Saudi Press Agency หรือ SPA ของรัฐบาลซาอุฯ แถลงว่า ประชาชนจำนวนมากในสนามบินอับฮา ได้รับความเดือดร้อนจากการก่อการร้ายของกลุ่มกบฏฮูตีที่มีอิหร่านหนุนหลัง พลเรือนซาอุฯ หลายคนได้รับบาดเจ็บ และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย

         ทางด้านสำนักข่าวอัลอาราบิยา รายงานว่า นอกจากจรวดมิสไซล์แล้ว กลุ่มกบฏฮูตี ยังใช้โดรนบินโจมตีหลายจุดในลานจอดรถของสนามบินด้วยเช่นกัน
 
         กล้องวงจรปิดภาพในสนามบินสามารถจับภาพเหตุการณ์ดังกล่าวเอาไว้ได้ โดยคลิปวิดีโอที่แชร์บนสังคมออนไลน์เผยให้เห็นว่า ในช่วงก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สนามบินและประชาชน เดินกันไปมาตามปกติ ก่อนที่อยู่ดี ๆ มิสไซล์จะตกใส่หลังคา และเกิดระเบิดขึ้น ไฟลุกท่วม
 
         ข้อมูลจากกัลฟ์นิวส์ ระบุว่า นายพลตูร์กี อัล มาลิกี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 21 ราย เป็นชาวซาอุฯ 13 ราย ชาวอินเดีย 4 ราย ชาวอียิปต์ 3 ราย และชาวบังกลาเทศ 2 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตมี 1 ราย เป็นชายชาวซีเรีย ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้ว
 
         รายงานระบุว่า ปัญหาดังกล่าวคือส่วนหนึ่งของความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2558 หลังจาก ซาอุฯ และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สองชาติอาหรับที่มีโลกตะวันตกหนุนหลัง บุกเข้าแทรกแซงเยเมนและจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เพื่อลบล้างอำนาจของกลุ่มกบกฏฮูตี และไม่ใช่ครั้งแรกที่กลุ่มกบฏฮูตีได้ลอบโจมตีซาอุฯ
 
         ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มหัวรุนแรงดังกล่าวได้ยิงโจมตีหลายพื้นที่ในซาอุฯ มาแล้วหลายครั้ง และก่อนหน้านี้ในวันที่ 13 มิถุนายน สนามบินอับฮาก็เคยถูกยิงมิสไซล์ใส่มาแล้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 26 คน ซึ่งทางการซาอุฯ ก็ได้กล่าวหาอิหร่านว่าอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ แต่อิหร่านก็ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง

https://hilight.kapook.com/view/189879