หลังจากที่ทางสมาคมบอลไทย ออกมาประกาศยืนยันว่า อากิระ นิชิโนะ ตบปากรับคำเข้าคุมทีมชาติไทยชุดใหญ่พ่วงด้วยชุดยู-23 โดยเหลือเพียงการเซ็นสัญญาและแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเท่านั้น บรรดาสื่อไทยและญี่ปุ่นต่างก็พร้อมใจกันประโคมข่าวไปทั่ว ทว่าหลังเดินทางกลับญี่ปุ่นเพียงวันเดียว นิชิโนะ กลับไปให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นในเชิงปฏิเสธ จนแฟนบอลไทยพากันสับสนงงงวยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แท้จริงแล้วเป็นอย่างไร ผมได้สอบถามทาง "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล อุปนายกฝ่ายเทคนิค ซึ่งน่าจะเป็นคนไทยที่สนิทสนมคุ้นเคยและได้พูดคุยกับ นิชิโนะ มากที่สุด เรื่องราวจะเป็นอย่างไรลองติดตามกันดู

แมน : พี่เฮงครับ ผมเห็นข่าวทางเว็บยาฮูของญี่ปุ่นที่ไปสัมภาษณ์ นิชิโนะ เขาบอกว่าเขาปฏิเสธรับคุมทีมชาติไทย พี่เฮงเห็นหรือยังครับ

โค้ชเฮง : อ่านแล้วครับ เป็นข่าวจากสื่อหนังสือพิมพ์ฺเจ้าเดียวของญี่ปุ่นเขาไปสัมภาษณ์มา แล้วยาฮูก็เอามาลงต่อ ผมมองว่าที่เขาตอบแบบนั้นเพราะไม่อยากให้เป็นข่าวมากกว่า

แมน : แต่มันก็เป็นข่าวไปทั่วแล้วนะพี่ แม้กระทั่งเพจเจลีก หรือสื่อทั้งไทยและญี่ปุ่นก็ออกไปหมดแล้วว่า นิชิโนะ จะคุมทีมชาติไทย สมาคมเองก็ออกข่าวมาแบบนั้นเหมือนกัน

โค้ชเฮง : คือด้วยวัฒนธรรมหรือนิสัยของคนญี่ปุ่น ถ้าอะไรที่มันยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์เขาก็จะไม่อยากให้มีข่าวออกมาก่อนครับ

แมน : จริงๆ แล้วเท่าที่ได้เจรจากัน นิชิโนะ มีแนวโน้มที่จะรับงานหรือปฏิเสธครับ

โค้ชเฮง : เขาก็แสดงความมุ่งมั่นตั้งใจมากนะ ว่าอยากเข้ามาคุมทีมชาติไทย ถ้าเขาไม่สนใจเขาไม่เดินทางถึงที่นี่หรอกครับ

แมน : เรื่องรายละเอียดสัญญาที่ตกลงกันเป็นไปด้วยดีมั้ยครับ เขามีท่าทีไม่โอเคเรื่องอะไรหรือเปล่า

โค้ชเฮง : ไม่นะครับ ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี เขาเองขอกลับบ้านไปเพื่อเคลียร์งานที่ทำค้างอยู่ แล้วก็ต้องไปเตรียมตัวรวมถึงรวบรวมทีมงานด้วย

แมน : มีกำหนดนัดกันมั้ยครับว่าจะมาเมืองไทยอีกทีเมื่อไหร่

โค้ชเฮง : ไม่มีครับ ถ้าเขาเคลียร์อะไรเสร็จก็คงจะแจ้งนัดกันอีกที

แมน : แสดงว่าพี่เฮงมั่นใจว่า นิชิโนะ จะคุมทีมชาติไทยแน่

โค้ชเฮง : เขาก็ยืนยันแบบปากเปล่า เหมือนเป็นสัญญาใจ แต่สัญญาจริงๆ นั้นยังไม่ได้มีการเซ็นกันครับ โดยส่วนตัวผมก็มั่นใจนะว่าไม้น่าจะมีเหตุผลอะไรที่เขาจะไม่รับ เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาสนใจคุมไทยเพราะตอนเขาเป็นโค้ชเขาเห็นว่าทีมไทยเคยเป็นทีมที่แข็งแกร่ง เวลาเขาคุมทีมมาเจอก็ไม่ได้ชนะง่ายๆ  แต่ทุกวันนี้เรากลับไปแพ้สิงคโปร์แพ้เวียดนาม เขาก็พิจารณาดูว่าปัญหามันคืออะไร ถ้าเขาเข้ามาทำแล้วจะแก้ไขตรงจุดไหนได้บ้าง

