จุดเริ่มต้นของการซื้อรถคันแรก

  ในวัยที่เราทำงานอย่างเติมตัววัยที่ต้องสร้างอนาคตอย่างจริงจัง ผมกับภรรยา(ตอนนั้นยังเป็นแฟน) ตั้งใจว่าจะซื้อรถยนต์สักคันเพราะ คนรอบข้างทักว่า “เป็นห่วงขี่แต่มอเตอร์ไซค์มันอันตราย ไหนจะฝนตก ไหนจะต้องเดินทางไกล”

ก่อนหน้านี้ผมคิดมาตลอดว่า“เรามันตัวคนเดียวขี่มอไซค์ขึ้นเหนือล่องใต้สบายๆ รถยนต์ไม่จำเป็น” 
   แต่ปัจจุบัน ด้วยวิถีชีวิตของเราสองคนไม่ได้อยู่เมืองหลวง การเดินทางไม่ง่าย ภรรยาทำงานห่างจากคอนโด 40 กิโลเมตร ผมทำงานห่างจากคอนโด 50 กิโลเมตร ภาคใต้ฝนตก 8 เดือนจาก 12 เดือน

จนมาถึงจุดที่ว่า“มันจำเป็นแล้วนะ”

เมื่อถึงเวลาเลือก ผมกับภรรยาเลยนั่งคุยกันถึงความชอบ เพราะรถคันนี้ใช้งาน 2 คน ถึงแม้ผมเป็นคนใช้งานหลักเพราะด้วยงานที่ทำ ดังนั้นเราจึงต้องมาคุยกันเพื่อหาจุดสมดุลย์

ภรรยา:
- ไม่เอาสีแดง
- ชอบ 5 ประตู สูงก็ดี 
- ยี่ห้อไหนก็ได้

ผม: 
- ขับสนุก
- รถคันแรก ไม่แพง 4 ปีผ่อนจบ ซื้อคันใหม่

รายชื่อรถที่เราจะไปดูและทดสอบกัน 

MG : รถน้องใหม่ กระแสดี

- MG ZS X (ตกไป มิติรถใหญ่ ดี วัสดุดูได้ ตกม้าตายตรงเครื่อง 1.5 เปิดฝากระโปรง ดูแล้วมันแปลกๆ กับเกียร์ 4 สปีด)

Honda : เหมาะเป็นรถเริ่มต้นดูมาตรฐานดี
- City รุ่นV+ กับSV, (ตกไป ไม่ใช่5 ประตู)
- Jazz รุ่นV+ กับRS (โอเค เครื่อง1.5 ขับในเมืองสบายๆ กว้างใหญ่)

Toyota : ศูนย์เยอะคนใช้เยอะทนแต่ไม่ชอบดีไซน์
- Vios (ตกไป ไม่ใช่ 5 ประตู)
- Yaris (ตกไป เครื่องเล็ก วัสดุงานประกอบไม่โอเค)

Mazda : กระแส mazda 2 แรงมาก แวะไปดูซักหน่อย
- Mazda 2 hatchback รุ่น Hi-connect  (โอเค ราคาดีกว่าแบรนด์อื่นมาก ภายในดี สวยเกินราคา ขับสนุก แต่ได้เบาะผ้า)

สรุปตอนนั้นทำจอง Mazda 2 hatchback Hi-Con ไปเรียบร้อย 5,000.- บาท

ราคารถ 620,000.- บาท
ดาวน์ 25% ส่วนลด 20,000.- ดอก 2.19% 

ผ่อน 48 งวด  ตกงวดละ 10,535.-
สบายใจ ดาวน์น้อย ผ่อนน้อย จบเร็ว

อ่านมาถึงตรงนี้ ไหนละ CX-3 ?? 
พูดจากใจณตอนนั้นผมไม่มีข้อมูลCX-3 เลยครับไม่ได้ลิสท์ไว้ว่าต้องมาดู 

เซ็นใบจองรับใบจอง Mazda 2 เสร็จ 
“ไม่รู้อะไรดลใจ” 
ให้ผมพูดออกไปว่า “ขอเทสคันนี้(CX3)หน่อยได้ไหมครับ”
เพราะเห็นอยู่นานแล้วจอดเรียงกันM2>>> CX-3 >>>CX-5
ดูสูงกว่าM2 ใหญ่กว่าภูมิฐานกว่า 

ทดสอบ CX-3 ครั้งแรก
รถทดสอบจะเป็นCX-3 2.0 SP ตัวใหม่
ความรู้สึกแรกเมื่อเข้าไปนั่ง “เห้ยมันดูดีกว่า M2 โปร่งกว่า สูงกว่า ดูเป็นรถผู้ใหญ่”

