[แจกฟอร์มจดหมาย] ขอวีซ่าอังกฤษ เตรียมเอกสาร (แน่นๆ) ยังไงให้ผ่าน

#ขอวีซ่าให้ลูกน้อย
ตอน | เตรียมเอกสาร (แน่นๆ) ยังไงให้ผ่าน ( มิ.ย. 2019 )

ก่อนอื่นเราต้องขอออกตัวก่อนนะคะว่าเป็นการแชร์ประสบการณ์ขอวีซ่าอังกฤษของเราเองล้วนๆ ซึ่งเงื่อนไขของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน
แม้จะยื่นแบบเดียวกันก็อาจจะฟันธงไม่ได้ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน บางคนก็ยื่นเอกสารน้อยกว่าเราก็ผ่านฉลุย เอาเป็นว่าเก็บข้อมูลไว้เป็นแนวทางละกันนะคะทุกคน ^^

โดยเงื่อนไขของเราคือ
- เราไม่เคยมีวีซ่าอังกฤษมาก่อน แต่เดินทางไปมาหลายประเทศในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
- ต้องการขอวีซ่าประเภทท่องเที่ยว 6 เดือน
- เดินทางพร้อมลูก 1 ขวบ และสามี
- เราเป็นเจ้าของธุรกิจ (มีหน้าร้าน) จดแค่ทะเบียนพาณิชย์ในนามบุคคล และขายของออนไลน์
- เป็นสปอนเซอร์ให้ตัวเอง และลูก

เอกสารที่ต้องเตรียม (ของแม่)

1. จม.แนะนำตัว : บอกว่าเราเป็นใคร ทำงานอะไร จะไปอังฤษเพราะอะไร ไปกับใคร เมื่อไหร่ ( เรายื่นพร้อมกันพ่อแม่ลูก จม.ของแม่ก็จะเหมือนๆที่เราเขียนให้ของพ่อ)

2. เอกสารทางการเงิน : เรายื่นบัญชีส่วนตัวที่มีเงินเข้าออกสม่ำเสมอ โดยขอเป็น statement ย้อนหลัง  6 เดือน (ค่าขอเอกสาร 200 บาท) และยังขอเป็น bank certificate ด้วย (ฉบับละ 100บาท) โดย ทั้งหมดขอเป็นภาษาอังกฤษ และ bank certificate เค้าจะมีแบบฟอร์มมาเลยว่า  ยื่นถึงสถานทูตอังกฤษ และก็ขอหน่วยเงินเป็นปอนด์ ยอดเงินสุดท้ายที่ติดบัญชีเราประมาณ 9,500 ปอนด์ (อัพเดทก่อนยื่น 5 วัน)

3. สำเนาพาสปอร์ตเล่มเก่า (ก่อนหน้าเล่มปัจจุบัน 1 เล่ม) เพื่อดูประวัติการเดินทางทั้งหมดในรอบ 10 ปี ถ้าใครไปสแกนที่ VFS ต้องถ่ายสำเนาทุกหน้าที่ต้องการยื่นไปให้เค้าพิจารณาเลยนะคะ เพราะเค้าไม่เก็บเล่มเก่าเราไว้ จะส่งไปพิจารณาที่อินเดียก็เฉพาะเอกสารที่สแกนแล้วเท่านั้นค่ะ

4. พาสฟอร์ตเล่มปัจจุบันตัวจริง พร้อมสำเนา 2 ใบ ( เราเผื่อเอาไว้สำหรับใช้ตอนรับเล่ม ) เล่มจริงทางศูนย์จะเก็บไว้ค่ะ

5. สำนาทะเบียนบ้าน + ฉบับแปล ( การแปลทำได้ที่เขต ฉบับละ 10 บาท เรามีรีวิวไว้ให้แล้วค่ะ )

