เมื่อกรกฎาคมปี 2560
เราได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้า(กินยาต่อเนื่องอย่างน้อย3ปี) จากการกินยาเกินขนาดที่หอพักจนต้องเข้ารพ. ต่อมาเราออกจากมหาลัยเพื่อมารักษาตัว
กินยามาประมาณ 6 เดือน จนคุณหมอปรับยาจาก 4-5 ตัวเหลือ 2 ตัว แต่พอเข้าเดือนที่ 6 เรารู้สึกดีขึ้นมาก มากเสียจนเราตัดสินใจไม่ทานยาต่อแล้วเพราะ ผลข้างเคียงจากยามีผลกระทบต่องานเรามาก ตัวเราเองคิดว่าดีขึ้นมากคงไม่จำเป็นแล้ว แต่หลังจากหยุดยาไม่นานอาการเรากลับมา
ได้พยายามฆ่าตัวตายอีกโดยการกินยานอนหลับจำนวน 2 แผง + ยารักษาอาการซึมเศร้าต่างๆเยอะมากเราจำไม่ได้(แถมไม่ได้ไปหาหมอ)
ช่วงนั้นเบลอมาก ไปทำงานก็เบลอ เจอคนมาติดต่อก็คุยไม่รู้เรื่อง หนักสุดคือกลับบ้านครึ่งวันไปนอนโดยที่ไม่แจ้งใคร
และเราเองก็ไม่รู้เรื่องมารู้หลังจากได้สติแล้ว หัวหน้าเรามีเมตตาให้อภัยเรา เราถึงสามารถกลับไปทำงานได้
ครั้งที่สองเราพยายามทานยาพาราชนิด 1,000 mg. อีก 1 แผง ตอนนั้นอ้วกอย่างเดียวทำอะไรไม่ได้ แย่มาก(ไม่ได้หาหมออีกเช่นเคย)
จนในที่สุดสติเรากลับมา เราเหนื่อยกับการที่เราอยากตายแต่ไม่ยอมตายซะที เราเลยกลับมาเป็นผู้เป็นคนอีกครั้ง แต่ความเศร้าไม่เคยหายไปไหน
มีดีบ้างดาวน์บ้างแต่ครั้งนี้เราไม่ฆ่าตัวตายแล้ว ถึงจะยังอยากทำอยู่บ้างแต่ต้องพยายามข่มตัวเองให้ไม่ทำ
ที่ผ่านมาเราพยายามฆ่าตัวตายเกินกว่า10 ครั้ง นอนโรงพยาบาลมากกว่า 5 ครั้งเราไม่อยากทำอีกแล้ว
แต่พอมาปีนี้ เราถูกแฟนที่คบมา 4 ปีรักๆเลิกๆกันอยู่นานบอกเลิกและไปจริงๆเพราะเขามีคนใหม่ มันทำให้เราเศร้ามาก
เรารู้สึกแย่ เราเริ่มอยากตาย เราได้ยินเสียงคนบอกให้เราไปตายตลอด เห็นภาพตัวเองกระโดดสะพาน,กรีดแขน,ผูกคอตายฯลฯ
เริ่มหูแว่ว ได้ยินเสียงคนอื่นนินทาเราตลอด เราได้แต่อดทนบอกตัวเองว่าอย่าไปฟังอย่าไปเชื่อสิ่งพวกนั้นมันไม่ใช่ของจริง
ตอนนี้เรามีสติรู้ตัวดีคิดว่าควรกลับไปเข้ารับการรักษาอย่างจริงจังแต่เราค่อนข้างกังวลเรื่องยา เพราะตอนนี้เราทำงานกับชาวต่างชาติ
เรากลัวจะมีผลกระทบต่องานอย่างมาก
เลยอยากจะถามผู้มีประสบการณ์ว่าการกลับไปรับการรักษานั้นต้องเริ่มยาใหม่แต่แรกหรือเปล่า?
และหากเราสนใจการรักษาแบบใช้ไฟฟ้าเราสามารถติดต่อได้ที่ไหนบ้าง?
