หากคุณมองหามือถือในงบ 3,500 บาท อยากใช้ 2 ซิม จอใหญ่ ถ่ายภาพสวย มี 3 กล้อง แนะนำ Infinix Smart3 Plus มาพร้อม RAM 2 GB ROM 32 GB เพิ่ม Micro SD ได้ มีสแกนนิ้ว สแกนใบหน้า ใช้ Android 9.0 กับ UI ของ XOS 5.0
กล่องออกแบบสวย สีเขียวสะท้อนแสง มุมซ้ายล่าง อวดคุณสมบัติ AI Triple Rear Camera ถ่ายภาพสวย

โดย 4 จุดเด่นคือ จอใหญ่ 6.2 นิ้ว มีติ่ง ทรงหยดน้ำ มี 3 กล้องหลัง ใช้ 4G ได้ 2 ซิม และถ่ายภาพเซลฟี่สวยแม้แสงน้อย
สิ่งแรกที่ชอบหลังได้สัมผัสตัวเครื่องก็คือ น้ำหนักตัวเครื่องเบามาก เบาแบบ สัมผัสได้เลยว่า ต่างจากแบรนด์อื่นๆ
อุปกรณ์ในกล่อง มีมาให้ครบครัน ทั้งเคสใสแบบพลาสติก (ไม่ใช่แบบซิลิโคน) อแดปเตอร์ชาร์จไฟ หูฟัง เข็มจิ้มถาดซิม คู่มือ แผ่นฟิล์มกันรอยหน้าจอ สาย USB (Micro USB)
สิ่งที่ชอบมากๆ ก็คือ เคสใสแบบพลาสติก ซึ่งมีลวดลายสวยดี แถมยังปกป้องขอบเครื่องบนล่าง ไม่ได้เป็นแบบ ซิลิโคนใส ที่หุ้มทั้งตัว แบบนี้ยังทำให้จับถือแล้วรู้สึกว่าเครื่องยังบางอยู่
อแดปเตอร์ชาร์จไฟ เป็นแบบธรรมดาทั่วไป ไฟ 1.2A แนะนำให้ใช้กับสาย USB ที่ให้มาพร้อมกล่อง

ด้านหลังตัวเครื่อง มีกล้อง 3 ตัว เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
หลังเครื่องระบุว่า กดปุ่ม Power ค้าง 3 วินาที = เปิดเครื่อง ถ้าจะรีสตาร์ทเครื่อง = กดปุ่ม Power ค้าง 10 วินาที

รุ่นนี้ รองรับ SIM 1 + SIM 2 + MicroSD คือเป็น Triple Slot ไม่ต้องเลือกแบบ รักพี่เสียดายน้อง ว่าจะใช้ซิมที่ 2 หรือ Micro SD แบบในบางแบรนด์ บางรุ่น
ระบบปฏิบัติการ ใช้ Android 9 แต่ครอบทับด้วย XOS เป็นหน้าตา UI หรือหน้าตาการใช้งาน ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Infinix เวอร์ชั่นล่าสุดคือ XOS 5.0 Cheetah
เรื่องศูนย์บริการของ Infinix มีประกันจอแตก 1 ปี ไม่ต้องเดินทางไปศูนย์บริการ เพราะมีบริการ รับ-ส่งเครื่องเข้าศูนย์บริการ แล้วส่งกลับถึงบ้าน

สเปค

- หน่วยประมวลผล Helio A22 Quad-Core 2.0GHz
- หน่วยความจำ RAM 2GB
- หน่วยความจำเครื่อง ROM 32GB
- Dual SIM 2 (Nano SIM)
- Fingerprint ปลดล็อคด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือ
- Face Unlock ปลดล็อคด้วยระบบสแกนใบหน้า
- Triple Camera 13MP+2MP+QVGA กล้องหลัง 3 เลนส์ ถ่ายพอร์ทเทรทสวย แม้ในที่แสงน้อย
- กล้องหน้า 8MP พร้อม AI
- หน้าจอแบบหยดน้ำ Water Drop Notch ขนาดใหญ่ 6.2 นิ้ว 
- Android 9.0
- ระบบปฏิบัติการ XOS 5.0 ช่วยบริหารพลังงาน พร้อมธีมให้ดาวน์โหลดเพียบ
- มีโปร ฟรีเน็ต สำหรับดูหนังฟังเพลงจากทรูไอดี 1 ปี 

