ผมสงสัยมานานแล้วว่าการปล่อยไฟแยกจราจรของตำรวจมีรูปแบบเดียวกันหรือเปล่า มีการศึกษา ดูงานต่างประเทศ มีการทดลองวิจัย หาข้อสรุปเป็นเรื่องราวหรือเปล่า เพราะที่เจอมาบางแยกก็ปล่อยเร็ว บางแยกปล่อยช้า บางแยกปล่อยเเช่คือแดงยาว เขียวยาว บางแยกแล้วแต่อารมณ์ขึ้นๆลงๆขึ้นกับตำรวจท่านไหนมาคุมตู้
ผมเคยอ่านงานวิจัยอันหนึ่งของตปทได้ข้อสรุปว่าการปล่อยไฟที่สั้นให้ผลดีกว่าการปล่อยไฟที่นาน แว็บแรกคิดว่าเป็นไปไม่ได้เพราะไฟแดงครั้งหนึ่งรถต้องเสียเวลาชลอตัวพอไฟเขียวต้องเสียเวลาออกตัว ถ้าเป็นทั้งสี่ด้านอย่างนี้เสียเวลาไปมากเลยมันน่าจะช้า แต่หลังจากขับรถเองและเฝ้าสังเกตมานานพบว่าผลวิจัยนี้จริง สิ่งที่เราคิดนั้นให้ผลน้อยมาก การปล่อยไฟที่สั้นลงทำให้รถสะสมตัวไม่มากพอที่จะกระทบบล็อกถัดไปซึ่งถ้าทำให้ได้จังหวะทั้งสี่ด้านจะไม่ทำให้มีการจราจรสะสมหรือลุกลาม
เคยสังเกตบางครั้งถ้าเข้าไปในซอยย่อยที่มีสี่แยกเล็กๆแต่ไม่มีไฟแดง รถทั้งสี่ด้านพอมาถึงแยกวัดใจต่างฝ่ายต่างรู้กันเองสลับกันไปรถจะไม่ติด แต่เมื่อไรที่ผ่านแยกนี้แล้วรถติดผมจะเดาเลยว่าวันนั้นมีตำรวจมาช่วยคุมแล้วปล่อยรถแบบแช่ พอมาถึงแยกก็เดาถูกเกือบทุกครั้ง
แต่เนื่องจากมันเป็นแนวความคิดที่ต้องอาศัยผลวิจัยและลงมือทดลองปฏิบัติจริง เราในฐานะคนธรรมดาจะพูดอะไรได้นอกจากเฝ้าสังเกตต่อไปและหาทางเลี่ยงเอาเอง คือ จะจำได้ว่าเส้นไหนที่เราวิ่งประจำ แยกไหนควรเลี่ยง แยกไหนตำรวจจราจรปล่อยไฟแบบไหน ยกตัวอย่าง สี่แยกอสมทหรือแยกฟอร์จูนเป็นแยกที่ตำรวจปล่อยไฟได้ถูกใจมากคือไม่แช่ สลับไฟเร็วแต่ที่รถติดเพราะรถหน้าฟอร์จูนมันไปไม่ได้ไม่เกี่ยวกับไฟจราจร ลองไปวิ่งแยกนี้วันที่รถไม่ติดโหดทุกด้านดูครับรถจะไหลลื่นดีมากไม่ลาม ผิดกับแยกอโศกเพชรบุรีใกล้ๆกันแยกนี้แช่ครับ ไม่นับที่มีการซ่อมสะพานหรือมีถนนโลคัลโรดมาตัด แต่ไหนแต่ไรลักษณะการปล่อยไฟเป็นแบบนี้มานานมากแล้ว โดยเฉพาะวันอาทิตย์ตอนเย็นหรือค่ำๆเป็นวันที่รถไม่ควรติดและไม่ติดจริงๆทั้งสามด้านแต่ซอยอโศกติดครับ งงในงง ผมปรับตัวด้วยการเลี่ยงแยกนี้เท่าที่ทำได้ ถ้ามาจากถ.พระรามเก้าจะเลยไปถ.เพชรบุรีกลับรถมาวกเข้าอโศกแทนเพราะเลี้ยวซ้ายผ่านตลอด พอเข้าอโศกก็ไม่เห็นจะติดตรงไหน ไหลไปได้เรื่อยๆ
ผลวิจัยนั้นนานมากแล้วผมหาเท่าไรไม่เจอแต่ก็พยายามไปขุดจนเจออันนี้แทน
https://www.baltimorebrew.com/2018/05/08/one-easy-fix-for-baltimores-traffic-delays-shorter-signal-cycles/
เป็นการปล่อยไฟจราจรของเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรี่แลนด์ สหรัฐอเมริกา สรุปคร่าวๆได้ว่า
- ให้มองว่าการจราจรก็เหมือนเส้นเลือดของคนที่ต้องให้ไหลลื่น ไม่ติดขัด
- การปล่อยไฟต้องดูภาพรวมทุกบล็อกให้ไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ใช่ตั้งเวลาขัดกันเอง อันนี้ลองดูกูเกิ้ลแมพได้บางทีเห็นติดแค่จุดเล็กๆสักพักความแดงเริ่มลามเป็นวงกว้างถ้าจัดการไม่ถูกต้องในจุดเดียว
