สวัสดีครับ พบกับผม เต้ อีกแล้วนะครับ หายกันไปนานเลยครับสำหรับกระทู้รีวิว หลังจากกระทู้รีวิว Xiaomi Mi 9 ไปแล้ว ก็ไม่มีกระทู้รีวิวออกมาเลย 555+ วันนี้ผมก็ได้ Xiaomi Mi 9 SE ที่เป็นรุ่นเล็กที่สเปกไม่เล็กมาฝากกันครับ Xiaomi Mi 9 SE ในจีนอาจจะเปิดตัวมาซักพักใหญ่แล้ว ณ วันที่ผมเขียนรีวิว
ในประเทศไทยได้เปิดขาย Mi 9 SE โดยไม่จัดงานเปิดตัว ซึ่งถ้าใครเป็น Mi Fans อาจจะทราบดีว่า Xiaomi Mi 9 SE เลื่อนการเปิดตัวมาหลายครั้งแล้ว บางครั้งคิดว่างานนี้น่าจะเปิด แต่ก็ไม่ได้เปิด และข้ามไปขายเลย ความเห็นส่วนตัวของผม การมาของ Mi 9 SE นั้นอาจจะมาแทน Mi 8 Lite ที่เป็นรุ่นเล็กราคาถูกเมื่อปีที่แล้วก็อาจจะเป็นไปได้ แต่ผมรู้สึกว่า ราคา Mi 9 SE อาจจะเปิดราคาแพงไปซักหน่อยในความคิดผม เพราะมือถือราคาถูกส่วนใหญ่แล้วจะเป็น Redmi ซะมากกว่า และ Xiaomi ช่วงราคากลางๆหลังๆ มานี้ราคาเริ่มสูงขึ้น อาจจะไม่ให้ราคาไปชนกับ Redmi ก็เป็นไปได้
Mi 9 SE สเปกบางอย่างถูกลดลงก็จริง แต่ก็ยังคงฟีเจอร์หลายๆ อย่างที่ใกล้เคียง Mi 9 ไว้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นบอดี้โลหะ กล้องหลังสามตัว สามระยะ หน้าจอ Super AMOLED หรือ สแกนลายนิ้วมือใต้จอ แต่หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินข่าว Redmi K20 หรือ Redmi K20 Pro หรือที่ไทยจะเรียกว่า Mi 9T และ Mi 9T Pro บางคนอาจจะรอเจ้าสองรุ่นนี้อยู่ แล้ว Mi 9 SE จะอยู่ตรงไหนของตลาด? ถ้าให้ผมคาดเดา ผมคิดว่า Redmi K20 หรือ Mi 9T อาจจะมาในราคาที่ถูกกว่า Mi 9 SE แต่ไม่รู้จะเปิดตัวมาเท่าไหร่ อาจจะซัก 8990-9990 บาท ก็ได้ครับ แต่ดูจากสเปก Redmi K20 ที่ใช้ Snapdragon 730 แล้ว ราคาถูกกว่า Mi 9 SE อาจจะเป็นไปได้ยาก แต่ก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะอาจจะลดสเปกบางอย่างลง
เกริ่นกันมาเยอะพอสมควรเลยครับ ไปดูรีวิวกันได้เลยครับ
การรีวิว Mi 9 SE ครั้งนี้ ผมเพิ่งได้เครื่องมาเพียง 5 วันก่อนการเขียนรีวิวครับ ถ้ามีอะไรผิดพลาด หรือผมพลาดประเด็นไหนไป ก็ขออภัยด้วยนะครับ
และการเขียนรีวิวครั้งนี้ สไตล์การเขียนหรือรูปภาพอาจจะมีความคล้ายกันหรือยกข้อความรีวิว Mi 9 มาใช้ เพื่อให้ผู้อ่านอ่านเปรียบเทียบกับ Mi 9 ได้ง่ายขึ้นและสเปกบางอย่างมีความเหมือนกันผมจึงยกข้อความจากบทความรีวิว Mi 9 มาบ้างหรือดัดแปลงมาใช้ในการเขียนรีวิวครั้งนี้ด้วยนะครับ
ส่วนใครที่อยากดูเป็นวีดีโอ เชิญด้านล่างนี้ได้เลยครับ
กล่องของ Mi 9 SE นั้นจะมาต่างจากของ Mi 9 ตรงที่ภายนอกจะเป็นสีขาว ไม่มีลวดลายหรือการเล่นสีสันเหมือนกล่อง Mi 9 แต่ก็ถือว่าดูดีครับ
ด้านข้างกล่องก็จะสังเกตว่าจะมีสติกเกอร์สีแดง Global Version ติดอยู่ เพื่อให้รู้ว่าเป็นเครื่องที่ไม่ใช่เวอร์ชันจีน
