ท่านที่ยังไม่ได้ดูดาบมังกรหยกภาคไหนมาก่อนเราเชียร์ให้ดูภาคล่าสุดนี้เพราะเก็บเนื้อหาค่อนข้างครบ งานภาพสวยโปรดักชั่นดี บทมีความผสมผสานกับยุคสมัยใหม่ ไม่ได้เน้นบู๊กำลังภายในอย่างเดียว มีเรื่องความรักการเมืองเข้ามาเกี่ยว การเล่าเรื่องราวทำได้ดี นักแสดงเล่นได้สมบทบาท ไม่ต้องดูภาค 1 มาก่อนก็สามารถแยกดูเป็นภาคได้ แต่การไล่ดูตั้งแต่ภาคแรกได้รู้ความเชื่อมโยงแต่ละภาคจะเพิ่มอรรถรสความสนุกในการรับชมมากขึ้นค่ะ ต่อจากนี้มีสปอยเนื้อหาสำคัญหากยังไม่เคยดูภาคไหนมาก่อนเราเตือนท่านไว้ตรงนี้ค่ะ ^0^

    พูดถึงดาบมังกรหยกเวอร์ชั่นที่ติดในใจหยิบมาดูซ้ำบ่อยๆ คือ ดาบมังกรหยกปี 2003 ซู่วโหย่วเผิง-เจียจิ้งเหวิน-เกาหยวนหยวน ตอนนั้นยังเด็กแต่จำได้ว่าติดมาก ช่อง 3 ฉายจบก็หาแผ่นดูจนแผ่นจะพัง ผ่านมานานจนมีโอกาสได้ดูภาค 2019 ซึ่งตอนแรกชั่งใจจะดูดีมั้ยนะ เพราะพระเอกค่อนไปสไตล์พระเอกฟิค น้องหล่อมากเห็นแว๊บแรกแต่ยังติดภาพรุ่นเก่าขึ้นหิ้งไปแล้ว แต่ติดใจงานสร้างของทีมผกกจากมังกรหยก 1 ปี 2017 ที่ละเอียดใส่ใจทุกองค์ประกอบงานภาพงานศิลป์แทบทุกอย่างจนเนื้องานซีรีส์สร้างออกมาได้ประทับใจเลยเปิดใจดูดาบมังกรหยก เวอร์ชั่น 2019 และหลังจากที่ได้ดูจบคือยังหลุดจากเวอร์ชั่นล่าสุดไม่ได้ค่ะ

      
     ดาบมังกรหยก 2019 มีโอกาสได้ดูแค่ 2 เวอร์ชั่นแต่ตวามประทับใจให้ไล่ๆกัน ตอนนี้ภาค 2019 น่าจะตีขึ้นมาแล้วในความรู้สึก  หลายๆอย่างในภาคนี้รู้สึกสร้างได้ละเอียดขึ้นจากจำนวนตอน 50 ตอน มีเวลาในการปูเรื่องให้ความสำคัญกับตัวละครหลายตัว ที่เด่นขึ้นมาเฉิดฉายมากคือท่านฑูตซ้ายเซียวงานดีมาก ขอกราบทีมแคสติ้งที่ไปแคสเฮียแกมาเล่นจริงๆ เลิฟไลน์ของท่านเซียวก็เป็นพาร์ทที่ลืมไม่ลงเช่นกัน จนสานไปถึงรุ่นลูก


      พาร์ทเตียบ่อกี้เป็นเด็ก การพบรักของเตียชุ่ยซัวและฮึงซู่ซู่ พ่อแม่เตียบ่อกี้ก็ทำได้ซึ้งใจ ยกซีนให้พ่อแม่เป็นพระนางช่วงแรกของเรื่องไปเลย ช่วงเกาะน้ำแข็งอัคคีที่อยู่กับเจี่ยซุ่นจนไปถึงโศกนาฏกรรมครอบครัวเตียที่บู๊ตึ๊งเสียน้ำตาไปเยอะ พาร์ทดราม่าถือว่าเป็นจุดแข็งของภาคนี้เลยเพราะมีเวลาปูความสัมพันธ์ของตัวละคร ทำให้การพบพรากลาจากในเวอร์ชั่นนี้ดูแล้วยิ่งอินลึก

      มาถึงพระเอกของเราเตียบ่อกี้ตอนโต ตอนแรกลังเลกับพระเอกหน้าใสปากแดงคนนี้ว่าจะเอาเรื่องอยู่มั้ย จนตอนนี้ต้องบอกว่าโดนน้องเจิงซุ่นซีตกไปเต็มๆค่ะ ฉากต่อสู้เล่นเองเยอะอยู่จากที่ได้ดูเบื้องหลังมา ฉากดราม่าพบอาจารย์ปู่ที่บู๊ตึ๊ง พบเจี่ยซุ่นพ่อบุญธรรมน้องทำอินน้ำตามาหลายที น้องสามารถแสดงแบกบททั้งเรื่องไว้ได้ยังมือใหม่แต่เล่นได้ขนาดนี้น่าชื่นชม ที่สำคัญมีเคมีกับทั้งสี่สาวในเรื่อง เคมีดีมากโดยเฉพาะกับมินมินนางเอกของเรื่อง พึ่งรู้ว่าน้องไม่ได้มาจากสายงานละครโดยตรงและเป็นไอดอลมาก่อน ขอชมว่าแสดงได้ดีเข้าถึงบทมาก คิดว่าเป็นเตียบ่อกี้ที่เดินออกมาจากนิยาย(เป็นคนดีกว่าในนิยาย) เตียบ่อกี้หรือจางอู๋จี้เวอรชั่นนี้แคสได้โดนใจจริงต้องกราบทีมแคสติ้งอีกครั้งตาแหลมคม ส่วนนึงที่ยังติดใจวนดูอยู่เพราะรู้สึกว่าคนนี้คือเตียบ่อกี้ ใสซื่อสมอายุ (ช่วงที่โดนหลอกคือดูโดนหลอกจริงจังเด็กน้อยเอ้ย) เป็นคนดีมีคุณธรรมใจดีเกินไป แทบไม่เคยฆ่าใครหรือสู้เอาเป็นเอาตายจริงจัง (ส่วนตัวคิดว่าสเกลระดับเตียบ่อกี้ถ้าเป็นคนไม่ดีคนตายเรียบ) ได้เห็นว่าน้องเจิงพัฒนาฝีมือการแสดงไปพร้อมๆกับบทเตียบ่อกี้ที่ต้องรับภาระหน้าที่ใหญ่ในการเป็นประมุขพรรคเม้งก่าและรับศึกมองโกล เป็นเตียบ่อกี้ที่น่าเอาใจช่วยและน่าเอ็นดูไปพร้อมๆกัน ยิ่งช่วงท้ายๆยิ่งฉายแววเล่นแนวๆนี้อีกได้หลายเรื่องเลยจากที่เคยสบประมาทเด็กคนนี้ไว้ต้องโดนสาปให้หลงรักน้องซะเอง XD


จะพูดถึง 4 สาว พาร์ทการเมืองตัวละครอย่างจูหยวนจาง และฉากต่อสู้รวมๆ ในพาร์ทต่อไป