ในโลกของการลงทุนที่ทุกคนวิ่งเข้ามาแสวงหาผลตอบแทน เราต้องยอมรับความจริงข้อแรกเลยว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่เราจะสร้างความมั่งคั่งด้วยการลงทุนให้เงินงอกเงยในระยะยาวตามเป้าหมายที่เราตั้งใจไว้ตั้งแต่ในวันแรกที่เริ่มต้นลงทุน เพราะจากประวัติศาสตร์การลงทุนที่มีมาอย่างยาวนาน เราพบว่า นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ มีจำนวนเพียงหยิบมือ เมื่อเทียบกับนักลงทุนอีกจำนวนมากที่ไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างที่ตั้งใจตั้งแต่ก่อนเดินเข้าตลาด
เกิดอะไรขึ้น?
งานวิจัยที่พยายามหาที่มาของผลตอบแทนอย่างยั่งยืนในระยะยาวหลายๆชิ้น ได้หลักฐานที่ไปในทางเดียวกัน ซึ่งเหมือนกับการพบแสงสว่างปลายอุโมงค์ที่เหมือนกับไฟนำทางให้นักลงทุนทุกคนพบโอกาสในการลงทุน
งานวิจัยนั้นว่าอย่างไร เราไปดูกันครับ
Blake, Lehmann และ Timmermann ทำการศึกษากองทุน Pension Fund ในสหรัฐฯ พบว่า ปัจจัยที่มีผลทำให้การลงทุนประสบความสำเร็จ มีอยู่ 3 ปัจจัยด้วยกัน คือ จังหวะลงทุนที่ถูกต้อง (Timing) การเลือกหลักทรัพย์ที่ถูกตัว (Selection) และ การจัดพอร์ตการลงทุน (Asset Allocation)
ซึ่งเขาพบว่า หากเอาเวลาที่นักลงทุนส่วนใหญ่ให้ความสนใจในการพยายามสร้างผลตอบแทน พบว่า จาก 100% นักลงทุนไปให้ความสนใจกับ 2 ปัจจัยแรก คือ จังหวะการลงทุนที่ถูกต้อง (Timing) และ การเลือกหลักทรัพย์ที่ถูกตัว (Selection) มากกว่า 90% ของเวลาการลงทุนทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
ในงานวิจัยค้นพบว่า การจัดพอร์ตการลงทุน (Asset Allocation) คือปัจจัยที่สำคัญมากถึง 99.5% ที่ทำให้ผลตอบแทนของ Pension Fund ในสหรัฐฯสร้างผลตอบแทนได้ถึงเป้าหมายในระยะยาว
เห็นแค่นี้ เราก็รู้ทันทีว่า การจัดพอร์ตลงทุน (Asset Allocation) คือ กลยุทธ์การลงทุนในระยะยาวที่นักลงทุนควรให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และมันก็นำมาซึ่งคำถามอีกหลายข้อ
1. ต้องมีสินทรัพย์ประเภทใดในพอร์ตบ้าง
2. จะแบ่งสัดส่วนเท่าไหร่ดี
3. ต้องถือไปยาวแค่ไหน
4. เมื่อไหร่ควรทำกำไรหรือปรับเปลี่ยนพอร์ต
แน่นอนว่า เราไม่ได้อุทิศเวลาทั้งชีวิตเพื่อการลงทุนเพียงอย่างเดียว เราทุกคนต่างต้องการชีวิตที่สมดุล เอาเวลาไปทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ไปอยู่กับคนที่อยากอยู่ ซึ่งหลายๆคนก็บอกได้ทันทีว่า มันไม่ใช่การมานั่งอ่านหนังสือลงทุนไปตลอด
แต่เป็นเพราะเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากขึ้นในศาสตร์แทบจะทุกแขนง รวมถึงเรื่องการเงินและการลงทุน เราจึงมีตัวเลือก และตัวช่วยในการลงทุนที่หลากหลายมากขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ TMB Smart Port จาก TMB
TMB Smart Port ช่วยนักลงทุนอย่างไร?
