เปิดแล้ว เส้นทางเชื่อมโยงเมืองคู่แฝดน่าน-หลวงพระบาง สู่การเติบโตทางเศรษฐกิจไทย-ลาว นักท่องเที่ยวข้ามด่านห้วยโก๋น จ.น่าน วิ่งสู่ หลวงพระบางเพียง 3 ชั่วโมง วันนี้ (27มิ.ย.62) นายพีรเมศร์ วุฒิธรเนติรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) หรือ สพพ.กระทรวงการคลัง พร้อมด้วยท่านวงสะหวัน เขาพะจัน รองเจ้าแขวงหลวงพระบาง ท่านแพง ดวงเงิน อธิบดีกรมขัวทางกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง และท่านแววมณี ดวงดารา รองประธานสภาการค้าและอุตสาหกรรม และประธานสมาคมท่องเที่ยวหลวงพระบาง ร่วมกันแถลงข่าวผลความสำเร็จของโครงการก่อสร้างถนนจากเมืองหงสา – บ้านเชียงแมน เมืองจอมเพชร แขวงหลวงพระบาง “เส้นทางเชื่อมโยงเมืองคู่แฝดน่าน - หลวงพระบาง สู่การเติบโตทางเศรษฐกิจไทย-ลาว” ที่โรงแรมพูลแมน สปป.ลาว
นายพีรเมศร์ ย้ำว่าถนนดังกล่าวสามารถเชื่อมโยงจาก หลวงพระบางต่อไปยังประเทศจีน โดยผ่านถนนหมายเลข 3 และต่อไปยังประเทศเวียดนาม โดยถนน หมายเลข 4 ได้ ดังนั้น การพัฒนาเมืองคู่แฝดจังหวัดน่าน-หลวงพระบาง จะทำให้ประชาชนมีความ เป็นอยู่ที่ดี สามารถเดินทางติดต่อได้สะดวกรวดเร็ว มีการกระจายรายได้ท้องถิ่นในพื้นที่เชื่อมโยง รวมถึง ส่งเสริมภาคธุรกิจและการท่องเที่ยว เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้าไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน
ท่านวงสะหวัน เขาพระจัน รองเจ้าแขวงหลวงพระบาง ขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้การช่วยเหลือทางด้านการเงิน ในการช่วยพัฒนาเส้นทางถนน ดังกล่าว เพราะเป็นเส้นทางที่จะสามารถเดินทางจากหลวงพระบาง ไป จ.น่าน ได้ใกล้ที่สุด และเมื่อถนนเส้นดังกล่าวสร้างแล้วเสร็จแล้ว ยังได้สร้างผลประโยชน์สูงสุดให้กับคน สปป.ลาว และ คนไทย อย่างเห็นได้ชัด โดย เฉพาะ คน สปป.ลาวที่อยู่ในพื้นที่ได้รับการพัฒนาขึ้น ทั้งด้านความเป็นอยู่ การค้า การท่องเที่ยว ที่สำคัญเมื่อหลายคนรับรู้ว่ามีเส้นทางนี้ ก็เชื่อว่า จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน และเส้นทางสายนี้ก็จะต่อเชื่อมไปยังชายแดนเวียดนาม เพียง 290 กิโลเมตรเท่านั้น อย่างไรก็ตามแม้การท่องเที่ยวจะเติบโตแต่ รัฐบาล สปป.ก็จะกวดขัน ให้ความสำคัญเป็นพิเศษให้คงความสวยและเป็นเอกลักษณ์ ของหลวงพระบางต่อไป
เปิดแล้ว เส้นทางเชื่อมโยงเมืองคู่แฝดน่าน-หลวงพระบาง
นายพีรเมศร์ ย้ำว่าถนนดังกล่าวสามารถเชื่อมโยงจาก หลวงพระบางต่อไปยังประเทศจีน โดยผ่านถนนหมายเลข 3 และต่อไปยังประเทศเวียดนาม โดยถนน หมายเลข 4 ได้ ดังนั้น การพัฒนาเมืองคู่แฝดจังหวัดน่าน-หลวงพระบาง จะทำให้ประชาชนมีความ เป็นอยู่ที่ดี สามารถเดินทางติดต่อได้สะดวกรวดเร็ว มีการกระจายรายได้ท้องถิ่นในพื้นที่เชื่อมโยง รวมถึง ส่งเสริมภาคธุรกิจและการท่องเที่ยว เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้าไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน
ท่านวงสะหวัน เขาพระจัน รองเจ้าแขวงหลวงพระบาง ขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้การช่วยเหลือทางด้านการเงิน ในการช่วยพัฒนาเส้นทางถนน ดังกล่าว เพราะเป็นเส้นทางที่จะสามารถเดินทางจากหลวงพระบาง ไป จ.น่าน ได้ใกล้ที่สุด และเมื่อถนนเส้นดังกล่าวสร้างแล้วเสร็จแล้ว ยังได้สร้างผลประโยชน์สูงสุดให้กับคน สปป.ลาว และ คนไทย อย่างเห็นได้ชัด โดย เฉพาะ คน สปป.ลาวที่อยู่ในพื้นที่ได้รับการพัฒนาขึ้น ทั้งด้านความเป็นอยู่ การค้า การท่องเที่ยว ที่สำคัญเมื่อหลายคนรับรู้ว่ามีเส้นทางนี้ ก็เชื่อว่า จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน และเส้นทางสายนี้ก็จะต่อเชื่อมไปยังชายแดนเวียดนาม เพียง 290 กิโลเมตรเท่านั้น อย่างไรก็ตามแม้การท่องเที่ยวจะเติบโตแต่ รัฐบาล สปป.ก็จะกวดขัน ให้ความสำคัญเป็นพิเศษให้คงความสวยและเป็นเอกลักษณ์ ของหลวงพระบางต่อไป