[SR] รีวิวจริง เมนู Cookbook จาก FUFU Shabu

จะมาบอกต่อสำหรับคนชอบกินชาบูจ้า พอดีเราเห็นในเพจของ FUFU Shabu ที่ทำเมนูต่างๆ ออกมาคล้ายๆ Cookbook หลายเมนู แต่ละเมนูก็เอาพวกวัตถุดิบของร้านเนี่ยแหละมาทำ ดูในเพจแล้วน่าลองทำตามดี คิดว่าไม่น่าจะยากอะไร ปกติไปกินฟู่ฟู่อยู่แล้วรสชาติน้ำซุปค่อนข้างดี ของเยอะ แต่ก็กินแค่ชาบูปกติไม่เคยคิดเอาพวกวัตถุดิบมาทำเป็นเมนูใหม่ๆ เหมือนกัน เลยอยากรู้ว่ารสชาติเนี่ยจะอร่อยแบบที่ในเพจบอกหรือเปล่า (ทำจริง กินจริง บอกรสชาติกันแบบตรงๆ เลยจ้า)
อันดับแรกเลือกน้ำซุปก่อน ที่นี่มี 6 น้ำซุป เลือกได้ 2 น้ำซุป เราเลยเลือกซุปเห็ดหอมกับซุปต้มยำมา
เมนูแรกที่เลือกมาทำตามคือ “เมนูโดมเนื้อริบอาย”
วัตถุดิบ
           - เนื้อริบอาย
           - กะหล่ำปลี
           - กระเทียม 
           - ต้นหอม 
วิธีทำ
           - จัดกะหล่ำปลีให้เป็นโดมสูงๆ 
           - นำเนื้อริบอายวางรอบๆ
           - รอน้ำซุปเดือด แล้วค่อยๆ ตักราด ให้เนื้อสุก เลือกความสุกของเนื้อได้ตามใจชอบนะ

เสร็จแล้วก็ลองเทียบกันหน่อยจ้า ระหว่างฟู่ฟู่ทำกับเราทำ (ก็พอได้อยู่นะ 55555)
ส่วนเรื่องรสชาติ สำหรับเมนูนี้เราชอบนะอาจเป็นเพราะชอบกินเนื้ออยู่แล้ว เนื้อริบอายคุณภาพดี นุ่มกำลังดี เนื้อสไลด์มาแบบชิ้นไม่หนา เวลาที่ราดน้ำซุปร้อนๆ ลงไป เลยสุกง่าย น้ำซุปที่ราดเนื้อมีความหวาน เป็นเมนูที่ได้รสชาติของเนื้อจริงๆ เมนูนี้ยังไม่ได้รสชาติอะไรมากได้แค่รสชาติของเนื้อกับน้ำซุปที่ใช้ราด เราเลยลองเอาเนื้อไปจิ้มกับน้ำจิ้มในร้านฟู่ฟู่ปรากฏว่าอร่อยใช้ได้เลย ได้รสชาติน้ำจิ้มเพิ่มเข้ากันได้ดี เราลองจิ้มสองแบบคือน้ำจิ้มซีฟู้ดกับน้ำจิ้มสูตรง่ายของฟู่ฟู่ เราชอบรสชาติเวลาจิ้มกับน้ำจิ้มฟู่ฟู่มากกว่าน้ำจิ้มซีฟู้ดนิดนึง เพราะจะมีรสชาติทั้งเค็ม หวาน เปรี้ยวครบรสมากกว่าเวลาจิ้มกับเนื้อ
แต่... สำหรับใครที่ไม่ชอบกินเนื้อก็เปลี่ยนเป็นหมูหรือไก่แทนก็ได้นะ อร่อยเหมือนกันแต่แนะนำว่าเป็นพวกหมูสันคอดีกว่าที่มีมันติดจะนุ่มกว่า หรือจะสั่งเนื้อวัวแบบอื่นก็มีให้เลือก เราได้ลองเนื้อไก่ของที่นี่ก็ถือว่าดีเลยนะ เป็นไก่สไลด์บางทำให้เวลานำไปลวกจะนิ่ม แปลกกว่าบางที่คือชอบให้เนื้อไก่เป็นก้อนๆ

