กระทู้นี้ จะเป็นการแบ่งปันการท่องเที่ยว “ยุโรป “ ซึ่งเป็นครั้งแรก ที่ได้ไปเหยียบทวีปยุโรป ในชีวิตของพวกเรา
ซึ่งมันไม่ยากเลย เราเชื่อว่า ทุกๆคนสามารถไปได้!!

📍หลายๆคน คงมีความฝันที่จะได้ไปท่องเที่ยวที่ยุโรป สักครั้งในชีวิต เราก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ แต่ถ้ายังไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี.. 
ลองติดตามที่กระทู้ของเราได้เลย 😊
**กระทู้นี้จะขอแบ่งเป็น 4 พาร์ทนะคะ
[Part 1] -  การเตรียมตัว-วางแผนการเที่ยว >>> https://ppantip.com/topic/38996547
[Part1.1] - วิธีรับมือกับโจรยุโรป >>> https://ppantip.com/topic/38999759
[Part 2] -  ฝรั่งเศส แชร์ประสบการณ์และสรุปค่าใช้จ่าย >>> https://ppantip.com/topic/39017395
[Part 3] -  สวิสเซอร์แลนด์ แชร์ประสบการณ์และสรุปค่าใช้จ่าย
[Part 4] -  อิตาลี แชร์ประสบการณ์และสรุปค่าใช้จ่าย

    📍ก่อนหน้าที่ทริปนี้จะเกิดขึ้น เราเองก็เกิดคำถามขึ้นมากมาย เนื่องจากเราไม่เคยออกไปนอกเอเชียเลยซักครั้ง....
ไปยุโรปครั้งแรก? จะไปประเทศไหนดีนะ? การเดินทางยากไหม? แล้วจะไปกี่ประเทศ? ไปเมืองไหนบ้าง? ใช้งบเท่าไหร่? ทำวีซ่ายากไหม?
ตอนที่นั่งหาข้อมูลมันยุ่งยากและวุ่นวายจริงๆ บวกกับตอนที่จัดทริปงานที่บ.ก็ยุ่งมาก จะไปเมืองไหนยังไงก็เลือกไม่ถูก สับสนไปหมด! งบก็มีจำกัด 😭
โหย เค้าบอกว่าโจรเยอะอีก ! ต้องมากันโจรด้วยเนี่ย ม่ายย

เรา  : ไม่ไปไหม ? เปลี่ยนไปญี่ปุ่นเถอะ ง่ายๆ ปลอดภัยสบาย ไม่ต้องมาจองอะไรเยอะแยะเนี่ย!
สามี : แต่ที่ญี่ปุ่นไม่มีโคลอสเซียมนะ..
เรา   : เออไปก็ได้！

และแล้วทริปนี้ก็ต้องเกิดขึ้น ...
เพราะความอยากเห็นโคลอสเซียม

    📍เมื่อเรากับสามี ตกลงกันได้ว่าจะไปเที่ยวยุโรป！ แล้ว คำถามเเรกที่เกิดขึ้นก็คือ
แล้วเราจะไปประเทศไหนดีล่ะ? ก็ยุโรปมีหลายประเทศเลยนี่นา เเถมเเต่ละที่ก็น่าไปทั้งนั้น เชื่อว่าหลายๆคนต้องเจอปัญหาแบบนี้เเน่นอน
 
ขอบอกว่าให้ใจเย็นๆค่ะ เราเริ่มจาก หาที่ที่อยากไปก่อน

 อย่างเช่น คุณสามีอยากจะไป โคลอสเซียม แต่เราอยากจะไปพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ + ดิสนี่แลนด์
เราเลยได้ประเทศออกมา2ประเทศด้วยกัน คือฝรั่งเศส - อิตาลี

 จากนั้นเราก็ไปหาข้อมูล การเดินทาง ว่าระหว่างฝรั่งเศสไปอิตาลีเราจะสามารถผ่านประเทศไหนได้อีกบ้าง (เราเลือกที่จะเดินทางโดยรถไฟ )
ซึ่งเราก็เลือกออกมาเป็น สวิสเซอร์แลนด์ เพราะเป็นเส้นทางที่ไม่ทำให้เสียเวลาในการเดินทาง สามารถแวะเที่ยวได้ตลอดเส้นทาง 🚉

