เที่ยวเมืองมรดกโลก "หลวงพระบาง" โดยรถโดยสารระหว่างประเทศเส้นทาง เลย-หลวงพระบาง (30 Jan 14 - 1 Feb 14)
ทริปแบบไม่ทันตั้งตัวนึกอยากไปก็ไปเลย.. เพราะที่บ้านของตัวเองที่ จ.เลย เห็นมีเปิดรถโดยสารระหว่างประเทศเส้นทาง เลย-หลวงพระบาง มาได้ 1 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปหลวงพระบางเลยสักครั้ง ครั้งนี้เลยตัดสินใจไปเที่ยวเมืองมรดกโลกแห่งนี้ ซึ่งค่ารถโดยสารถูกมากๆราคา เที่ยวละ 700 บาท รวมค่าผ่านแดน และค่าอาหารกลางวันที่ต้องแวะพักทานข้าวเที่ยงที่แขวงไชยะบุรีด้วย.. ซึ่งการเดินทางไปเที่ยวหลวงพระบางต้องเตรียมพาสปอร์ตให้พร้อม เพราะต้องผ่านแดนที่ด่าน ตม.ท่าลี่ (ด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง) ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับด่านน้ำเหือง เมืองแก่นท้าว แขวงไซยะบุรี ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง (รวมเสียเวลาที่ด่าน ตม.ทั้งสองฝั่ง และเวลาพักทานข้าวเที่ยงแล้วครับ) ซึ่งหากนับรวมเวลาที่นั่งอยู่บนรถจริงๆก็ประมาณ 7 ชั่วโมง..
- เส้นทางบกที่ข้ามจากสะพานมิตรภาพแม่น้ำเหืองนี้ถือเป็นเส้นทางที่สะดวกที่สุดในการไปหลวงพระบางแล้วครับ เพราะจากเห็นที่หลายๆคนเคยพูดถึง บอกว่าเส้นทางสูงชันน้อยกว่าเส้นทางที่ไปจากเวียงจันทน์ วังเวียง.. แต่เส้นทางจากเวียงจันทน์อาจได้เห็นวิวภูเขาสวยๆมากมาย แต่การลองมาเส้นทางนี้ก็อาจให้อีกบรรยากาศก็เป็นได้ ยังไงก็ลองมากันได้
- ถนนเส้นนี้เป็นทางหลวงหมายเลข 4 ของลาว เป็นถนนลาดยางตลอดทั้งสาย ตรงดิ่งจากด่านท่าลี่ ถึงหลวงพระบางเลยครับ
- หากนำรถมาเองไม่ต้องกลัวว่าจะหาปั๊มน้ำหรือจุดแวะพักยาก เพราะเส้นทางนี้ผ่านหมู่บ้านในลาวเยอะมากตลอดเส้นทางการเดินทาง
- เส้นทางนี้เป็นเส้นทางผ่านแขวงไซยะบุรีของลาว ที่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศไทยหลายจังหวัดทั้ง เชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเลย
- สำเนียงภาษาพูดของคนหลวงพระบาง สำเนียงเดียวกับคนที่แขวงไซยะบุรี เมืองปากลาย เมืองแก่นท้าว เลย หล่มสัก หล่มเก่า ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่พูดภาษาลาวหลวงพระบาง
ทริปนี้เป็นทริปที่ประทับใจมาก ผมให้คะแนน 8 เต็ม 10 เลยแล้วกัน.. ^^
*******คะแนนที่จะให้สำหรับการเดินทางในส่วนต่างๆครั้งนี้********
- อัธยาศัยไมตรีของผู้คน ผมให้ 9 เต็ม 10 เลยครับ เพราะคนที่นี่อัธยาศัยไมตรีดี ยิ้มแย้มกันดีมาก เช่น เจ้าของร้านประชานิยมที่คอยยิ้มแย้มต้อนรับลูกค้า รวมถึงพนักงานของที่พักซึ่งไม่ว่าจะเดินกลับเข้าที่พักกี่รอบ ก็จะคอยพูดทักทายคำว่า สะบายดี ตลอดทุกครั้ง อีกทั้งพี่ๆที่นั่งรถจากเลยมาด้วยกันซึ่งไม่รู้จักกันมาก่อนก็พอถึงหลวงพระบางก็สอบถามกันและแชร์ค่ารถเข้าเมืองด้วยกัน หรือเวลาเจอกลุ่มคนไทยที่อยู่ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆแล้วมาเจอกันอีกครั้งก็จะทักทายพูดคุยสอบถามกันซึ่งผมประทับใจมากๆ หรือตอนเจอนักท่องเที่ยวคุณลุงคุณป้าชาวญี่ปุ่นที่เจอกันและยิ้มให้กันที่ร้านอาหารของเมื่อวาน พอเจอกันในที่ต่างๆก็ยิ้มทักทายกัน แม้จะสื่อสารกันไม่รู้เรื่องก็ตาม ซึ่งถือเป็นความประทับใจดีๆในการเดินทางครั้งนี้ครับ
- เรื่องอาหาร ผมให้ 9 เต็ม 10 ครับ เพราะอาหารที่นี่ถูกปากมากๆ รสชาดดี ถึงขึ้นอร่อยเลยล่ะครับ.. แต่ค่าครองชีพแพง เลยทำให้ราคาอาหารค่อนข้างสูงไปหน่อย
- เรื่องอากาศ สถานที่ท่องเที่ยว ผมให้ 8 เต็ม 10 อากาศช่วงที่เดินทางไปถือว่ากำลังดี อากาศเย็นๆแทบทั้งวัน ไม่ร้อน ส่วนเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวก็อยู่ละแวกเดียวกัน สามารถเดินตะเวนเที่ยวชมได้ ยกเว้นน้ำตกที่อยู่นอกเมืองออกไปที่ต้องเหมารถไปเที่ยว ซึ่งค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งราคาประมาณ 80 บาท ซึ่งถือว่าแพงอยู่นะ..