- การปล่อยไฟสั้นทำให้แต่ละบล็อกไม่มีการสะสมรถจนคุมไม่ได้
- การปล่อยไฟแดงแช่คนเริ่มมีนิสัยเร่งผ่านไฟเขียวให้ได้เกือบทุกบล็อกเพราะกลัวติดไฟแดงนาน ภาพรวมคือความปลอดภัยบนถนนน้อยลง
- การปล่อยไฟแดงแช่คนเริ่มหากิจกรรมทำ เช่น ดูมือถือ สมาธิหรือความตื่นตัวต่อสิ่งรอบข้างน้อยลง
- การปล่อยไฟนานส่งผลให้คนรอข้ามถนนและคนขี่จักรยานสะสมมากขึ้น(กรณีไม่มีสะพานลอย)และหงุดหงิดมากขึ้น ทำผิดกฎมากขึ้น
-ไฟกดคนข้ามที่เมืองนี้มีตรงแยกพอดี คนกดบ่อยๆก็ผิดหลักการไหลลื่นของเส้นเลือด คือทำให้รถติดขัด แต่หากปรับการจราจรสั้นแล้วคนจะข้ามได้เร็วไม่สะสม สามารถยกเลิกการใช้ปุ่มกดได้
- ข้อนี้ขอเพิ่มเอง รถติดสั้นลงพี่มอร์ไซต์ขยาดน้อยลงว่ามันนานอาจยอมรอ ทำให้การฝ่าไฟแดงน้อยลง
ขอบคุณสำหรับข้อคิดเพิ่มเติมครับ
ปล ทั้งหมดนี้ไม่รวมถึงการจราจรที่เป็นอัมพาตทั้งเมืองไม่ว่าจะเกิดจากเหตุใดเช่น น้ำท่วม เพราะถึงไฟเขียวรถหน้าวิ่งไม่ได้ก็ไม่เกี่ยวกับไฟจราจร ไม่รวมรถติดหน้าห้าง หน้าโรงเรียน อันนี้คือสะสมจากการเข้าห้าง
ปล2 ข้อเขียนนี้ไม่ได้หมายความว่าหากทำตามนี้แล้วต่อไปรถจะวิ่งได้ไหลลื่น การจัดการจราจรขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง ไฟจราจรเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งในนั้นเพียงแต่ต้องทำส่วนของตัวเองให้มีประสิทธิภาพสูงสุด หากทำแล้วยังติดต้องไปหาสาเหตุและแก้ไขประสิทธิภาพส่วนอื่น
ไฟสี่แยกจราจรนานไปไหม อยากให้ปรับสั้นลง
ผมเคยอ่านงานวิจัยอันหนึ่งของตปทได้ข้อสรุปว่าการปล่อยไฟที่สั้นให้ผลดีกว่าการปล่อยไฟที่นาน แว็บแรกคิดว่าเป็นไปไม่ได้เพราะไฟแดงครั้งหนึ่งรถต้องเสียเวลาชลอตัวพอไฟเขียวต้องเสียเวลาออกตัว ถ้าเป็นทั้งสี่ด้านอย่างนี้เสียเวลาไปมากเลยมันน่าจะช้า แต่หลังจากขับรถเองและเฝ้าสังเกตมานานพบว่าผลวิจัยนี้จริง สิ่งที่เราคิดนั้นให้ผลน้อยมาก การปล่อยไฟที่สั้นลงทำให้รถสะสมตัวไม่มากพอที่จะกระทบบล็อกถัดไปซึ่งถ้าทำให้ได้จังหวะทั้งสี่ด้านจะไม่ทำให้มีการจราจรสะสมหรือลุกลาม
เคยสังเกตบางครั้งถ้าเข้าไปในซอยย่อยที่มีสี่แยกเล็กๆแต่ไม่มีไฟแดง รถทั้งสี่ด้านพอมาถึงแยกวัดใจต่างฝ่ายต่างรู้กันเองสลับกันไปรถจะไม่ติด แต่เมื่อไรที่ผ่านแยกนี้แล้วรถติดผมจะเดาเลยว่าวันนั้นมีตำรวจมาช่วยคุมแล้วปล่อยรถแบบแช่ พอมาถึงแยกก็เดาถูกเกือบทุกครั้ง