แมน : ในรายละเอียดสัญญามีระบุไว้มั้ยครับว่าจะต้องมีสตาฟฟ์โค้ชเป็นคนไทยหรือไม่

โค้ชเฮง : ไม่มีครับ แต่จริงๆ ก็เป็นนโยบายของทั่วโลกอยู่แล้ว เวลาที่จ้างโค้ชต่างชาติเข้ามาก็ต้องให้คนในประเทศเข้าไปศึกษาเรียนรู้งานด้วย ไม่เช่นนั้นก็เหมือนจ้างเขามา พอเขาไปเราก็ไม่ได้องค์ความรู้อะไรเลย ตลอดมาทีมชาติไทยใช้โค้ชต่างชาติก็มีสตาฟฟ์เป็นคนไทยด้วยตลอด จะมีแค่ อเล็กซานเดร กาม่า คนเดียวที่ไม่มี 

แมน : ทางไทยเราถือว่าออกตัวไปค่อนข้างแรงเลยนะครับว่านิชิโนะจะคุมทีมชาติไทย

โค้ชเฮง : ครับแต่ทางสมาคมก็แจ้งไปแล้วว่ายังไม่ได้มีการเซ็นสัญญากัน ตอนนี้เป็นการรับปากแบบปากเปล่ากันไว้เท่านั้น

แมน : ถ้าเกิดนิชิโนะปฏิเสธขึ้นมา สมาคมอาจโดนแฟนบอลที่รอง้างอยู่ด่ายับแน่ๆ เลยพี่

โค้ชเฮง : ก็อย่างที่ท่านนายกก็ให้สัมภาษณ์แล้วว่าตอนนี้ 99% ส่วนที่เหลืออีก 1% ก็คือการเซ็นสัญญา อย่างก่อนหน้านี้คนเกาหลีเขาก็จะเซ็นสัญญาอยู่แล้ว คุยทุกอย่างโอเคหมดแล้ว ก็ยังแคนเซิ่ลได้เลยเพราะเขามีปัญหาทางครอบครัวเขาไม่ให้มา

แมน : โค้ชเกาหลีนี่คือ ยุน จอง ฮวาน หรือเปล่าครับ

โค้ชเฮง : หมายถึงคนที่เคยคุมเมืองทองหรอ ไม่ใช่คนนั้นครับ คนนี้เป็นคนที่เคยเป็นประธานเทคนิคของเกาหลีใต้ 

แมน : มาคุมทีมชาติไทยชุดใหญ่หรอครับ

โค้ชเฮง : ใช่ครับ 

แมน : ผมเห็นในบทสัมภาษณ์ที่เอามาจากญี่ปุ่น นิชิโนะเขาพูดแนวๆ ว่าจะปฏิเสธ และจะไม่มีการเดินทางมาเมืองไทยอีก

โค้ชเฮง : แบบนั้นคงไม่น่าเป็นไปได้ครับ

แมน : เขาให้สัมภาษณ์แบบตกใจมากที่สื่อออกว่าเขารับคุมทีมชาติไทยแล้ว และยืนยันว่าเขาไม่ได้รับงานนี้

โค้ชเฮง : เพราะเขายังไม่ได้เซ็นสัญญาครับ นี่แหละคือวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่น เขาจะไม่พูดจนกว่าเขาจะเซ็นสัญญาแล้วเท่านั้น

แมน : พี่เฮงมั่นใจใช่มั้ยครับว่าเขาจะไม่ปฏิเสธแน่นอน

โค้ชเฮง : ก็น่าจะเป็นแบบนั้นครับ

แมน : มีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในวงการสื่อโทรมาถาม แชทมาถามผมเยอะเลยครับเรื่องนี้ ผมก็ตอบว่าผมจะไปรู้ได้ไง ต้องไปถามสมาคมสิ 

โค้ชเฮง : นักข่าวก็โทรมาหาผมเยอะมากเหมือนกันครับ

แมน : โอเคพี่ ขอบคุณมากครับ ไว้รอเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการอีกทีแล้วกันนะพี่

โค้ชเฮง : ได้เลยครับ


https://m.thsport.com/column-2240.html