการวางปมปริศนาต่างๆ และพอถึงตอนปลายๆ ซีซั่นก็ถึงเวลาคลายปม ซึ่งก็คลายได้ดีนะครับ มีหยอดๆ ไปซีซั่นสองด้วย
ที่ผมทึ่งคือทั้งซีซั่นมันไม่ได้มีแค่เรื่องเด็กหายตัวไปแค่นั้นครับ หนังยังมีซับพล็อตตามมาด้วย ทั้งเรื่องการทดลองลับรัฐบาล, มิติกลับด้าน, สัตว์ประหลาด, เด็กสาวพลังจิต, เรื่องราวของโจนาธาน แนนซี่ กับสตีฟ, การตามหาประตูมิติของเหล่าเด็กๆ โอ้โห! พล็อตเยอะขนาดนี้คุมให้อยู่ด้วยกันและไปถึงยากนะครับ เพราะมีหลายเรื่องพยายามทำแล้วเหลวไม่เป็นท่า แต่..... พี่น้อง Duffer คุมพล็อตอยู่ครับ เล่าทุกพล็อตได้ครบทุกประเด็นครบถ้วน ไม่มีตกค้าง ผมขอชื่นชมฝีมือพี่น้อง Duffer นะครับ ที่คุมพล็อตๆ พวกนี้ได้อยู่ภายในระยะเวลาแค่ 8 ตอน แต่ละตอนก็ไม่ถึงชั่วโมง โห! มันยากนะครับที่จะคุมพล็อตให้อยู่ด้วยกันได้ แต่พี่น้อง Duffer ทำได้ ผมว่าเก่งครับ เก่งมากๆ เพราะถ้าคุมไม่อยู่มันเละเลยนะ เก่งครับ ปรบมือ👏👏👏
ด้านดารานี่ยอดเยี่ยมเลยครับ Ryder นี่สุดยอดมากๆ อ่ะ ตีบทแตกกระจุย, Harbour นี่ก็เข้มขรึมแต่ข่มอารมณ์ในใจได้ดีครับ, Wolfhard, McLaughlin, Matorazzo นี่ก็ซี้กันได้ดีครับ เล่นได้โดดเด่นทุกคน, Brown ก็ไปได้ดีกับบทนิ่งๆ ครับ ทุกวันนี้ผมยังจำเธอในบทอีเลเว่นอย่างตราตรึงเลย(ขนาดตอนดูตัวอย่าง King of Monsters ยังเห็นเป็นอีหนูแอลมานั่งกรี๊ดอยู่เลย555), Dyer, Heaton, Keery นี่ก็ไปได้ดีครับ การแสดงถือว่าเด่นพอตัว และสองรายสุดท้ายที่ออกน้อยแต่ว่าน่าจดจำ Purser ในบทบาร์บ บทน้อยแต่มีส่วนกับเรื่องราวมากครับ และก็ Schnapp ในบทวิล เด็กชายผู้หายตัวไป แหม... มา Episode แรกเล่นไปไม่ถึง 10 นาทีก็ Gone Boy (ไปซะแล้วไอ้หนู) เป็นที่เรียบร้อย(ฮา)
ในส่วนของทางด้านภาพจัดว่างามเลยครับ ดูไปก็คิดถึงพวกบรรยากาศยุค 80's (อย่าดักแก่ผมนะ!) ถ้าสังเกตุดีๆ จะมี Easter Egg ของหนังสยองขวัญยุคเก่าๆ อยู่เยอะเลยครับ เช่นโปสเตอร์ The Evil Dead, วิทยุสื่อสารจากเรื่อง The Thing ของลุง Carpenter ฯลฯ และเรื่องนี้ลุง Carpenter ก็ลงทุนมาทำให้เลยนะครับ ฉะนั้นไม่แปลกที่ดูไปจะได้กลิ่นอายของหนังสยองขวัญยุคเก่าๆ ของลุงแก
๏ เล่าเรื่องได้น่าติดตามทุก Episode
๏ ซับพล็อตน่าสนใจ
๏ ฉากลุ้นทำได้ดีมาก
๏ ภาพสวย Production ดี
๏ ดนตรีประกอบเข้าท่ามาก
๏ นักแสดงทำได้ยอดเยี่ยม
๏ พล็อตไม่แปลกใหม่มาก
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม