หุ้นลิสซิ่งเป็นหุ้นอีกกลุ่มหนึ่งที่ผมสนใจและติดตามช่วงสะสมหุ้นใหม่ๆ ที่ผมชอบเพราะลักษณะธุรกิจ
1.เวลาซื้อรถก็ผ่อนผ่านลิสซิ่งของเจ้าใดเจ้าหนึ่ง อาจอยู่ในตลาดหุ้นหรือไม่ก็ตาม น้อยคนที่จะซื้อเงินสด
2.ดอกเบี้ยสูงเป็นแบบฟิกซ์ไม่ลดต้นลดดอก ภาษาเหนือเรียกดอกกระด้าง
3.ดอกเบี้ยจะสูงกว่าที่อัตราผ่อน เช่น ผ่อนรถดอก 2.5% จริงๆแล้วดอกเบี้ยที่แท้จริงแบบไม่ลดต้นลดดอก ต้องคูณ 2 จ่ายจริง เกือบ 5%
4.การขยายสาขาง่ายมากเพียง มีพนักงานที่มีฝีมือ มีระบบควบคุมหนี้ที่รัดกุม ก็เปิดสาขาได้ ไม่ต้องสร้างโรงงานลงทุนเครื่องจักรมากมาย
5.การหาลูกค้าง่ายมากยิ่งปัจจุบันคนเจนใหม่ๆชอบเอาเงินอนาคตมาใช้ก่อนเข้ามาหาเงินกู้ เพราะชอบออกรถแสดงความเป็นตัวตน
เช่น บิกไบท์ รถหรู ก็ผ่อนไฟแนนส์พอเงินขาดมือก็เอามาเข้าไฟแนนท์ลิสซิ่งโดยไม่กลัวดอกเบี้ย ผ่อนไม่ไหวก็ยึดเอามาขาย
ไม่พอมูลหนี้ก็ยังเรียกร้องเอากับผู้ผ่อนได้อีกหมือนมู้ที่มาตั้งบ่อยๆเรื่องปล่อยยึดรถเพราะผ่อนไม่ไหว
6.หุ้นลิสซิ่งทำกำไรได้ดี แต่ก็มีหุ้น LG ที่ทำความเจ็บปวดให้นักเก็งกำไรเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาเพราะผู้บริหารล้วนๆ
>>>>>>>>>>ข้อควรระวังของหุ้นกลุ่มนี้<<<<<<<<<<<<<
1.เศรษฐกิจไม่ดีจะกระทบต่อผลดำเนินงาน ช่วงนี้มันจะงงกับเศรษฐกิจเพราะจะว่าไม่ดีก็ยังย้อนแย้งกับ
ยอดขายรถมอร์เตอร์ไซต์ 2 ล้านกว่าคัน รถยนต์ 1 ล้านคัน งงงงเบยตกลงเศรฐกิจดีหรือไม่ดีกันแน่
2.ต้นทุนทางการเงินของบริษัทลิสซิ่ง ถ้าใครต่ำจะได้เปรียบ โดยเฉพาะถ้าออกหุ้นกู้ได้ดอกเบี้ยต่ำ และมีคนเหมาหมดอันนี้ถือว่าดี
แต่ถ้ายังกู้ธนาคารเอาปล่อยต่อส่วนต่างจะน้อยกำไรน้อย
3.ทีมงานที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน อันนี้มีผลต่อการกรองลูกค้า การเร่งรัดหนี้สิน มีผลต่อกำไรในอนาคต
4.ผู้บริหารมีประสบการณ์โชกโชนมากแค่ไหน เช่น ผ่านวิกฤติต้มยำกุ้งมาแล้วรอดได้ยิ่งดีเพราะ
การปล่อยเงินให้กู้ไม่ยากมีเท่าไหร่ปล่อยได้หมด แต่การเก็บหนี้และตามหนี้เสียเป็นหัวใจของธุรกิจลิสซิ่งครับ ผู้บริหารที่มีประสบการณ์
จะช่วยบริหารและจะรู้ว่าควรจะดำเนินงานอย่างไรในสภาเศรษฐกิจในแต่ละช่วง
5.ตัวเลขสำรองหนี้เสียในแต่ละไตรมาสต้องไม่เพิ่ม ถ้าเพิ่มสงสัญญาญว่าปล่อยมั่วไม่กรอง
ถึงแม้ยอดปล่อยจะลดลงบ้าง แต่หนี้เสียไม่เพิ่มก็หยวนๆได้เพราะระมัดระวัง