ด้านหลังก็จะบอกสเปกจุดเด่นของ Mi 9 SE คร่าวๆ ตัวเครื่องที่ผมได้มารีวิวจะเป็นสีน้ำเงิน Ocean Blue Ram 6GB, ความจุ 128GB ครับ
สเปกตัวเครื่อง
ราคา 11,999 บาท
ขนาดตัวเครื่อง 147.5 x 70.5 x 7.45 มิลลิเมตร
หน้าจอแสดงผลขนาด 5.97 นิ้ว AMOLED ความคมชัด Full HD+ อัตราส่วนหน้าจอ 19.5:9
ระบบปฏิบัติการ MIUI 10 บน Android 9 Pie
CPU: Snapdragon 712
GPU: Adreno 616
RAM 6GB
ความจุตัวเครื่อง 128GB ใช้หน่วยความจำแบบ UFS 2.1
กล้องหลัง 3 เลนส์ 13 + 48 + 8 ล้านพิกเซล
กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 มุมกว้าง 123 องศา
กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล F1.75 Sony IMX586
กล้อง Telephoto 8 ล้านพิกเซล F2.4
กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล F2.0
แบตเตอรี่ 3070mAh
ในกล่อง Mi 9 SE
เปิดกล่องมาก็จะจะกับกล่องชั้นแรกที่เขียนว่า Designed by Xiaomi ส่วนตัวผมชอบมาก มันทำให้ดูดีและดูแพงดีครับ
พอถัดจากกล่องชั้นแรกลงมา อุปกรณ์ในกล่องก็จะมี ตัวเครื่อง เคสยางแบบ TPU สีดำ ส่วนตัวผมมองว่า น่าจะเป็นแบบใสมากกว่า เพราะตัวเครื่องเป็นสีน้ำเงิน ไม่ใช่สีดำ และต่อมาก็จะเป็น คู่มือ และการรับประกัน เข็มจิ้มถาดซิม หัวแปลง Type C เป็น 3.5 สายชาร์จ
ภายนอก
หลังจากที่ผมได้ลองจับดูครั้งแรก ตอนแรกผมนึกว่าจะได้บอดี้เป็นพลาสติก แต่จริงๆ แล้วเป็นบอดี้โลหะเหมือน Mi 9 นั้นแหละ แต่แค่ความรู้สึกแรกมันเหมือนไม่ใช่แค่นั้นเอง 555+ ตอนนั้นคิดแค่ว่ามือถือราคาหมื่นกว่า อาจจะได้บอดี้พลาสติกเหมือนบางยี่ห้อก็ได้
สีของฝาหลังนั้นจะเป็นสีที่คล้ายๆ สีรุ้ง เมื่อกระทบกับแสง ซึ่งเหมือนฝาหลัง Mi 9 เลย แต่ผมรู้สึกว่าฝาหลังของ Mi 9 SE สีรุ้งของฝาหลังอาจจะดูไม่มากเท่ากับ Mi 9 ก็เป็นเรื่องปกติที่จะเป็นแบบนั้น เพราะถ้าฝาหลังสวยเหมือนกัน แล้วใครจะซื้อ Mi 9 จริงมั้ยครับ 555+
ถ้าตามตัวเลขสเปกแล้ว Mi 9 SE มีขนาดตัวเครื่องที่บางกว่า Mi 9 แต่พอจับถือแล้ว จะรู้สึกได้ชัดเจนว่า Mi 9 ดูบางกว่า เพราะขอบตัวเครื่องด้านหลังของ Mi 9 ทำมาโค้งรับกับมือมากกว่า เวลาจับ เราเลยรู้สึกเหมือน Mi 9 บางกว่า แต่สำหรับ Mi 9 SE แล้ว กับขนาดตัวเครื่องที่เล็กกว่า ก็เหมาะสมแล้ว ที่จะไม่ทำตัวเครื่องด้านหลังให้โค้ง เพราะผมว่ามันน่าจะทำให้รู้สึกเหมือนหลุดมือได้ง่าย สำหรับคนที่มือใหญ่แบบผม 555+
กล้องหลังที่นูนออกมาก็ดูจะนูนน้อยกว่า Mi 9 เล็กน้อย ถ้าดูจากมุมนี้ เพราะ Mi 9 ขอบตัวเครื่องด้านหลังมีความโค้ง ถ้ามองมุมเดียวกับ Mi 9 จะดูนูนกว่า ทั้งที่จริงแล้วนูนพอๆ กันเลย ผมบอกเลยว่า เคสที่แถมมานั้น ไม่สามารถป้องกันกระจกหน้ากล้องได้เลย เพราะขณะที่ใส่เคสแล้วก็กล้องก็ยังนูนกว่าเคสออกมานิดหน่อย แนะนำว่าให้ซื้อเคสที่หนากว่านี้มาใส่ดีกว่าครับ