เมนูต่อไปที่เลือกมาคือ “เมนูยำปลาแซลมอน”
วัตถุดิบ
           - เนื้อปลาแซลมอน
           - เห็ดเข็มทอง
           - เห็ดหูหนูขาว
           - ต้นหอมญี่ปุ่น
           - กะหล่ำปลี
           - น้ำจิ้มฟู่ฟู่
           - น้ำจิ้มซีฟู้ด (อันนี้เราขอเพิ่มจากสูตรหน่อย)
วิธีทำ
           - ลวกของสดทั้งแซลมอนและผักลงไป
           - ผสมน้ำยำ (แนะนำให้ใช้น้ำจิ้มฟู่ฟู่แบบง่าย)
           - จัดจานและราดน้ำยำลงบนแซลมอน
ในสูตรของฟู่ฟู่บอกว่าให้ใช้น้ำยำเป็นน้ำจิ้มฟู่ฟู่แต่เราขอลองเป็นน้ำจิ้มซีฟู้ดด้วย มาดูกันว่าอันไหนจะเด็ดกว่ากัน
สำหรับรสชาติจานนี้ดีทั้งสองแบบเลยทั้งน้ำจิ้มฟู่ฟู่และน้ำจิ้มซีฟู้ด แต่ใจเราแอบเอียงไปทางน้ำจิ้ม ซีฟู้ดมากกว่า เพราะมีความเเซ่บมากกว่า ถ้าพูดถึงยำแบบไทยๆ ก็ต้องนึกถึงน้ำจิ้มซีฟู้ดอยู่แล้ว จะบอกว่าน้ำจิ้มซีฟู้ดที่นี่อร่อยได้รสชาติซีฟู้ดเข้มข้น หอมมะนาว เปรี้ยวนำ เผ็ดกำลังดี ถ้าใครชอบเผ็ดหรือเปรี้ยวอีกก็ใส่มะนาวกับพริกเพิ่มได้ ส่วนน้ำยำตามสูตรที่ใช้น้ำจิ้มฟู่ฟู่ก็โอเคนะไม่ได้แย่ จะมีรสชาติเค็ม หวาน เปรี้ยว รสชาติกลางๆ สามารถปรุงรสชาติเพิ่มได้ แต่อาจจะไม่ได้แซ่บเท่าน้ำจิ้มซีฟู้ด เนื้อแซลมอนดี แต่เวลาลวกต้องระวังหน่อยเพราะเนื้อจะเละ เวลาราดน้ำยำแล้วแนะนำให้กินเลย เพราะถ้าทิ้งไว้น้ำจากผักจะออกมาทำให้น้ำยำเสียรสชาติและจืด
**ขอแนะนำถ้าใครไม่อยากกินเเซลมอนอย่างเดียวก็ใช้อย่างอื่นยำด้วยก็ได้ เมนูซีฟู้ดที่นี่เยอะและสด ทั้งกุ้ง หอย ปู แต่ที่เด็ดมากคือปลากระพงขาว(เนื้อแน่นมากลองแล้วจ้า) ใส่พวกลูกชิ้นยำก็น่าสนใจนะ เอาจริงๆเลือกได้ตามใจชอบเลย ผักก็เหมือนกันเลือกที่อยากกินได้เลย เราก็ไม่ได้ทำตามสูตรเป๊ะขนาดนั้น หรือใครอยากลองเปลี่ยนน้ำจิ้มก็ได้นะเพราะฟู่ฟู่มีน้ำจิ้มอยู่หลายสูตร แต่ถ้าถามเราขอเลือกเป็นซีฟู้ดกับน้ำจิ้มฟู่ฟู่แบบง่ายแหละ