>>>>>>>>>>หุ้นลิสซิ่งที่ชาวสวนชอบ มีคุณลักษณะดังนี้<<<<<<<<
1.ต้องมีธนาคารเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพราะต้นทุนทางการเงินจะต่ำ ธนาคารเจ้าของให้ยืมเงิน
ก็หวังผลกำไรจากปันผล นอกจากกำไรจากดอกเบี้ย จะมีสภาพคล่องกว่าลิสซิ่งที่ไม่มีธนาคารถือหุ้น
2.การที่ธนาคารเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ก็จะมีตวบคุมนโยบายการทำงาน การปล่อยสินเชื่อ รัดกุมขึ้น
3.ทำลิสซิ่งแตกต่างที่นิยมทำกัน เช่น รถบรรทุก รถบิกไบท์ รถสปอร์ท มากกว่า รถมอร์ไซต์ รถยนต์ มีทำกันเยอะแข่งขันกันสูงกำไรไม่มาก
4.มีการเติบโตด้านสินเชื่อทุกปี ตามสภาวะเศรษฐกิจ ไม่เติบโต/หรือตกต่ำ สวนเศรษฐกิจ
5.มีการปันผลเป็นหุ้นด้วยก็จะเป็นผลต่อต้นทุนต่ำลง แต่หลังปันผลเกิดไดลูท ราคาต้องกลับมาใกล้เคียงก่อนปันผล
ก็เกิดจากผลประกอบการดี ไม่ใช่ปันผลแล้วราคาร่วงไม่กลับอันนี้ก็ไม่ไหวนะครับ
ดั้งนั้นหุ้นลิสซิ่งน่าสนใจ....ดังสุภาษิตไม่โบราณ...ติดท้ายรถสิบล้อได้กล่าวไว้ว่า
>>>เมียซื้อสด รถซื้อผ่อน <<<<<
>>>>ถ้าน่าฮัก น่าแพงแบบนี้พี่แจ้เชื่อว่า...... นักลงทุนสินธร สู้ตัยคร่า..<<<<<
### มโนศาสตร์กับตลาดหุ้น ### มโนหุ้นลิสซิ่ง...เอามาแชร์แบบฉบับชาวสวน....ครับ
1.เวลาซื้อรถก็ผ่อนผ่านลิสซิ่งของเจ้าใดเจ้าหนึ่ง อาจอยู่ในตลาดหุ้นหรือไม่ก็ตาม น้อยคนที่จะซื้อเงินสด
2.ดอกเบี้ยสูงเป็นแบบฟิกซ์ไม่ลดต้นลดดอก ภาษาเหนือเรียกดอกกระด้าง
3.ดอกเบี้ยจะสูงกว่าที่อัตราผ่อน เช่น ผ่อนรถดอก 2.5% จริงๆแล้วดอกเบี้ยที่แท้จริงแบบไม่ลดต้นลดดอก ต้องคูณ 2 จ่ายจริง เกือบ 5%
4.การขยายสาขาง่ายมากเพียง มีพนักงานที่มีฝีมือ มีระบบควบคุมหนี้ที่รัดกุม ก็เปิดสาขาได้ ไม่ต้องสร้างโรงงานลงทุนเครื่องจักรมากมาย
5.การหาลูกค้าง่ายมากยิ่งปัจจุบันคนเจนใหม่ๆชอบเอาเงินอนาคตมาใช้ก่อนเข้ามาหาเงินกู้ เพราะชอบออกรถแสดงความเป็นตัวตน
เช่น บิกไบท์ รถหรู ก็ผ่อนไฟแนนส์พอเงินขาดมือก็เอามาเข้าไฟแนนท์ลิสซิ่งโดยไม่กลัวดอกเบี้ย ผ่อนไม่ไหวก็ยึดเอามาขาย
ไม่พอมูลหนี้ก็ยังเรียกร้องเอากับผู้ผ่อนได้อีกหมือนมู้ที่มาตั้งบ่อยๆเรื่องปล่อยยึดรถเพราะผ่อนไม่ไหว
6.หุ้นลิสซิ่งทำกำไรได้ดี แต่ก็มีหุ้น LG ที่ทำความเจ็บปวดให้นักเก็งกำไรเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาเพราะผู้บริหารล้วนๆ
