สวัสดีคร้าบบ
วันนี้จะมารีวิวผลิตภัณฑ์แชมพูล้างรถสองยี่ห้อ
โดยจะขอทำการรีวิวแบบการใช้งานจริงบนรถคันเดียวกัน
แบ่งออกเป็นซ้าย-ขวา เปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆไปเลยครับ
การรีวิวครั้งนี้ ผู้รีวิวจ่ายเงินซื้อผลิตภัณฑ์มาใช้งานเอง 100% ไม่ได้รับการ Sponsor แต่อย่างใดนะจ๊ะ
ปกติแล้วจขกท.จะล้างรถด้วยตัวเอง ความถี่ก็ประมาณอาทิตย์ละครั้ง
แต่เอาจริงๆก็ แล้วแต่ความสกปรกของรถด้วยแหละ รวมถึงถ้าช่วงไหนฝนตกก็จะรวบยอดไว้ทีเดียวเลย
ส่วนการเคลือบแวกซ์ ก็จะเคลือบแวกซ์เองเหมือนกัน ขัดๆ ถูๆ ประมาณเดือนสองเดือนครั้งนึง
รถของ จขกท. สีดำ ดูแลยากครับ เลยต้องขยันล้างกันหน่อย
มาเริ่มกันดีกว่า แชมพูที่ใช้อยู่ปัจจุบันเป็นยี่ห้อ Karshine Formular1 ซื้อมาจากงานที่เมืองทอง
กระป๋องสองลิตร ราคาก็ร้อยกว่าบาท ถ้าจำไม่ผิดนะครับ (ซื้อมานานแล้ว)
แต่เนื่องจากว่ามันใกล้หมดแล้ว เลยอยากลองเปลี่ยนยี่ห้อดูบ้าง เห็น Shoppee เค้าลดราคาของ 3M อยู่
ก็เลยได้มาลอง เป็นรุ่น PN39000W ราคาแพงกว่า Karshine พอสมควร ตกลิตรละประมาณ 85 บาท
จะทดสอบกันโดยแบ่งกันล้าง โดยฝ่ายKarshineจะรับผิดชอบฝั่งคนขับ ส่วน3Mก็รับผิดชอบฝั่งผู้โดยสารไป
ส่องกันให้เห็นชัดๆ ซ้าย-ขวา ก่อนล้างนี่สกปรกแทบไม่ต่างกัน
จะเห็นว่ารถของ จขกท. เขรอะมากกกกก
ฝนจากฟ้ากรุงเทพฯนี่สกปรกสุดๆไปเลยครับ สงสารรถ
จขกท. เริ่มล้างฝั่งคนขับก่อนครับ ด้วยผลิตภัณฑ์ของ Karshine เอาฟองน้ำถูครั้งเดียว แล้วก็ฉีดน้ำสะอาดล้าง
เทแชมพูใส่ถังน้ำ
ฉีดน้ำผสม
ถูๆ ฝั่งคนขับ
แล้วก็ฉีดน้ำสะอาดล้างตัวรถ ล้างฟองน้ำ ล้างถังน้ำ ก่อนจะเทแชมพู 3M ลงไปในถัง เพื่อล้างฝั่งผู้โดยสาร
3M จะเป็นกลิ่นกล้วยหอม ฉุนๆ หน่อย น้ำยาจะเข้มข้นกว่า ออกหนืดๆ
พอฉีดน้ำอัดลงไป จะเห็นว่าของ 3M ฟองเยอะกว่า Karshine (ผสมน้ำปริมาตรเท่ากัน)
(ช่วงฉีดน้ำนี่กลิ่นกล้วยแรงมาก)
เอาฟองน้ำถูๆ รอบเดียวเหมือนกัน แล้วฉีดน้ำสะอาดล้าง เหมือนกับฝั่งคนขับเดะๆ
เสร็จแล้วก็เอาผ้าแห้งเช็ดครับ ถือเป็นอันเรียบร้อย
มาดูผลงานใกล้ๆ กันดีกว่าครับ
ฝั่งคนขับ เป็นของKarshine
ฝั่ง Karshine
ผิวลื่น เอานิ้วถูดังเอี๊ยดๆๆ สะอาดใช้ได้