เทียบสักหน่อยระหว่างฟู่ฟู่กับของเรา
ฝีมือเราเอง อวดกันหน่อยจ้า
สองเมนูผ่านไปเริ่มแน่นแต่เราไม่หยุดง่ายๆ หลังจากทำตามใน Cookbook แล้วเราเลยอยากลองคิดเองบ้างเอาแบบง่ายๆ เดินไปตรงโซนอาหารแล้วเห็นหมูตุ๋นที่เขาบอกว่าเป็นเมนูเด็ดของไต้หวันเลยขอลองสักหน่อย แต่ถ้าราดข้าวก็ธรรมดาไป เราเลยใช้เส้นบะหมี่ไต้หวันแทน เมนูนี้มีวัตถุดิบแค่สองอย่างคือ
เส้นบะหมี่ไต้หวันกับหมูตุ๋น แค่นั้นเอง
หน้าตาก็จะออกมาประมาณนี้
พูดถึงรสชาติสำหรับเมนูของตัวเองบ้าง จะบอกว่าหมูตุ๋นไม่ได้มาเป็นเศษนะมาเป็นชิ้นเลยจ้า รสชาติจะคล้ายกับพะโล้บ้านเรา แต่จะออกไปทางเค็มมากกว่า หมูตุ๋นนุ่มมาก เส้นบะหมี่ไต้หวันก็จะนิ่มๆ ควรนำไปลวกแค่แปปเดียวเหมือนให้ผ่านความร้อนถ้าลวกนานเส้นจะเละ เราชอบเต้าหู้ก้อน เลยลวกเต้าหู้ทอดใส่ลงไปด้วยแต่ลวกไม่นานนะ มันก็จะยังกรอบอยู่ไม่นิ่มเกินไปเข้ากับบะหมี่หมูตุ๋นดี
**แนะนำถ้าใครอยากลองเป็นเส้นอื่นก็ได้นะ เส้นมาม่าหรือเส้นหมี่ฮ่องกงก็น่าสนใจ จะลวกท็อปปิ้งเข้าไปด้วยก็ได้อย่างเช่นพวกฟองเต้าหู้ เผือกทอด หรือลองพวกลูกชิ้นก็ได้ ใครอยากกินผักก็ลวกกว้างตุ้งไต้หวันลงไปหน่อยให้ดูมีสีสันก็ได้ แล้วแต่เลือกเลยจ้า
สามเมนูบอกเลยว่าไม่ใช่แน่นธรรมดาแต่แน่นมาก ขอหยุดของคาวไว้แค่สามเมนูพอ หันมากินของหวานล้างปากกันบ้าง มาฟู่ฟู่ทั้งทีต้องกินของหวานสักหน่อย ที่พลาดไม่ได้ก็คือไอศกรีม hagendaz ไม่รอช้าจัดไปจ้า
จัดไปสองลูกรสแมคคาเดียเมีย ราดท็อปปิ้งแน่นๆ ตามใจชอบทั้งซอสช็อกโกแลต คอนเฟล็ก เยลลี่สตอเบอร์รี่ หรือใครจะใส่พวกพานาคอตต้าหรือเพิ่มผลไมแก้เลี่ยนลงไปด้วยก็ได้นะ
3 เมนูของคาวกับอีก 1 เมนูของหวานผ่านไปอิ่มมาก ท้องเรานี่แน่นไปหมด แต่อร่อยทุกเมนูเลยนะตอนเห็นก็ไม่รู้หรอกว่ารสชาติจะออกมาแบบไหน แต่พอทำออกมาแล้วชิมจริงก็ถือว่าอร่อยอยู่ สูตรอาจจะปรับเปลี่ยนได้แล้วแต่ความชอบของเราเลย อยากเพิ่มอะไรก็เพิ่มได้ ใครอยากทำเมนูอื่นอีกก็ลองเข้าไปดูในเพจของ FUFU Shabu ก็ได้นะมีอีกหลายเมนู เราว่าแปลกใหม่ดี ใช่ว่าจะไปร้านชาบูแล้วจะกินแต่ชาบู ลองหาเมนูใหม่ๆ ทำก็สนุกไปอีกแบบ ใครลองทำตามหรือคิดเมนูใหม่ๆ ได้ลองเอามาแชร์กันได้น้า
ปกติเราก็กินฟู่ฟู่อยู่แล้วแหละแต่จะไปสาขาอื่นมากกว่า ราคารวมทุกอย่างแล้วก็ตกคนละ 588 บาท ถือว่าเป็นราคาที่คุ้มกับความหลากหลายของอาหารและคุณภาพนะ ครั้งนี้ได้ลองมากินที่สาขาเปิดใหม่ที่เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้น 3 เลยเก็บภาพบรรยากาศในร้านและโซนอาหารต่างๆมาฝากด้วย
(สาขานี้ค่อนข้างโล่ง แต่บรรยากาศดี)
  
ชื่อสินค้า:   FuFu Shabu Taiwan
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

    ข้อมูลเพิ่มเติม

  • ได้ทานอาหารฟรีจากร้านเพื่อทำการรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่