และด้วยความที่กล้องมันนูนออกมา ก็ทำให้การวางมือถือโดยที่ไม่ใส่เคส มันก็จะเอียงๆ แบบนี้แหละครับ 555+ และถ้าใส่เคสที่แถมมา แล้ววางลงบนโต๊ะกระจก เราก็จะได้ยินเสียงเหมือนกระจกกระทบกระจกอีกด้วยครับ ระวังกันด้วย 555+
ด้านหน้า จอ Mi 9 SE ถึงจะไม่ใช่จอเต็มแบบไร้ติ่งมา แต่จุดเด่นก็คงจะเป็นจอ AMOLED ของ Samsung ด้วยขนาดหน้าจอ 5.97นิ้ว Full HD+ 2340x1080 พิกเซล ความละเอียดหน้าจอ 432 PPI ที่รองรับการแสดงผล HDR เหมือน Mi 9 ซึ่งหน้าจอตัวนี้การแสดงสีสัน ทำได้ใกล้เคียงหรือแทบจะเหมือนกับ Mi 9 เลยครับ เพราะตัวผมใช้ Mi 9 อยู่ และได้วางเทียบกันดูแล้ว และข้อดีของจอ AMOLED คือสู้แสงแดดได้ดีมากครับ ส่วนเรื่องการแสดงสีสันนั้นโดยรวมถือว่าโอเคมากครับ
ส่วนใครที่ห่วงเรื่องจอเบิร์น ผมบอกเลยว่าจอ AMOLED ก็พัฒนาไปค่อนข้างไกลแล้ว จอไม่เบิร์นง่ายเหมือนแต่ก่อนแน่นอนครับ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณด้วยครับว่าใช้งานแบบไหน ตัวผมเองผมใช้หน้าจอประเภทนี้มาหลายรุ่นแล้ว จนทำให้ผมรู้วิธีการยืดอายุจอประเภทนี้ไปได้นานเลยครับ อย่างแรกคือ อย่าตั้งค่าหน้าจอให้เปิดค้างไว้เป็นเวลานาน และอย่าปรับแสงหน้าจอสว่างสุด ควรปรับแสงให้เหมาะสม พยามไม่ใช้แสงหน้าจอสว่างสุดเป็นเวลานาน เช่น 5 นาที 10 นาที และแนะนำว่าให้ใช้โหมดสีของหน้าจอเป็นพื้นฐานครับ ไม่ว่าจะเป็นมือถือยี่ห้อไหนก็ตามครับ แต่ละยี่ห้อที่ใช้จอ AMOLED เดิมโรงงานมาเค้าจะปรับมาให้สีดูสดใส น่าใช้งานก็จริง แต่สีมันเกินความจริงไป และทำให้หน้าจอเบิร์นไวกว่าโหมดพื้นฐานด้วยครับ และข้อดีของการใช้สีหน้าจอโหมดมาตรฐาน จะทำให้สีสันของภาพดูสมจริงกว่าครับ แค่นั้นเองครับ แค่นี้ก็ช่วยยืดอายุจอเราไปได้นานเลยทีเดียวครับ จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ^^
Mi 9 SE มากับติ่งที่เหมือนกับ Mi 9 แต่ถ้าลองสังเกตในภาพดีๆ จะสังเกตว่าลักษณะของติ่งจริงๆ มันควรเป็นรูปตัว U แต่ทำไมตอนใช้งานมันเหมือนรูปหยดน้ำ ผมเจอจุดนี้ตอนที่ผมหมุนจอเป็นแนวนอน แล้วติ่งจะเป็นรูปตัว U แปปนึง แล้วมันก็กลับมาเป็นรูปหยดน้ำอีกที ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจเหตุผลว่าทำไมไม่ให้มันเป็นตัว U ไปตลอด จะปรับให้มันเป็นรูปหยดน้ำทำไม ซึ่งทำให้พิเซลส่วนที่แหว่งไปนั้นไม่ได้ใช้งาน ซึ่งอาจจะทำให้จอเสื่อมสภาพไม่เท่ากัน... อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ผมสังเกตมาครับ มันไม่ได้มีผลกับการใช้งาน ผมแค่อยากบอกให้ฟังเฉยๆ ครับ 555+
[SR] รีวิว Xiaomi Mi 9 SE น้องเล็ก จอเล็ก แต่สเปกไม่เล็ก
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้