6. สำเนาใบเปลี่ยนนามสกุล + ฉบับแปล ( การแปลทำได้ที่เขต ฉบับละ 10 บาท เรามีรีวิวไว้ให้แล้วค่ะ )

7. สำเนาทะเบียนสมรส + ฉบับแปล คร.2 และ คร.3 ( การแปลทำได้ที่เขต ฉบับละ 10 บาท เรามีรีวิวไว้ให้แล้วค่ะ )

8. สำเนาทะเบียนพาณิชย์ + ฉบับแปล : อันนี้แปลเอง รับรองเอง (เรามีฟอร์มให้โหลดค่ะ)

9. สำเนาบัตรประชาชน : อันนี้ไม่แปลค่ะ เพราะมีตัวภาษาอังฤษกำกับอยู่แล้ว

10. ใบจองโรงแรม : จองผ่าน Agoda แบบยังไม่ต้องจ่ายเงิน โดยใส่ชื่อผู้เข้าพักเป็นชื่อสามีและลูกด้วยค่ะ

11. จดหมายยืนยันอาชีพ : อันนี้คือเราทำแยกขึ้นมาเอง ตั้งชื่อเองเลยว่า  “ The Letter Proof of Occupation” เพราะเราไม่มีจดหมายรับรองการทำงาน เลยอยากจะทำให้คนพิจารณาเห็นถึงความตั้งใจว่า “ฉันมีอาชีพมั่นคงจริงๆนะ” และสืบเนื่องจากบัญชีที่เรายื่นมันมีเงินเข้าเป็นแบบยิบย่อยถี่ๆ ในแต่ละวัน เพราะเราขาย #ของออนไลน์ ด้วย กลัวเค้าไม่เข้าใจ เราเลยแคปหน้าเพจ และเว็บไซต์ที่ขายของ และถ่ายรูปหน้าร้าน (ชื่อร้านตรงกับในทะเบียนพาณิชย์) แปะลงไปด้วยเลย ^^”

12. แพลนการเดินทาง : อันนี้คือเขียนแบบคร่าวๆมากๆเลย ทำเป็นตารางแต่ละวัน แล้วยังโน้ตไว้ด้วยว่าบางวันอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเด็กเป็นหลัก ฮ่าๆๆ (แต่ถ้าใครอยากได้จะโหลดไว้ดูก็ไม่หวงค่ะ)

13. Application / Check List / ใบจองคิว พร้อมใบเสร็จ จะปริ้นบาร์โค้ดแยกหมวดหมู่ปะหน้าไปก็ได้ (เรามีให้โหลด) หรือไม่ปริ้นไปเค้าก็ไม่ว่า แต่เอกสารทุกแผ่นไม่ต้องเย็บแม็คไปนะคะ เพราะมันต้องเอาไปสแกน จะเสียเวลาแกะ (กรณียอมเสียเงินไปสแกนที่ศูนย์นะคะ)

เอกสารของลูก

1. Consent Letter : จม.ยินยอมให้ลูกเดินทาง เราใส่ทั้งชื่อพ่อและแม่เป็นผู้ปกครองในทริปนี้ค่ะ แม้จะเดินทางด้วยกันหมด เราก็พิมพ์ไว้กันเหนียวค่ะ เหลือดีกว่าขาด ( เรามีฟอร์มให้โหลดได้ค่ะ )

2. สำเนาสูติบัตร + ฉบับแปล : ( การแปลทำได้ที่เขต ฉบับละ 10 บาท เรามีรีวิวไว้ให้แล้วค่ะ )

3. สำนาทะเบียนบ้าน + ฉบับแปล ( การแปลทำได้ที่เขต ฉบับละ 10 บาท เรามีรีวิวไว้ให้แล้วค่ะ )

4. พาสฟอร์ตเล่มปัจจุบันตัวจริง พร้อมสำเนา 2 ใบ ( เราเผื่อเอาไว้สำหรับใช้ตอนรับเล่ม ) เล่มจริงทางศูนย์จะเก็บไว้ค่ะ