ขอบคุณค่ะ
เป็นซึมเศร้า หยุดยาเองจะกลับไปรักษา ต้องเริ่มต้นใหม่หมดหรือเปล่าคะ?
เราได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้า(กินยาต่อเนื่องอย่างน้อย3ปี) จากการกินยาเกินขนาดที่หอพักจนต้องเข้ารพ. ต่อมาเราออกจากมหาลัยเพื่อมารักษาตัว
กินยามาประมาณ 6 เดือน จนคุณหมอปรับยาจาก 4-5 ตัวเหลือ 2 ตัว แต่พอเข้าเดือนที่ 6 เรารู้สึกดีขึ้นมาก มากเสียจนเราตัดสินใจไม่ทานยาต่อแล้วเพราะ ผลข้างเคียงจากยามีผลกระทบต่องานเรามาก ตัวเราเองคิดว่าดีขึ้นมากคงไม่จำเป็นแล้ว แต่หลังจากหยุดยาไม่นานอาการเรากลับมา
ได้พยายามฆ่าตัวตายอีกโดยการกินยานอนหลับจำนวน 2 แผง + ยารักษาอาการซึมเศร้าต่างๆเยอะมากเราจำไม่ได้(แถมไม่ได้ไปหาหมอ)
ช่วงนั้นเบลอมาก ไปทำงานก็เบลอ เจอคนมาติดต่อก็คุยไม่รู้เรื่อง หนักสุดคือกลับบ้านครึ่งวันไปนอนโดยที่ไม่แจ้งใคร
และเราเองก็ไม่รู้เรื่องมารู้หลังจากได้สติแล้ว หัวหน้าเรามีเมตตาให้อภัยเรา เราถึงสามารถกลับไปทำงานได้
ครั้งที่สองเราพยายามทานยาพาราชนิด 1,000 mg. อีก 1 แผง ตอนนั้นอ้วกอย่างเดียวทำอะไรไม่ได้ แย่มาก(ไม่ได้หาหมออีกเช่นเคย)
จนในที่สุดสติเรากลับมา เราเหนื่อยกับการที่เราอยากตายแต่ไม่ยอมตายซะที เราเลยกลับมาเป็นผู้เป็นคนอีกครั้ง แต่ความเศร้าไม่เคยหายไปไหน
มีดีบ้างดาวน์บ้างแต่ครั้งนี้เราไม่ฆ่าตัวตายแล้ว ถึงจะยังอยากทำอยู่บ้างแต่ต้องพยายามข่มตัวเองให้ไม่ทำ
ที่ผ่านมาเราพยายามฆ่าตัวตายเกินกว่า10 ครั้ง นอนโรงพยาบาลมากกว่า 5 ครั้งเราไม่อยากทำอีกแล้ว
แต่พอมาปีนี้ เราถูกแฟนที่คบมา 4 ปีรักๆเลิกๆกันอยู่นานบอกเลิกและไปจริงๆเพราะเขามีคนใหม่ มันทำให้เราเศร้ามาก
เรารู้สึกแย่ เราเริ่มอยากตาย เราได้ยินเสียงคนบอกให้เราไปตายตลอด เห็นภาพตัวเองกระโดดสะพาน,กรีดแขน,ผูกคอตายฯลฯ
เริ่มหูแว่ว ได้ยินเสียงคนอื่นนินทาเราตลอด เราได้แต่อดทนบอกตัวเองว่าอย่าไปฟังอย่าไปเชื่อสิ่งพวกนั้นมันไม่ใช่ของจริง
ตอนนี้เรามีสติรู้ตัวดีคิดว่าควรกลับไปเข้ารับการรักษาอย่างจริงจังแต่เราค่อนข้างกังวลเรื่องยา เพราะตอนนี้เราทำงานกับชาวต่างชาติ
เรากลัวจะมีผลกระทบต่องานอย่างมาก
เลยอยากจะถามผู้มีประสบการณ์ว่าการกลับไปรับการรักษานั้นต้องเริ่มยาใหม่แต่แรกหรือเปล่า?
และหากเราสนใจการรักษาแบบใช้ไฟฟ้าเราสามารถติดต่อได้ที่ไหนบ้าง?
ขอบคุณค่ะ