  📍เรื่องการใช้เวลาในการเดินทางนั้นสำคัญมาก
เรากำหนดเอาไว้ว่าวันนึงอยากเดินทางไม่เกิน2-3ชม. ถ้าเมืองไหนเกินจากนั้นเราก็จะหาจุดแวะก่อนหรือไม่ก็ตัดออก

** จะขอเล่านิดนึงว่าเนื่องจากทริปนี้เป็นทริปฮันนีมูนของเรากับสามี เราจึงเลือกที่จะไม่ลำบากมากเกินไป ในส่วนของโรงเเรมเราไม่เลือกที่จะนอน Hostel แต่เรานอน business hotel แทน ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นสำหรับคนที่อยากประหยัดมากๆ หากเลือกนอน Hostel ก็จะถูกกว่า
แต่เนื่องด้วยงบประมาณที่จำกัด เราทั้งคู่จึงเลือกที่จะตัดเรื่องของอาหาร(เราทั้งคู่ไม่ชอบทานอาหารฝรั่งอยู่เเล้ว) เราไม่เข้าร้านอาหารหรู กินเป็นของที่เตรียมไปจากไทย หรือเข้าร้านฟาสฟู้ด ซุปเปอร์มาเก็ตแทน .. ซึ่งก็ทำให้ประหยัดไปได้ (การรีวิวนี้ก็จะมีการพูดถึงของกินน้อยมากไปด้วย)

   📍 เมื่อเรากำหนดประเทศที่จะไป กำหนดrouteการเดินทางและเมืองคร่าวๆได้เเล้วก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ
  คนส่วนใหญ่มักจะทำวีซ่าก่อน เเต่สำหรับเราเเล้วเราเลือกที่จะหาตั๋วเครื่องบินก่อน เหตุผลก็เพราะ เริ่มจากเราเจอตั๋วโปร ที่ถูก และคิดว่าถ้าไม่จองเลยอาจจะหาที่ถูกแบบนี้ไม่ได้เเล้ว และบังเอิญว่าสายการบินที่เราจอง(Qatar) มีข้อกำหนดที่สามารถคืนเงินได้หากทำวีซ่าไม่ผ่าน
เราเลยตัดสินใจว่า จองตั๋วก่อน เเล้วค่อยทำวีซ่าดีกว่า..

    📍เรื่องการทำวีซ่านั้น หากไปหลายประเทศจะต้องเลือกทำกับประเทศที่เราพัก นานที่สุด
ซึ่งในครั้งนี้เราเลือกทำของประเทศฝรั่งเศส

    ขอเล่าก่อนว่าในตอนนั้นเรากับสามีเป็นมนุษย์เงินเดือน มีเงินเดือนในระดับปานกลาง มีเงินติดบัญชีไม่มาก แต่เรากับสามีทำแปนการเที่ยวไปอย่างละเอียด เเนบหลักฐานการจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมไปด้วย เราก็แอบคิดว่าอาจจะเพราะเหตุนี้ทำให้เราได้วีซ่ามาอย่างสบายไม่ติดปัญหาใดๆ


   📍 ลองมาดู แพลนแบบคร่าวๆ ฝรั่งเศส สวิส อิตาลี (3 ประเทศ 12 เมือง) 14 วัน ของพวกเรากันครับ (เปลี่ยนคนพิมพ์บาง)
ฝรั่งเศส

วันที่ 1
๐ เดินทางถึงปารีสเมืองแห่งน้ำหอม
๐ หอไอเฟล ถ่ายรูปให้รู้ว่ามาถึงแล้วววว
๐ ประตูชัย ชมวิวยามเย็นเห็นทั่วเมือง

วันที่ 2
๐ Louvre มาแต่เช้าเพราะคนน้อย ใหญ่มากๆ เดินยังไงก็ไม่ทั่ว
๐ Opera สุดอลังการ ชมความงามโรงละคร