ยิ่งกว่านั้นคือเวลาขับ ถึงจะได้ลองเป็นระยะทางไม่ยาว แต่รู้สึกได้ถึงความแตกต่าง จากรถที่เคยขับมา 
ทันทีที่เหยียบคันเร่ง ทั้งแรงบิด ทั้งเสียงเครื่องยนต์ มาเลยครับ “Feel the drive” จริงๆ 
เข้าโค้งความเร็วสูงเกาะถนน โยนตัวน้อย ได้ความรู้สึกใกล้เคียงกับมอไซค์ที่ขี่อยู่เลยครับ 
Paddle shift ใช้ได้จริงตบเกียร์ขึ้นหลังออกตัว ตบเกียร์ลงก่อนเข้าโค้ง มันส์มาก 
ความเร็ว 0-100 รู้สึกได้ว่าไม่ถึง 10 วินาทีแน่ๆ

ลงจากรถทดสอบ ฝังใจครับ

กลับคอนโด ภรรยาเหมือนจะรู้ใจ จับจิตสัมผัสได้ ถามผมมาคำนึง“ตกลงเอายังไง?”
เหมือนรู้ว่าผมเทใจไป CX-3 ทั้งที่จอง M2 ไปแล้ว!! 

ชั่วโมงนั้น กางสเปค CX-3 2.0 SP พร้อมราคา 1,083,000.- บาท
เอามาเปรียบเทียบกับรถค่ายอื่นๆ ราคาใกล้กัน 1.1-1.2 ล้านบาท

Toyota C-HR 1.8 mid ส่วนตัวไม่ชอบดีไซน์ภายใน แล้วฟังก์ชั่นก็ยังไม่ครบ เลยตกไป
Honda HR-V 1.8 RS ใหญ่กว้าง ดูดี แต่ขับไม่มันส์ ฟังก์ชั่นน้อย ตกไป
Subaru XV 2.0 ขับ4 ช่วงล่างแน่น แต่ไม่สนุก ไม่ได้เน้นลุย ฟังก์ชันน้อยตกไป
Mazda CX-3 2.0SP ขับสนุก เก็บของน้อย เบาะหลังแคบ ฟังก์ชันเยอะ 

เรียบเรียงข้อมูลความต้องการแน่นอนแล้ว

โทรไปแจ้งเซลล์ทันทีว่า “เปลี่ยนจากMazda 2 เป็น CX-3 SP ครับ”

ตอนแรกตั้งใจไว้เอาสีน้ำตาล แต่สีน้ำตาล(ไม่เพิ่มเงิน)หมด

เปลี่ยนมาเป็นสีขาวเซรามิกส์ (ไม่เพิ่มเงิน) รถดันมีแค่ตัว S (รองท็อป) 

สรุปเลยต้องสั่งใหม่ ผลิตใหม่ เป็นสีขาวมุก (เพิ่ม 7,000.-)

กลายเป็น รถราคา 1,090,000.- 

ทำไมต้องเพิ่มเงิน 4.7 แสน จาก Mazda 2 ??

1. เครื่องยนต์ Skyactive-G 2.0 L (ไม่มีเทอร์โบ) 

กำลัง 156 แรงม้า  แรงบิด 204 นิวตันเมตร

กับน้ำหนักตัวรถ 1,303 กิโลกรัม 

บอกเลยว่า “แรงเหลือมาก ขับเร่งแซง ออกต่างจังหวัด สบายมาก”

ให้อัตราประหยัดน้ำมันที่ 16-17 กิโลเมตรต่อลิตร “ปัจจุบันผมได้ 9-11 กิโลเมตรต่อลิตร นอกจากขับออกนอกเมืองยาวๆ “

2. ทรง SUV หรือเก๋งยกสูง หรือ Cross over

แล้วแต่จะเรียกครับ ผมก็ไม่รู้

ล้อใหญ่ 18” ยางบาง ทรงมันไม่เหมือน SUV แมนๆ มันดูบาง เท่ เหมือนเก๋ง แถมมี Sunroof

ผมกับภรรยาชอบ ประทับใจ 

3. ฟังก์ชันเยอะ ล้นๆ 

- ไฟหน้า-ท้าย LED  

- ระบบเปิด-ปิดไฟรถอัตโนมัติ (รวมไฟสูง)

- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ เมื่อมีรถอยู่ข้างหน้า หรือรถสวนมา

- ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ 

- ระบบป้องกันการชนด้านหน้า 

- ระบบป้องกันการชนด้านหลัง

- ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ หน้า-หลัง

- ระบบกล้อง 360 องศา พร้อมเซนเซอร์รอบคัน

- ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา 

- ระบบควบคุมความเร็วแบบแปลผัน ตามรถคันข้างหน้า

- ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน

- ระบบอ่านป้ายแจ้งเตือนความเร็ว พร้อมสัญญาณเตือน 

- ระบบตรวจจับความเมื่อยล้า ขณะขับขี่

- ถุงลมนิรภัย 6 จุด

ยังมีฟังก์ชันพื้นฐานอื่นๆอีก 

คุณผู้หญิงปลื้ม ขับอย่างเดียวไม่ต้องทำอะไร 

    

4. พวงมาลัย และระบบเบรก และเกียร์

- พวงมาลัยไฟฟ้า พร้อมปุ่มมัลติมีเดีย ปุ่มฟังก์ชัน ปรับเองได้ได้ 4 ทิศทาง เข้า-ออก ขึ้น-ลง 