จากการใช้งานเกือบเดือน เอามาใช้เป็นเครื่องสำรอง ใช้ Facebook LINE Instagram E-Mail Twitter ดู YouTube ชอบตรงจอใหญ่ แบตอึด สแกนนิ้ว สแกนใบหน้าไว แม่นยำดี

คุณสมบัติที่น่าสนใจ

XOS
ถ้ามือถือ Huawei มี EMUI มือถือ Infinix มี XOS ก็ประมาณเดียวกันครับ คือเป็นระบบที่ครอบทับบน Android อีกที โดยเจ้า XOS เนี่ย อำนวยความสะดวกให้เราใช้งานง่าย เช่น คำสั่งลัด Smart Panel มี AI มาช่วยในการถ่ายภาพ

Smart Panel สะดวกดี ผมชอบในการ Captrue หน้าจอมือถือ โดยไม่ต้องกดปุ่ม Power + Vol Down ค้างไว้แบบทุกครั้ง แถมยัง Record บันทึกวีดีโอหน้าจอได้ ทั้งแบบมีเสียงและไม่มีเสียงบรรยายได้ด้วย
ตัวเครื่องรองรับ 4G 2 ซิม สลับซิมได้ไว (เผื่อใครสลับซิมเน็ต สลับซิมโทร)

ในส่วนความสว่างหน้าจอ แม้จะไม่ได้เปิดสุด ก็มองได้สบายตาดี ปรับสักประมาณกลางๆ ค่อนไปทางขวา ก็มองได้ชัดเจน บนหน้าจอใหญ่ 6.2 นิ้ว แบบ Water Drop Notch ใหญ่เต็มตา ซึ่งการดู YouTube โหมดปกติ ติ่งจะไม่บัง แต่ถ้า ใช้นิ้วถ่างให้แสดงผลเต็มจอ ติ่งก็จะบัง
มีโหมดใช้งานมือเดียว One-Hand สำหรับคนที่กดมือเดียวไม่ถนัด
มีโหมดปรับความสว่างหน้าจอให้สบายตา Eyecare และ Read Mode ทำให้สีจอมืดลง หรี่ความสว่างจ้าของแสงหน้าจอลง

Invert Colors สลับ กลับสี เหมือนฟิล์มกล้อง แต่ถ้าจะใช้แทน Night Mode แนะนำให้ใช้ Night Mode / Dark Theme / Dark Mode ของแต่ละแอปจะดีกว่า เพราะการ Invert สี ทำให้การมองภาพ ถูกกลับสีไปด้วย ในขณะที่การอ่านตัวอักษร อาจอ่านสบายตากว่าโหมดปกติ
สังเกตเห็นภาพบน Facebook ผมไหมครับ กลายเป็นเหมือนฟิล์มกล้องสมัยก่อนเลย
การสแกนใบหน้าไว และแม่นยำดี
บนหน้าจอ มีเมนู Face Unlock ให้ตั้งค่าสแกนใบหน้าได้เลย ลองทดสอบ ลงทะเบียนและสแกนใบหน้าผู้เขียน แล้วลบออก จากนั้น ลงทะเบียนใบหน้าลูกสาว แล้วสแกนใบหน้าเข้าเครื่อง ระบบแม่นยำดี สลับหน้ากันสแกนแล้วไม่ผ่าน การสแกนไวในระดับ 2 – 3 วิ ก็ถือว่าไวดี ส่วนสแกนนิ้วก็ไวดี เอานิ้ววางทาบสัก 2 วินาที
นอกจากนี้ ในการทดสอบประสิทธิภาพของเครื่อง ผมใช้ถ่ายวีดีโอ และตัดต่อด้วยแอป Kinemaster ซึ่งตัวแอป ใช้วัดประสิทธิภาพของตัวเครื่องได้ว่า ตัดต่อวีดีโอ 1080p แบบ FHD แต่ไม่รองรับการใส่หลายๆ เลเยอร์ ผมมองว่าแค่เอามาถ่ายวีดีโอ ทำ Vlog ร่วมกับไม้กันสั่นก็โอเคแล้ว