>>>>>>>>>>ข้อควรระวังของหุ้นกลุ่มนี้<<<<<<<<<<<<<
1.เศรษฐกิจไม่ดีจะกระทบต่อผลดำเนินงาน ช่วงนี้มันจะงงกับเศรษฐกิจเพราะจะว่าไม่ดีก็ยังย้อนแย้งกับ
ยอดขายรถมอร์เตอร์ไซต์ 2 ล้านกว่าคัน รถยนต์ 1 ล้านคัน งงงงเบยตกลงเศรฐกิจดีหรือไม่ดีกันแน่
2.ต้นทุนทางการเงินของบริษัทลิสซิ่ง ถ้าใครต่ำจะได้เปรียบ โดยเฉพาะถ้าออกหุ้นกู้ได้ดอกเบี้ยต่ำ และมีคนเหมาหมดอันนี้ถือว่าดี
แต่ถ้ายังกู้ธนาคารเอาปล่อยต่อส่วนต่างจะน้อยกำไรน้อย
3.ทีมงานที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน อันนี้มีผลต่อการกรองลูกค้า การเร่งรัดหนี้สิน มีผลต่อกำไรในอนาคต
4.ผู้บริหารมีประสบการณ์โชกโชนมากแค่ไหน เช่น ผ่านวิกฤติต้มยำกุ้งมาแล้วรอดได้ยิ่งดีเพราะ
การปล่อยเงินให้กู้ไม่ยากมีเท่าไหร่ปล่อยได้หมด แต่การเก็บหนี้และตามหนี้เสียเป็นหัวใจของธุรกิจลิสซิ่งครับ ผู้บริหารที่มีประสบการณ์
จะช่วยบริหารและจะรู้ว่าควรจะดำเนินงานอย่างไรในสภาเศรษฐกิจในแต่ละช่วง
5.ตัวเลขสำรองหนี้เสียในแต่ละไตรมาสต้องไม่เพิ่ม ถ้าเพิ่มสงสัญญาญว่าปล่อยมั่วไม่กรอง
ถึงแม้ยอดปล่อยจะลดลงบ้าง แต่หนี้เสียไม่เพิ่มก็หยวนๆได้เพราะระมัดระวัง
>>>>>>>>>>หุ้นลิสซิ่งที่ชาวสวนชอบ มีคุณลักษณะดังนี้<<<<<<<<
1.ต้องมีธนาคารเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพราะต้นทุนทางการเงินจะต่ำ ธนาคารเจ้าของให้ยืมเงิน
ก็หวังผลกำไรจากปันผล นอกจากกำไรจากดอกเบี้ย จะมีสภาพคล่องกว่าลิสซิ่งที่ไม่มีธนาคารถือหุ้น
2.การที่ธนาคารเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ก็จะมีตวบคุมนโยบายการทำงาน การปล่อยสินเชื่อ รัดกุมขึ้น
3.ทำลิสซิ่งแตกต่างที่นิยมทำกัน เช่น รถบรรทุก รถบิกไบท์ รถสปอร์ท มากกว่า รถมอร์ไซต์ รถยนต์ มีทำกันเยอะแข่งขันกันสูงกำไรไม่มาก
4.มีการเติบโตด้านสินเชื่อทุกปี ตามสภาวะเศรษฐกิจ ไม่เติบโต/หรือตกต่ำ สวนเศรษฐกิจ
5.มีการปันผลเป็นหุ้นด้วยก็จะเป็นผลต่อต้นทุนต่ำลง แต่หลังปันผลเกิดไดลูท ราคาต้องกลับมาใกล้เคียงก่อนปันผล
ก็เกิดจากผลประกอบการดี ไม่ใช่ปันผลแล้วราคาร่วงไม่กลับอันนี้ก็ไม่ไหวนะครับ
ดั้งนั้นหุ้นลิสซิ่งน่าสนใจ....ดังสุภาษิตไม่โบราณ...ติดท้ายรถสิบล้อได้กล่าวไว้ว่า
>>>เมียซื้อสด รถซื้อผ่อน <<<<<
>>>>ถ้าน่าฮัก น่าแพงแบบนี้พี่แจ้เชื่อว่า...... นักลงทุนสินธร สู้ตัยคร่า..<<<<<