คราบดวงๆ น้ำฝน หายไป(เกือบ)หมด แต่จะเห็นมีคราบหลงเหลือนิดหน่อยดังที่ปรากฏในรูป
ลองมาดูฝั่งผู้โดยสารบ้าง
ฝั่ง 3M
คราบดวงๆ หายไปหมดเกลี้ยง ไม่เหลือคราบเลย
ผิวลื่น ดูสะอาด ใสกิ้ง
เอานิ้วถู ก็ดังเอี๊ยดๆๆ ไม่ต่างกัน
___________________________________________________________________________________
สรุปจ้าาา
ฝั่งคนขับ Karshine (8/10)
ข้อดี ถูกกว่า กลิ่นดีกว่ามาก ขจัดคราบมันได้ดี สะอาดใช้ได้
ข้อเสีย ฟองน้อยกว่า3M และยังมีคราบดวงๆเหลืออยู่นิดหน่อย จึงโดนหักไปสองคะแนน
ฝั่งผู้โดยสาร 3M (8/10)
ข้อดี สะอาดดีมาก ขจัดคราบสกปรกและคราบมันได้ดี น้ำยาเข้มข้น ฟองเยอะ
ข้อเสีย กลิ่นแย่มาก (เป็นกลิ่นกล้วยหอม ที่ไม่หอมเลยยย) แพงกว่านิดหน่อย จึงโดนหักไปสองคะแนนเช่นเดียวกัน
ปล. การรีวิวครั้งนี้ ทำขึ้นแบบบ้านๆ ไม่ได้ควบคุมตัวแปร 100% จึงไม่สามารถใช้อ้างอิงทางวิทยาศาสตร์ได้จ้าาา
ขอบคุณครับ
#3Mautocare
#beforeafterchallenge
[CR] [CR] รีวิวแชมพูล้างรถ 3M Vs Karshine เทียบกันจะๆซ้าย-ขวา บนรถ Mercedes-Benz SLK สีดำ
วันนี้จะมารีวิวผลิตภัณฑ์แชมพูล้างรถสองยี่ห้อ
โดยจะขอทำการรีวิวแบบการใช้งานจริงบนรถคันเดียวกัน
แบ่งออกเป็นซ้าย-ขวา เปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆไปเลยครับ
การรีวิวครั้งนี้ ผู้รีวิวจ่ายเงินซื้อผลิตภัณฑ์มาใช้งานเอง 100% ไม่ได้รับการ Sponsor แต่อย่างใดนะจ๊ะ
ปกติแล้วจขกท.จะล้างรถด้วยตัวเอง ความถี่ก็ประมาณอาทิตย์ละครั้ง
แต่เอาจริงๆก็ แล้วแต่ความสกปรกของรถด้วยแหละ รวมถึงถ้าช่วงไหนฝนตกก็จะรวบยอดไว้ทีเดียวเลย
ส่วนการเคลือบแวกซ์ ก็จะเคลือบแวกซ์เองเหมือนกัน ขัดๆ ถูๆ ประมาณเดือนสองเดือนครั้งนึง
รถของ จขกท. สีดำ ดูแลยากครับ เลยต้องขยันล้างกันหน่อย
มาเริ่มกันดีกว่า แชมพูที่ใช้อยู่ปัจจุบันเป็นยี่ห้อ Karshine Formular1 ซื้อมาจากงานที่เมืองทอง
กระป๋องสองลิตร ราคาก็ร้อยกว่าบาท ถ้าจำไม่ผิดนะครับ (ซื้อมานานแล้ว)
แต่เนื่องจากว่ามันใกล้หมดแล้ว เลยอยากลองเปลี่ยนยี่ห้อดูบ้าง เห็น Shoppee เค้าลดราคาของ 3M อยู่
ก็เลยได้มาลอง เป็นรุ่น PN39000W ราคาแพงกว่า Karshine พอสมควร ตกลิตรละประมาณ 85 บาท