แต่เนื่องจากมันเป็นแนวความคิดที่ต้องอาศัยผลวิจัยและลงมือทดลองปฏิบัติจริง เราในฐานะคนธรรมดาจะพูดอะไรได้นอกจากเฝ้าสังเกตต่อไปและหาทางเลี่ยงเอาเอง คือ จะจำได้ว่าเส้นไหนที่เราวิ่งประจำ แยกไหนควรเลี่ยง แยกไหนตำรวจจราจรปล่อยไฟแบบไหน ยกตัวอย่าง สี่แยกอสมทหรือแยกฟอร์จูนเป็นแยกที่ตำรวจปล่อยไฟได้ถูกใจมากคือไม่แช่ สลับไฟเร็วแต่ที่รถติดเพราะรถหน้าฟอร์จูนมันไปไม่ได้ไม่เกี่ยวกับไฟจราจร ลองไปวิ่งแยกนี้วันที่รถไม่ติดโหดทุกด้านดูครับรถจะไหลลื่นดีมากไม่ลาม ผิดกับแยกอโศกเพชรบุรีใกล้ๆกันแยกนี้แช่ครับ ไม่นับที่มีการซ่อมสะพานหรือมีถนนโลคัลโรดมาตัด แต่ไหนแต่ไรลักษณะการปล่อยไฟเป็นแบบนี้มานานมากแล้ว โดยเฉพาะวันอาทิตย์ตอนเย็นหรือค่ำๆเป็นวันที่รถไม่ควรติดและไม่ติดจริงๆทั้งสามด้านแต่ซอยอโศกติดครับ งงในงง ผมปรับตัวด้วยการเลี่ยงแยกนี้เท่าที่ทำได้ ถ้ามาจากถ.พระรามเก้าจะเลยไปถ.เพชรบุรีกลับรถมาวกเข้าอโศกแทนเพราะเลี้ยวซ้ายผ่านตลอด พอเข้าอโศกก็ไม่เห็นจะติดตรงไหน ไหลไปได้เรื่อยๆ
ผลวิจัยนั้นนานมากแล้วผมหาเท่าไรไม่เจอแต่ก็พยายามไปขุดจนเจออันนี้แทน
https://www.baltimorebrew.com/2018/05/08/one-easy-fix-for-baltimores-traffic-delays-shorter-signal-cycles/
เป็นการปล่อยไฟจราจรของเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรี่แลนด์ สหรัฐอเมริกา สรุปคร่าวๆได้ว่า
- ให้มองว่าการจราจรก็เหมือนเส้นเลือดของคนที่ต้องให้ไหลลื่น ไม่ติดขัด
- การปล่อยไฟต้องดูภาพรวมทุกบล็อกให้ไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ใช่ตั้งเวลาขัดกันเอง อันนี้ลองดูกูเกิ้ลแมพได้บางทีเห็นติดแค่จุดเล็กๆสักพักความแดงเริ่มลามเป็นวงกว้างถ้าจัดการไม่ถูกต้องในจุดเดียว
- การปล่อยไฟสั้นทำให้แต่ละบล็อกไม่มีการสะสมรถจนคุมไม่ได้
- การปล่อยไฟแดงแช่คนเริ่มมีนิสัยเร่งผ่านไฟเขียวให้ได้เกือบทุกบล็อกเพราะกลัวติดไฟแดงนาน ภาพรวมคือความปลอดภัยบนถนนน้อยลง
- การปล่อยไฟแดงแช่คนเริ่มหากิจกรรมทำ เช่น ดูมือถือ สมาธิหรือความตื่นตัวต่อสิ่งรอบข้างน้อยลง
- การปล่อยไฟนานส่งผลให้คนรอข้ามถนนและคนขี่จักรยานสะสมมากขึ้น(กรณีไม่มีสะพานลอย)และหงุดหงิดมากขึ้น ทำผิดกฎมากขึ้น
-ไฟกดคนข้ามที่เมืองนี้มีตรงแยกพอดี คนกดบ่อยๆก็ผิดหลักการไหลลื่นของเส้นเลือด คือทำให้รถติดขัด แต่หากปรับการจราจรสั้นแล้วคนจะข้ามได้เร็วไม่สะสม สามารถยกเลิกการใช้ปุ่มกดได้
- ข้อนี้ขอเพิ่มเอง รถติดสั้นลงพี่มอร์ไซต์ขยาดน้อยลงว่ามันนานอาจยอมรอ ทำให้การฝ่าไฟแดงน้อยลง
ขอบคุณสำหรับข้อคิดเพิ่มเติมครับ
ปล ทั้งหมดนี้ไม่รวมถึงการจราจรที่เป็นอัมพาตทั้งเมืองไม่ว่าจะเกิดจากเหตุใดเช่น น้ำท่วม เพราะถึงไฟเขียวรถหน้าวิ่งไม่ได้ก็ไม่เกี่ยวกับไฟจราจร ไม่รวมรถติดหน้าห้าง หน้าโรงเรียน อันนี้คือสะสมจากการเข้าห้าง
ปล2 ข้อเขียนนี้ไม่ได้หมายความว่าหากทำตามนี้แล้วต่อไปรถจะวิ่งได้ไหลลื่น การจัดการจราจรขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง ไฟจราจรเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งในนั้นเพียงแต่ต้องทำส่วนของตัวเองให้มีประสิทธิภาพสูงสุด หากทำแล้วยังติดต้องไปหาสาเหตุและแก้ไขประสิทธิภาพส่วนอื่น