ฟีเจอร์บน XOS 5.0 Cheetah
ระบบของ XOS 5.0 ครอบทับ Android เป็นลักษณะของ UI หรือ User Interface ของมือถือ มีบริการ X Club, X Theme ซึ่งมี Theme ให้เลือกเยอะ 
X-Club เป็นข้อมูลข่าวสารของ XOS โดยมีแนะนำคุณสมบัติ มีปุ่มลัด Smart Panel ให้เรียก Screen Capture, Selfie ด่วนได้ มี Theme สวยๆ ให้เลือกใช้ได้เยอะมากๆ คล้ายๆ ของ Vivo ที่มีธีมเยอะ
ความเท่ของการ Capture หน้าจอก็คือ เลือกให้ทำเป็นจอมือถือได้

แสดงจำนวนข้อความ Noti ของแอปได้
หลายคน ชอบให้มีแสดงตัวเลขจำนวนข้อความใหม่บน Facebook สามารถแสดง Badge ได้ ส่วนในเครื่องนี้ก็ติดตั้ง LINE อยู่ แต่ไม่แสดงจำนวนข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน

ล้างไฟล์ขยะด้วย Cleaner หรือเข้าผ่าน Phone Master จัดการไฟล์ขยะ เพิ่มความเร็วมือถือ แจ้งเตือนปริมาณการใช้เน็ต เพื่อป้องกันเน็ตรั่วหรือต้องจ่ายเกินจากบิล
เนื่องจากมี RAM 2GB พอเปิดหลายๆ แอป ชักจะหน่วงๆ ก็จัดการเคลียร์ หรือล้างให้เครื่องกลับมาวิ่งฉิวเหมือนใหม่

Battery Lab ตัวจัดการแบตเตอรี่ มี AI Smart Power Saving โดยแบตเตอรี่ขนาด 3500mAh ใช้งานได้ข้ามวัน (ไม่เล่นเกมส์) แต่ถ้าถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอเยอะๆ ก็ใช้แบตเหมือนกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการปรับความสว่างหน้าจอด้วย

Hotspot กระจายสัญญาณ Wi-Fi ได้สูงสุด 10 อุปกรณ์ แต่ถ้าเปิดโหมด Data Saver ไว้ จะไม่สามารถใช้ Hotspot ได้
Bike Mode โหมดที่ใช้ขณะขับขี่ งดรับสาย แต่จะมี SMS ส่งไปบอกคนโทรมา ว่าเราขับรถอยู่ (แต่อาจมีค่าบริการ SMS ตามโปรโมชั่นเครือข่ายมือถือ)

บันทึกหน้าจอเป็นวีดีโอได้

Screen Recorder ถ่ายวีดีโอหน้าจอได้เลย โดยมีให้เลือกแบบ Silent คือเงียบ หรือ Voiced คือมีเสียงบรรยาย
สำหรับคนเล่นเกม ถูกใจแน่นอน เพราะมี Game Boost ช่วยให้ปรับแต่งประสิทธิภาพเครื่องให้เล่นเกมได้เต็มที่

Multi-Windows เปิด 2 แอปพร้อมกันได้ ทั้งแนวตั้ง และแนวนอน เวลาไม่ใช้ก็ลากเส้นแบ่งเก็บกลับไปเหมือนเดิม
ดูวีดีโอซ้อนบนหน้าจอได้ อันนี้ลองบน YouTube ไม่รองรับ แต่ LINE TV ทำได้ ก็เลยคิดเอาว่า น่าจะเป็นที่แอป LINE TV ที่ดูแบบซ้อนจอได้

ฟีเจอร์หลายอย่างนำไปใช้ได้จริง ช่วยให้สะดวกจริง เป็นผลมาจาก XOS 5.0 นั่นเอง