- เรื่องความสะอาดของบ้านเมือง ให้ 4 เต็ม 10 ซึ่งบางโซนถนนก็ดูสะอาดตาเช่นโซนถนนริมน้ำคาน ย่านตึกเก่า แต่ส่วนใหญ่นอกนั้นที่เดินผ่านขยะริมถนนเยอะมาก ไม่ค่อยมีถังขยะ ถึงมีบางจุดขยะก็ล้นออกมา พ้นออกจากโซนย่านเมืองเก่า ฝุ่นสองข้างทางค่อนข้างเยอะทีเดียว
แต่ยังไงก็ตามถึงโดยรวมแล้วการเดินทางครั้งนี้ก็เป็นทริปที่ประทับใจอีกทริปหนึ่ง ด้วยบ้านเมืองที่ดูเก่าๆโบราณ อากาศดีๆ รวมทั้งอัธยาศัยไมตรีของผู้คน ทำให้ผมประทับใจมากๆ และอยากกลับไปเที่ยวอีกอย่างแน่นอนกับเมืองมรดกโลกที่ยังคงมีชีวิตแห่งนี้ ณ หลวงพระบาง..
[CR] เที่ยวเมืองมรดกโลก "หลวงพระบาง" รถโดยสารระหว่างประเทศเส้นทาง เลย-หลวงพระบาง
ทริปแบบไม่ทันตั้งตัวนึกอยากไปก็ไปเลย.. เพราะที่บ้านของตัวเองที่ จ.เลย เห็นมีเปิดรถโดยสารระหว่างประเทศเส้นทาง เลย-หลวงพระบาง มาได้ 1 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปหลวงพระบางเลยสักครั้ง ครั้งนี้เลยตัดสินใจไปเที่ยวเมืองมรดกโลกแห่งนี้ ซึ่งค่ารถโดยสารถูกมากๆราคา เที่ยวละ 700 บาท รวมค่าผ่านแดน และค่าอาหารกลางวันที่ต้องแวะพักทานข้าวเที่ยงที่แขวงไชยะบุรีด้วย.. ซึ่งการเดินทางไปเที่ยวหลวงพระบางต้องเตรียมพาสปอร์ตให้พร้อม เพราะต้องผ่านแดนที่ด่าน ตม.ท่าลี่ (ด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง) ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับด่านน้ำเหือง เมืองแก่นท้าว แขวงไซยะบุรี ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง (รวมเสียเวลาที่ด่าน ตม.ทั้งสองฝั่ง และเวลาพักทานข้าวเที่ยงแล้วครับ) ซึ่งหากนับรวมเวลาที่นั่งอยู่บนรถจริงๆก็ประมาณ 7 ชั่วโมง..