5. Sponsor Letter : ในจดหมายเราใส่ทั้งชื่อ พ่อและแม่ร่วมกันเป็นสปอนเซอร์ให้ลูกในทริปนี้ค่ะ (มีฟอร์มให้โหลดได้)

6. สำเนา Bank Certificate : หนังสือทางการเงินเราแนบทั้งของพ่อและแม่ติดไปให้ลูกด้วยค่ะ แต่ถ่ายเป็นเอกสารสีนะคะ เพราะฉบับจริงเราใช้ยื่นในใบสมัครของเราแล้ว

7. สำเนาพาสปอร์ตของพ่อและแม่ที่เดินทางกับลูก

8. ใบจองโรงแรม : แบบเดียวกับของแม่เลยค่ะ

9. ตั๋วเครื่องบิน

10. Application / Check List / ใบจองคิว ใบเสร็จ จะปริ้นบาร์โค้ดแยกหมวดหมู่ปะหน้าไปก็ได้ หรือไม่ปริ้นไปเค้าก็ไม่ว่า แต่เอกสารทุกแผ่นไม่ต้องเย็บแม็คไปนะคะ เพราะมันต้องเอาไปสแกน จะเสียเวลาแกะ (กรณียอมเสียเงินไปสแกนที่ศูนย์นะคะ)

สรุปเรื่องเอกสารเราเตรียมตามที่เขียนไว้ข้างบนค่ะ สำเนาต่างๆเราถ่ายเป็นเอกสารสี (เผื่อคนพิจารณาจะได้ดูง่ายๆ เห็นชัดๆ นี่คิดเอาเอง ซึ่งอาจจะไม่มีผลใดๆเลย 555)

แต่ที่สำคัญเรามองว่าน่าจะเป็นเรื่องการเงินที่ต้องกรอกให้สอดคล้องกับสเตทเม้นที่ยื่น เพราะยิ่งเราไม่มีเงินเดือนที่แน่นอน เหมือนพนักงานประจำ จึงต้องลองเอาเงินที่เข้าบัญชีแต่ละเดือนมาเฉลี่ยๆ แล้วใส่เป็นตัวเลขกลมๆไปค่ะ และเงินที่เหลือท้ายบัญชีควรสมเหตุ สมผลที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายของตัวเอง และลูกด้วย

ซึ่งเดี๋ยวเราจะมารีวิวการกรอกใบสมัครให้ทั้งตัวเอง และลูกอีกครั้งนะคะ

เราใช้เวลาทั้งหมด 11 วันทำการค่ะ ( แอบแปลกใจอยู่ว่าไม่ถึงขั้นต่ำ 15 วันของเค้า ) ไม่ได้สมัคร sms เราได้รับอีเมลล์สองรอบ ในวันเดียวกัน อีเมลล์ตอนเช้าจาก VFS อีเมลล์ตอนเย็นๆจาก gov.uk ข้อความก็ทำนองว่าพิจารณาเรียบร้อยแล้ว และส่งคำร้องกลับมาที่ศูนย์แล้ว มารับได้

เราหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับใครที่กำลังหาข้อมูลอยู่นะคะ ส่วนตัวอย่างจดหมายต่างๆโหลดได้ตามลิ้งค์นี้เลยค่ะ (ใครโหลดไม่ได้ก็ทักมานะคะเดี๋ยวส่งให้ค่ะ)

https://drive.google.com/drive/folders/1G50q84j6vN44snlCD-tUHqVymBT0ejve?usp=sharing

ขอให้ทุกคนโชคดีค่ะ

..................................................................

แม่ฝากกดติดตามเพจ และช่องยูทูปของน้องพิตต์ด้วยนะคะ

https://bit.ly/2v4zOKt

https://www.facebook.com/thefamilytraveller

#อ้างลูกเที่ยว #รีวิวขอวีซ่าอังกฤษ





แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่