หน่วยงานที่เคยได้ชื่อว่า เป็นหน่วยงานกลาง ที่เคยเล็งเห็นว่าประเทศกำลังสูญเสียผลประโยชน์อันมหาศาลจากการคอร์รัปชั่นในโครงการต่างๆ ของภาครัฐ กลับนิ่งเฉย มัวแต่ไปสนใจการเมือง การจัดตั้งรัฐบาล การสร้างชื่อเสียงให้ตนเอง จนทำให้ลืมไปแล้วหรือเปล่าว่า องค์กรนี้สร้างขึ้นมาบนปณิธานของผู้ก่อตั้งว่าอะไร ???
ดร.มานะ ซึ่งเป็นเลขาธิการหายไปไหน เมื่อกลัวเอกชนโกง แต่ไม่เห็นตรวจสอบหน่วยงานของรัฐที่กำลังจะโกงซะเอง หรือเห็นว่าโครงการนี้เป็นโครงการเล็ก ๆ ที่กทม.กำลังจะทำร่วมกับเอกชน แค่ไม่กี่หมื่นล้านบาท

ทำไมถึงต้องตามหาดร.มานะ และองค์กรนี้ ก็เนื่องจากโครงการล่าสุดก็โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่ซีพีชนะการประมูล ทางดร.มานะ ก็ยังเป็นหนึ่งในผู้สังเกตการณ์ที่อยู่ในโครงการข้อตกลงคุณธรรม เข้าไปร่วมสังเกตการณ์ในห้องประชุมระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย และกลุ่มกิจการร่วมค้า เจริญโภคภัณฑ์ และกลุ่มพันธมิตร

หลายโครงการที่ภาครัฐ และภาคเอกชนเข้าร่วมลงทุน หรือที่เรามักจะได้ยินว่าเป็น PPP หรือ Public Private Partnership ในการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อจัดทำโครงการที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและการบริการสาธารณะ ที่เป็นหน้าที่ของรัฐ โดยรัฐจะมอบหมายหน้าที่ให้ภาคเอกชนดำเนินการจัดทำโครงการดังกล่าวแทน ผ่านสัญญาการร่วมลงทุนนี้

โดย กรุงเทพมหานคร (องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ซึ่งทำหน้าที่บริหารเขตการปกครองพิเศษกรุงเทพมหานคร ตามกฎหมายปัจจุบันคือ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528

ซึ่งหน่วยงานพาณิชย์ที่ดูแลจัดเก็บบริหาร ได้แก่ สำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร, ตลาดนัดจตุจักร 2 (มีนบุรี), บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด, สำนักงานสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร และสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย

จากกรณีที่หลายภาคส่วน (ไม่ว่าจะเป็นทางดร. สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ที่โพสต์ผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว) ว่ามีความกังวลเกี่ยวกับการที่กรุงเทพมหานครให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของกทม. ในการทำสัญญาเพื่อหาผู้รับเหมาในการดูแล จัดการโครงการท่อร้อยสายสื่อสารใต้ดินในเขตกรุงเทพฯ ตามคำสั่งของคสช. ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (DE) ครั้งที่ 4/2561 เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2561 และมติที่ประชุมคณะกรรมการดีอี ครั้งที่ 5/2561 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา เป็นผู้ดำเนินการจัดทำท่อร้อยสายในโครงการนี้

แต่ทางบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) กลับไปประกาศเชิญชวนให้ผู้สนใจเข้ามายื่นข้อเสนอ และคัดเลือกในการก่อสร้างโครงการนี้แทนตนเอง จากจำนวนผู้ที่มีสิทธิ์ยื่นข้อเสนอได้ทั้งหมด 25 ราย (แบ่งเป็นผู้แสดงเจตจำนง 9 รายและผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมที่มีโครงข่ายอีก 16 ราย) แต่มีเพียงบริษัท ทรู อินเตอร์เน็ต คอร์ปอเรชั่น จำกัด เพียงบริษัทเดียวที่ได้ไปยื่นเอกสาร และผ่านการพิจารณาเบื้องต้น

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ซึ่งล่าสุดกลุ่มทรู ก็ได้ออกเอกสารชี้แจงแล้วว่า "ยังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจารายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ โดยยังไม่มีข้อสรุปและการลงนามในสัญญาสัมปทานดังกล่าว"

ทำให้โครงการนี้เรียกได้ว่าจะมีราคาสูงขึ้น เพราะถูกคิดค่าหัวคิว 2 ต่อ แต่ไม่เห็นว่าจะมีใครมากลัวว่าจะเป็นการคอร์รัปชั่น หรือกลัวว่ากทม.จะเสียค่าโง่เหมือนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน หรือโครงการโฮปเวลล์บ้างเลย

#ร่วมเป็นคนไทยตื่นรู้สู้โกง
#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน