"แม่จ่านิว" โวย หลังเจอกระแส แก๊งทวงหนี้รุมตีลูกชายเจ็บหนัก โต้ข่าว ออกจาก รพ.
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_2668368

จากกรณีที่มีข่าวแพร่สะพัด โดยอ้างแหล่งข่าวด้านการสืบสวน ระบุว่า กรณีที่นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ “จ่านิว” นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ถูกกลุ่มคนร้าย 4 คน จู่โจมทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส โดยเฉพาะบริเวณศีรษะและดวงตา เหตุเกิดที่ปากซอยรามอินทรา 109 แขวง และ เขตมีนบุรี กทม. กำลังตรวจสอบประเด็นเรื่องหนี้นอกระบบ

เพราะมีข้อมูลพบว่า จ่านิวมีปัญหาทางการเงิน และยังเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อออนไลน์แห่งหนึ่ง ว่าในอดีตเคยย้ายบ้านไปหลายพื้นที่ทั้ง มีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง เพราะต้องหลบเจ้าหนี้ ซึ่งประเด็นเรื่องหนี้นี้ ชุดสืบสวนพุ่งเป้าและจะตรวจสอบว่าเจ้าหนี้เหล่านี้คือใคร ซึ่งจะได้ขยายผลว่ามีส่วนร่วมในการรุมทำร้ายจ่านิวหรือไม่ อย่างไรก็ดีในส่วนของประเด็นอื่นๆ ตามที่ได้เสนอเป็นข่าวไปแล้วนั้น

เรื่องเก่า แต่ถูกเอามาปั่น ท้าไปตรวสอบเลย!

ล่าสุด เมื่อเวลา 08.50 น. ของวันที่ 1 ก.ค. นางพัฒน์นรี ชาญกิจ แม่ของนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ (จ่านิว) เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่า ตนย้ายบ้านครั้งสุดท้าย ประมาณ 9 ปีที่แล้ว เมื่อประมาณปี 2553 โดยบ้านหลังปัจจุบันนั้น อยู่มาครบ 10 ปี ในปีหน้า ส่วนประเด็นเรื่องหนี้นอกระบบ ตัดไปได้เลย เพระทั้งครอบครัวของเราไม่มีเรื่องนี้มากกว่า 10 ปี แล้ว และได้ชำระหนี้กันไปหมดทุกบาทุกสตางค์

หากจะมีหนี้ก็คงมีเรื่องค่าเช่าบ้าน ซึ่งในช่วงหลายปีก่อน อาจจะมีการจ่ายค้างที่ล่าช้า แต่ในปัจจุบัน จ่ายตรงทุกเดือน ส่วนหนี้ส่วนตัวของนิวนั้น คือหนี้ กองทุนเงินให้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ที่ กยศ.จะทวงเงินด้วยการส่งคนมารุมไล่ตี ส่วนหนี้นอกระบบส่วนตัวของนิวนั้น ไม่มี เพราะนิวเป็นคนที่ทำงาน หาเงิน และใช้เงินด้วยความประหยัด ใช้ชีวิตประจำวันด้วยการใช้บริการรถสาธารณะ กินข้าวแกงเหมือนคนทั่วไป

“จะบ้าเหรอ ท้าให้ไปดู หรือไปสืบได้เลย ว่าจ่านิวมีการกู้หนี้นอกระบบหรือไม่ อย่างไร

โดยแม่จ่านิว ได้กล่าวปิดท้ายอีกว่า มีมีกระแสข่าวออกมาแบบนี้ เพราะอ้างคำสัมภาษณ์เก่าๆของลูกชาย ซึ่งเป็นเรื่องความหลังเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก ที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากที่เกิดขึ้นมามากกว่า 10-20 ปีแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

ทั้งนี้ จากกรณีที่มีการแจ้งว่า นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว จะออกจากโรงพยาบาลรามาธิบดี หลังอาการดีขึ้น แต่ยังไม่ทราบเวลาในวันนี้นั้น นางพัฒน์นรี ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะแพทย์ต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิดอยู่ โดยต้องดูว่าจะต้องให้ยาลดบวมหรือไม่ หลังจากนี้ เพราะจะมีผลกระทบต่อภูมิต้านทาน เนื่องจากว่าตาขวายังไม่ปกติดี ซึ่งจะพักรักษาตัวโรงพยาบาล ประมาณ 3 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน เป็นอย่างน้อย