วันที่ 3
๐ Disneyland แดนหรรษา พาสุขสรรค์ เที่ยวทั้งวันยังเกือบไม่ครบ เพราะมี 2 park

วันที่ 4
๐ Reims อ่านว่า แรงค์ เมืองสุดน่ารัก ที่ใครๆก็ต้องตกหลุมรัก

วันที่ 5
๐ Strasbourg อ่านว่า สตารส์บูร์ก เมืองน่ารักกุ๊กกิ๊ก สไตล์เยอรมัน
สวิสเซอร์แลนด์

วันที่ 6
๐ Basel เมืองหน้าด่าน สะพานสวย
๐ Bern เมืองหลวง หมีน่ารัก บ้านเรือนสวย

วันที่ 7
๐ Interlaken เมืองสองแม่น้ำ แต่ใครๆรู้จักเพราะต้องแวะพักขึ้นเขา
๐ Schilthorn ยอดเขาสวย ทางเดิน(หวาด)เสียว ที่สำคัญมองเห็นจุงเฟรา

วันที่ 8
๐ Tasch เมืองเหงา ภูเขารอบ เหมาะแก่การพักผ่อน
๐ Zermatt เมืองนี้มีชื่อเสียงเรื่องยอดเขาและการเล่นสกี
๐ Matterhorn ยอดเขาสุดขี้อาย ถ้าโชคดีก็จะได้เห็นหน้าเห็นตากัน

วันที่ 9
๐ Blausee น้ำใส ไหลเย็น เห็นตัวปลา พร้อมบรรยากาศใบไม้ร่วง
อิตาลี

วันที่ 10
๐ Milano เมืองที่ความทันสมัย + ความเก่าแก่ ผสมผสานกัน มีโบสแสนสวยอยู่กลางเมือง

วันที่ 11
๐ Florence เมืองน่ารัก สะพานร้านค้า ตามรอยดาวินชี 

วันที่ 12
๐ Rome เมืองประวัติศาสตร์ วิหารมากมาย เดินเที่ยววิหารก็หมดวันแล้ว

วันที่ 13
๐ โคลอสเซี่ยม ชมความยิ่งใหญ่และความโหดร้ายในอดีต

วันที่ 14
๐ โรมันฟอลั่ม ชมบ้านเมืองของอนาจักรที่เคยยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
๐ กลับบ้านนนนนน

สำหรับวันนี้ขอแชร์ไว้แค่นี้ก่อนนะครับ

 ครั้งหน้าจะมาพูดต่อถึง วิธีการป้องกันตัวจากโจรยุโรปตัวร้ายนะครับ
“เห้ย จะไปเที่ยวยุโรป ระวังโจรนะ!!”
  ทุกคนคงเคยได้ยินคำเตือนนี้แน่ๆ แล้วก็คงรู้สึกหวั่นกลัว ทำให้การที่คิดจะไปเที่ยวยุโรปครั้งแรกสั่นไหว
ยิ่งพอได้อ่านประสบการณ์ของคนอื่นที่โดนโจรกรรมมา แล้วการเที่ยวก็หมดสนุกไปเลย ก็ยิ่งทำให้กังวล!
โดยเฉพาะทริปนี้ของพวกเรา ที่เลือกจะไปทั้ง ฝรั่งเศส และ อิตาลี 2 ประเทศนี้โจรชุมอันดับต้นๆเลยนะ โดยเฉพาะปารีสและโรม!!
  การไปเที่ยวยุโรปครั้งเเรกของพวกเรา พวกเราก็เจอเหตุการณ์แบบที่เคยอ่านมาในกระทู้ Pantip เกือบจะทั้งหมด แต่พวกเราสามารถเอาตัวรอดและผ่านเหตุการณ์พวกนั้นมาได้ ครั้งหน้าจะมาเเชร์ทริคดีๆในการป้องกันตัว และบอกเล่าประสบการณ์ที่เคยเจอมานะครับ

  ถ้าชอบกระทู้นี้ ฝากกดไลค์ กดเเชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/BuddyItchyFeet/

หากมีข้อผิดพลาดประการใดพวกเราต้องขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยนะครับ  ^^