จะทดสอบกันโดยแบ่งกันล้าง โดยฝ่ายKarshineจะรับผิดชอบฝั่งคนขับ ส่วน3Mก็รับผิดชอบฝั่งผู้โดยสารไป
ส่องกันให้เห็นชัดๆ ซ้าย-ขวา ก่อนล้างนี่สกปรกแทบไม่ต่างกัน
จะเห็นว่ารถของ จขกท. เขรอะมากกกกก
ฝนจากฟ้ากรุงเทพฯนี่สกปรกสุดๆไปเลยครับ สงสารรถ
จขกท. เริ่มล้างฝั่งคนขับก่อนครับ ด้วยผลิตภัณฑ์ของ Karshine เอาฟองน้ำถูครั้งเดียว แล้วก็ฉีดน้ำสะอาดล้าง
เทแชมพูใส่ถังน้ำ
ฉีดน้ำผสม
ถูๆ ฝั่งคนขับ
แล้วก็ฉีดน้ำสะอาดล้างตัวรถ ล้างฟองน้ำ ล้างถังน้ำ ก่อนจะเทแชมพู 3M ลงไปในถัง เพื่อล้างฝั่งผู้โดยสาร
3M จะเป็นกลิ่นกล้วยหอม ฉุนๆ หน่อย น้ำยาจะเข้มข้นกว่า ออกหนืดๆ
พอฉีดน้ำอัดลงไป จะเห็นว่าของ 3M ฟองเยอะกว่า Karshine (ผสมน้ำปริมาตรเท่ากัน)
(ช่วงฉีดน้ำนี่กลิ่นกล้วยแรงมาก)
เอาฟองน้ำถูๆ รอบเดียวเหมือนกัน แล้วฉีดน้ำสะอาดล้าง เหมือนกับฝั่งคนขับเดะๆ
เสร็จแล้วก็เอาผ้าแห้งเช็ดครับ ถือเป็นอันเรียบร้อย
มาดูผลงานใกล้ๆ กันดีกว่าครับ
ฝั่งคนขับ เป็นของKarshine
ฝั่ง Karshine
ผิวลื่น เอานิ้วถูดังเอี๊ยดๆๆ สะอาดใช้ได้
คราบดวงๆ น้ำฝน หายไป(เกือบ)หมด แต่จะเห็นมีคราบหลงเหลือนิดหน่อยดังที่ปรากฏในรูป
ลองมาดูฝั่งผู้โดยสารบ้าง
ฝั่ง 3M
คราบดวงๆ หายไปหมดเกลี้ยง ไม่เหลือคราบเลย
ผิวลื่น ดูสะอาด ใสกิ้ง
เอานิ้วถู ก็ดังเอี๊ยดๆๆ ไม่ต่างกัน
___________________________________________________________________________________
สรุปจ้าาา
ฝั่งคนขับ Karshine (8/10)
ข้อดี ถูกกว่า กลิ่นดีกว่ามาก ขจัดคราบมันได้ดี สะอาดใช้ได้
ข้อเสีย ฟองน้อยกว่า3M และยังมีคราบดวงๆเหลืออยู่นิดหน่อย จึงโดนหักไปสองคะแนน
ฝั่งผู้โดยสาร 3M (8/10)
ข้อดี สะอาดดีมาก ขจัดคราบสกปรกและคราบมันได้ดี น้ำยาเข้มข้น ฟองเยอะ
ข้อเสีย กลิ่นแย่มาก (เป็นกลิ่นกล้วยหอม ที่ไม่หอมเลยยย) แพงกว่านิดหน่อย จึงโดนหักไปสองคะแนนเช่นเดียวกัน
ปล. การรีวิวครั้งนี้ ทำขึ้นแบบบ้านๆ ไม่ได้ควบคุมตัวแปร 100% จึงไม่สามารถใช้อ้างอิงทางวิทยาศาสตร์ได้จ้าาา
ขอบคุณครับ
#3Mautocare
#beforeafterchallenge
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้