- Paddle shift ปรับเกียร์ด้วยมือ 

- ระบบเบรก ดิสเบรก 4 ล้อ พร้อมครีบระบายความร้อน 

- เบรกมือไฟฟ้า

- Auto hold (ไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง ขณะรถติด หรือขึ้นลงเขา รถจะหยุดและไม่เคลื่อนที่ )

- เกียร์ Skyactive อัตโนมัติ 6 สปีด (ไม่ใช่ CVT เหมือนเจ้าอื่น)

- โหมด Sport

5. จอแสดงผล และมัลติมีเดีย

- จอแสดงผล 7.9” ระบบสัมผัส

- MZD connects แป้นควบคุมหน้าจอ ขณะขับรถ

- การเชื่อมต่อแบบ Bluetooth, WiFi, USB ,DVD , AUX

- รองรับ Apple car play และ Android auto (ไม่ได้แถมมาจากโรงงาน แต่ติดตั้งเพิ่มได้เลย)

- แผนที่ และระบบนำทางแบบเรียลไทม์ มีทั้ง 2D 3D บอกลักษณะภูมิประเทศ 

- ระบบปรับอากาศ Auto ไม่แยกฝั่ง

- รองรับภาษาไทย

6. วัสดุ และงานประกอบ

- เบาะหนังเต็มใบ พร้อมรูระบายอากาศ

- คอนโซล และประตู ตกแต่งด้วย หนังกลับ Luxe suite 

- งานประกอบดีมาก เสียงปิดประตูต่างๆ ไม่ดัง

- สีรถสวย แต่บางมาก เป็นรอยสะกิดได้ง่าย

7. การบรรทุก และขนสัมภาระ

CX- 3 ขึ้นชื่อว่าเป็นรถที่แคบ และจุของได้น้อยที่สุดในระดับเดียวกัน ฮ่าๆๆ 

“จริงครับ”

- รถ 5 ที่นั่งแต่นั่ง 4 คนจะดีสุด 

- เบาะหลังพับได้ 60|40

- บรรจุของข้างหลัง กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ 1 ใบ ใบกลาง 1 ใบ เต็มครับ

- ไฟส่องสว่างห้องเก็บของ

- ปุ่มเปิดประตูหลังแบบไฟฟ้า แค่ปุ่มนะครับ โช๊คไม่ใช่ไฟฟ้า กดเปิดแล้วยังต้องออกแรงยกนิดหน่อยเอง 

8. ศูนย์บริการ และบริการหลังการขาย

หลายท่านคงรู้สึกแบบเดียวกันว่า Mazda เป็นที่ดีแบรนด์นึง แต่เรื่องมาตราฐานการบริการของศูนย์ ยังต้องควบคุมอีกมาก 

ส่วนตัวยังไม่เคยเข้าศูนย์ที่อื่น มีโอกาสเข้าแค่ศูนย์ที่ตัวเองออกรถ เรื่องบริการของศูนย์ ดีครับ มีห้องรับรอง สะอาด อาหาร เครื่องดื่มบริการดี

เคยใช้บริการซ่อมของศูนย์ งานเดินเร็ว เสร็จเร็วกว่ากำหนด มีเข้าไปเก็บงานหลังรับรถ 1 รอบ ถือว่ารับได้ครับ เข้าใจว่าเขาทดสอบให้เราได้ไม่มากเท่าเราขับเอง. แต่ทางศูนย์ก็แจ้งตลอดว่า หลังซ่อมภายใน 1 เดือนหากเกิดปัญหาอะไร เอารถเข้ามาแก้ได้เลย ก็อย่างที่บอกครับ เราใช้รถจริง เราจะรู้ว่าอะไรมีปัญหา. หรือผิดปกติ 

ความรู้สึกตอนนี้ ณ ปัจจุบันหลังใบ่รถมาแล้ว 4 เดือน 12,000km. 

ชอบครับ ถูกใจ แฮปปี้ ภรรยาด้วย 

เพราะเป็นรถที่ตอบสนองความต้องการของเรา มากที่สุดแล้ว 

ขับสนุก เดินทางไกลได้สบาย ใช้งานแค่ 2 คน จนตอนนี้มอไซค์จอดไม่ได้ขี่เลยครับ 

ถ้าถามว่า CX-3 เหมาะกับคนแบบไหน ก็ตอบได้เลยว่า “เหมาะกับคนแบบผมนี้แหละครับ”

คนที่ต้องการความสนุกจากการขับรถเอง

คนที่เริ่มสร้างครอบครัว

คนที่ทำงานแบบไม่ได้อยู่ที่สถานที่เดิม 

คนที่วันหยุดชอบออกทริปไปเที่ยวสวีทกับแฟน หรือภรรยา 

“รถคันแรก ไม่จำเป็นต้อง CX-3 ครับ เลือกตามการใช้ชีวิตของคุณ เลือกรถถูก ชีวิตก็มีความสุข”