- เส้นทางบกที่ข้ามจากสะพานมิตรภาพแม่น้ำเหืองนี้ถือเป็นเส้นทางที่สะดวกที่สุดในการไปหลวงพระบางแล้วครับ เพราะจากเห็นที่หลายๆคนเคยพูดถึง บอกว่าเส้นทางสูงชันน้อยกว่าเส้นทางที่ไปจากเวียงจันทน์ วังเวียง.. แต่เส้นทางจากเวียงจันทน์อาจได้เห็นวิวภูเขาสวยๆมากมาย แต่การลองมาเส้นทางนี้ก็อาจให้อีกบรรยากาศก็เป็นได้ ยังไงก็ลองมากันได้
- ถนนเส้นนี้เป็นทางหลวงหมายเลข 4 ของลาว เป็นถนนลาดยางตลอดทั้งสาย ตรงดิ่งจากด่านท่าลี่ ถึงหลวงพระบางเลยครับ
- หากนำรถมาเองไม่ต้องกลัวว่าจะหาปั๊มน้ำหรือจุดแวะพักยาก เพราะเส้นทางนี้ผ่านหมู่บ้านในลาวเยอะมากตลอดเส้นทางการเดินทาง
- เส้นทางนี้เป็นเส้นทางผ่านแขวงไซยะบุรีของลาว ที่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศไทยหลายจังหวัดทั้ง เชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเลย
- สำเนียงภาษาพูดของคนหลวงพระบาง สำเนียงเดียวกับคนที่แขวงไซยะบุรี เมืองปากลาย เมืองแก่นท้าว เลย หล่มสัก หล่มเก่า ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่พูดภาษาลาวหลวงพระบาง
ทริปนี้เป็นทริปที่ประทับใจมาก ผมให้คะแนน 8 เต็ม 10 เลยแล้วกัน.. ^^
*******คะแนนที่จะให้สำหรับการเดินทางในส่วนต่างๆครั้งนี้********
- อัธยาศัยไมตรีของผู้คน ผมให้ 9 เต็ม 10 เลยครับ เพราะคนที่นี่อัธยาศัยไมตรีดี ยิ้มแย้มกันดีมาก เช่น เจ้าของร้านประชานิยมที่คอยยิ้มแย้มต้อนรับลูกค้า รวมถึงพนักงานของที่พักซึ่งไม่ว่าจะเดินกลับเข้าที่พักกี่รอบ ก็จะคอยพูดทักทายคำว่า สะบายดี ตลอดทุกครั้ง อีกทั้งพี่ๆที่นั่งรถจากเลยมาด้วยกันซึ่งไม่รู้จักกันมาก่อนก็พอถึงหลวงพระบางก็สอบถามกันและแชร์ค่ารถเข้าเมืองด้วยกัน หรือเวลาเจอกลุ่มคนไทยที่อยู่ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆแล้วมาเจอกันอีกครั้งก็จะทักทายพูดคุยสอบถามกันซึ่งผมประทับใจมากๆ หรือตอนเจอนักท่องเที่ยวคุณลุงคุณป้าชาวญี่ปุ่นที่เจอกันและยิ้มให้กันที่ร้านอาหารของเมื่อวาน พอเจอกันในที่ต่างๆก็ยิ้มทักทายกัน แม้จะสื่อสารกันไม่รู้เรื่องก็ตาม ซึ่งถือเป็นความประทับใจดีๆในการเดินทางครั้งนี้ครับ
- เรื่องอาหาร ผมให้ 9 เต็ม 10 ครับ เพราะอาหารที่นี่ถูกปากมากๆ รสชาดดี ถึงขึ้นอร่อยเลยล่ะครับ.. แต่ค่าครองชีพแพง เลยทำให้ราคาอาหารค่อนข้างสูงไปหน่อย
- เรื่องอากาศ สถานที่ท่องเที่ยว ผมให้ 8 เต็ม 10 อากาศช่วงที่เดินทางไปถือว่ากำลังดี อากาศเย็นๆแทบทั้งวัน ไม่ร้อน ส่วนเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวก็อยู่ละแวกเดียวกัน สามารถเดินตะเวนเที่ยวชมได้ ยกเว้นน้ำตกที่อยู่นอกเมืองออกไปที่ต้องเหมารถไปเที่ยว ซึ่งค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งราคาประมาณ 80 บาท ซึ่งถือว่าแพงอยู่นะ..
- เรื่องความสะอาดของบ้านเมือง ให้ 4 เต็ม 10 ซึ่งบางโซนถนนก็ดูสะอาดตาเช่นโซนถนนริมน้ำคาน ย่านตึกเก่า แต่ส่วนใหญ่นอกนั้นที่เดินผ่านขยะริมถนนเยอะมาก ไม่ค่อยมีถังขยะ ถึงมีบางจุดขยะก็ล้นออกมา พ้นออกจากโซนย่านเมืองเก่า ฝุ่นสองข้างทางค่อนข้างเยอะทีเดียว
แต่ยังไงก็ตามถึงโดยรวมแล้วการเดินทางครั้งนี้ก็เป็นทริปที่ประทับใจอีกทริปหนึ่ง ด้วยบ้านเมืองที่ดูเก่าๆโบราณ อากาศดีๆ รวมทั้งอัธยาศัยไมตรีของผู้คน ทำให้ผมประทับใจมากๆ และอยากกลับไปเที่ยวอีกอย่างแน่นอนกับเมืองมรดกโลกที่ยังคงมีชีวิตแห่งนี้ ณ หลวงพระบาง..