🇯🇵5 ที่เที่ยวต้องไปไม่งั้นไปไม่ถึง kyushu🇯🇵

คิวชู(Kyushu) เป็นเกาะที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะหลักฮอนชู อยู่ทางใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ ธรรมชาติที่สวยงาม เต็มไปด้วยต้นไม้พรรณไม้นานาชนิด เนื่องจากอากาศที่อบอุ่นกว่าช่วงตอนบนของประเทศ ทำให้ภูมิภาคนี้สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี มีชื่อเสียงทั้งในเรื่องอาหารการกิน วิวชายทะเลที่สวยงามและยังเป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่สำคัญที่สุดของประเทศอีกด้วย มีเมืองฟุกุโอกะเป็นเมืองหลักของภูมิภาค ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของญี่ปุ่น แต่ประชากรไม่หนาแน่นเท่าเมืองใหญ่อื่นๆ มีความทันสมัย บ้านเมืองเป็นระเบียบ ทำให้ขณะนี้ ภูมิภาคคิวชูเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เรามาดูกันว่า สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆที่เป็นที่นิยมของเกาะคิวชูนั้นมีที่ไหนบ้าง

Nakasu street food/Hakata Yatai อีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของเกาะคิวชู คือ Yatai หรือร้านอาหารข้างทางนั่นเอง ซึ่งที่ย่าน nakasu นั้นรวบรวมร้านอาหาร Yatai ไว้มากมาย มีทั้ง Izakaya ปิ้งย่าง ร้านราเมงหรือโอเด้งรสเด็ด หน้าตาน่าเข้าไปทานทุกร้าน ราคาก็สูงนิดหน่อยเมื่อเทียบกับร้านอาหารทั่วไป แต่ถือว่าได้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นโบราณอยู่ไม่น้อย เมนูทั้งหมดเป็นภาษาญี่ปุ่น บางร้านก็จะมีรูปที่หน้าร้าน ก็ต้องอาศัยความใจกล้าสักหน่อย แต่รับรองว่าถ้าได้ลองแล้วจะติดใจ อย่าลืมสั่งเบียร์หรือ Umeshu (เหล้าบ๊วย) มากินแกล้มด้วย เด็ด!

. Kumamoto Castle (ปราสาทคุมะโมโตะ) นอกจากขึ้นชื่อว่าเป็นปราสาทที่แข็งแกร่งที่สุดในญี่ปุ่นแล้วยังได้รับการขนานนามว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย โดยตัวปราสาทนี้มีพื้นที่โดยรอบยาวประมาณ 9 กิโลเมตร ตัวปราสาทมีป้อมปืน 49 ป้อม ประตูป้อมปืน 18 ประตู และประตูขนาดเล็ก 29 ประตู มีหอคอยสูง 2 หอ ทำให้สามารถมองได้รอบทิศจากมุมสูง หอใหญ่จะสูง 30.3 เมตร หอเล็กสูง 19 เมตร เป็นสถาปัตยกรรมแบบศิลปะสมัยต้นเอโดะ บริเวณโดยรอบปราสาทมีต้นซากุระอยู่ประมาณ 800 ต้นทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งบนเกาะคิวชู

Fukuoka Castle Ruins / Maizuru Park ในอดีตนั้น Fukuoka Castle เคยเป็นปราสาทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนเกาะคิวชู แต่ถูกทำลายลงในช่วงปฏิรูปยุคเมจิ ปัจจุบันเหลือเพียงซากของกำแพงและฐานของหอคอยเล็กๆ ในสวน Maizuru ซึ่งเป็นจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงของเกาะคิวชู


Beppu (เบปปุ) เมืองบ่อน้ำร้อนชื่อดังของคิวชู เป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่เกิดขึ้นภายหลังการระเบิดของภูเขาไฟ ประกอบด้วยแร่ธาตุที่เข้มข้นอย่างกำมะถัน แร่เหล็ก โซเดียม คาร์บอเนต เรเดียม มีลักษณะแตกต่างกันทั้งหมด 8 บ่อด้วยกัน 
Umi Jigoku บ่อสีฟ้าเหมือนน้ำทะเล และความสวยงามมากที่สุดในบรรดาบ่อทั้ง8
Oniishibozu Jigoku มีลักษณะคล้ายโคลนเดือดขึ้นมา ที่บ่อนี้ยังมีสระให้เราสามารถแช่เท้าคลายเมื่อยจากการเดินทางอีกด้วย
Yama Jigoku ที่บ่อนี้จะมีน้ำพุร้อนพุ่งขึ้นมาปล่อยควันขาวมีเสียงดังทั่วบริเวณ
Kamodo Jigoku มียักษ์ยืนอยู่บนหม้อต้มเป็นสัญลักษณ์ของบ่อ ภายในมีบ่อน้ำร้อนเล็กๆแตกต่างกันอีก 6 บ่อ และยังมีไข่ต้มน้ำพุร้อนจิ้มเกลือและซอสให้ได้ลองซื้อทาน คู่กับน้ำหวานไซเดอร์ชื่นใจไปอีก
Oniyama Jigoku เป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมดาที่มีไฮไลท์อยู่ที่มีจระเข้ที่เลี้ยงไว้ให้เราเข้าไปเดินดูได้
Shiraike Jigoku เป็นบ่อน้ำพุร้อนสีขาวคล้ายน้ำนม มีสวนญี่ปุ่นสวยงามล้อมรอบ
Chinoike Jigoku เป็นบ่อน้ำพุร้อนสีแดงที่เกิดจากธาตุเหล็กจำนวนมาก
Tatsumaki Jigoku มีลักษณะคล้ายน้ำพุร้อนที่จะพุ่งขึ้นมาเป็นเวลาทุกๆครึ่งชั่วโมง

Dazaifu Tenman-gū (ศาลเจ้าดาไซฟุ) มีชื่อเสียงเรื่องการศึกษาเล่าเรียน นักเรียนเตรียมสอบมักจะมาขอพรให้สมหวัง ศาลเจ้าดาไซฟุแงนี้มีขนาดค่อนข้างใหญ่ช่วงปีใหม่ต่างมีผู้คนหลั่งไหลมาขอพรกันเป็นจำนวนมาก ระหว่างทางมาศาลเจ้าก็จะมีร้านรวงขายของที่ระลึก และของกินตลอดทาง รวมถึงร้านสตาบัคดีไซน์สวยเก๋ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันด้วย เรียกว่าตลอดทางเดินได้ไม่มีเบื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่