คือ บริการจัดพอร์ตกองทุนแบบครบวงจร โดยมีผู้เชี่ยวชาญคัดกองทุน จัดสัดส่วน และปรับพอร์ตการลงทุนให้ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหา 4 ข้อข้างต้นให้คุณได้ง่ายขึ้น ด้วยวิธีการกระจายความเสี่ยง จัดพอร์ต (Asset Allocation) นำเงินของเราไปลงทุนในกองทุนที่ผ่านการคัดเลือกมาจากหลากหลายสินทรัพย์ทั่วทุกมุมโลกจากมืออาชีพ
โดยพอร์ตที่ TMB ออกแบบมาให้ มีทั้งหมดด้วยกัน 5 ระดับความเสี่ยงตั้งแต่เสี่ยงต่ำไปถึงเสี่ยงสูง ซึ่งก็เหมาะกับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้แตกต่างกัน
และที่บอกว่ามีการปรับพอร์ตการลงทุนให้ สิ่งนี้น่าจะเป็นหัวใจสำคัญอีกอันหนึ่งที่นักลงทุนจะได้ประโยชน์จาก TMB Smart Port เพราะ บริการนี้ จะมีการปรับสัดส่วนการลงทุนให้สม่ำเสมอ ทำให้ลูกค้าไม่พลาดกับโอกาสในการซื้อ/ขาย (right timing) ถือเป็นบริการที่เหมาะกับนักลงทุนทุกประเภท ตั้งแต่ผู้เริ่มลงทุน ไปถึงนักลงทุนที่มีประสบการณ์แล้ว
จากรูปข้างต้น มี 5 พอร์ตการลงทุน นักลงทุนก็มีหน้าที่เลือกพอร์ตการลงทุนตามระดับความเสี่ยงของตัวเอง นี่คือ ขั้นตอนที่ 1 จากนั้น TMB Smart Port จะคัดกองทุนตัวท็อปคุณภาพดีจากทุกประเภทสินทรัพย์ จาก 10 บลจ. ชั้นนำมาให้ในพอร์ตของคุณ ไม่ต้องปวดหัวเลือกกองทุนใส่เข้าพอร์ตเอง
หลังจากนั้น ขั้นตอนที่ 2 ในฐานะของนักลงทุน เรามีหน้าที่นำเงินลงทุนเข้าไปใส่ไว้ในพอร์ต ซึ่งขั้นต่ำ ทาง TMB กำหนดไว้แค่เพียง 100,000 บาท เท่านั้น ถือว่าไม่มากเกินไปสำหรับการเริ่มต้นจัดพอร์ตนะครับ
และเมื่อเวลาผ่านไป สิ่งที่ถือว่าเป็นจุดเด่นอีกอย่างของ TMB Smart Port ก็คือ จะมีการปรับสัดส่วนการลงทุนตามสถานการณ์ตลาดอย่างสม่ำเสมอ ให้มั่นใจว่า สอดรับกับทิศทางตลาด และรักษาสมดุลของความเสี่ยงพอร์ตไว้ได้ตลอดทาง โดยที่นักลงทุนไม่องมานั่งคอยเฝ้าดูสถานการณ์ตลาดเอง
จบแล้วครับ ขั้นตอนการลงทุนกับ TMB Smart Port ง่ายไหม?
แค่เลือกพอร์ตการลงทุนที่เหมาะกับเรา แล้วก็ใส่เงินลงทุนเข้าใป
หลังจากนั้นคืองานของ TMB ล้วนๆที่จะทำให้พอร์ตของเรางอกเงยขึ้นจนถึงเป้าหมายการลงทุนในระยะยาว
แล้วหน้าตากองทุนรวมที่ TMB Smart Port เลือกให้เราเป็นอย่างไร?
ยกตัวอย่างหน้าตาของ Balanced Portfolio ความเสี่ยงระดับ 3 ตามรูปด้านล่าง
ข้อมูลพอร์ตการลงทุน ณ วันที่ 31 มี.ค. 2562
จะเห็นว่า ทาง TMB ไม่ได้เลือกเฉพาะกองทุนของ บลจ.ทหารไทย มาให้เรา แต่คัดเลือกจาก 10 บลจ. ชั้นนำ ที่ผ่านการวิเคราะห์และคัดเลือกมาแล้วโดยแบ่งเป็นประเภทสินทรัพย์ทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่ หุ้นไทย, หุ้นต่างประเทศ, ตราสารหนี้ไทย, ตราสารหนี้ต่างประเทศ
สำหรับหน้าตาพอร์ตการลงทุนพอร์ตอื่นๆ อยากรู้ว่าเป็นอย่างไร ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่
https://www.tmbbank.com/tmbadvisory/tmbsmartport หรือหากสนใจสามารถเข้าไปสอบถามได้ที่ TMB ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ TMB Investment Line โทร.1558 กด #9
ผลตอบแทนแต่ละพอร์ต จะดีกว่าที่เราไปจัดการเองไหม?
สำหรับคำถามนี้ ทาง TMB เขาก็มีคำตอบให้ จาก Performance ย้อนหลังนับตั้งแต่ต้นปีนี้ (2019) ผมว่า พอร์ตการลงทุนทุกพอร์ตตั้งแต่ความเสี่ยงระดับ 1 ถึง 5 ให้ผลตอบแทนเป็นบวกทุกพอร์ต หากเทียบกับตลาดหุ้นโลก (MSCI AC World Index) ซึ่งอยู่ที่ 9.38% แล้ว พบว่า พอร์ตความเสี่ยงระดับ 3-5 5 ซึ่งมีการลงทุนในตราสารหนี้ในพอร์ตบางส่วน สามารถเอาชนะได้สบายๆเลย ทั้งๆที่มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นน้อยกว่า สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความเก่งในการคัดเลือกกองทุนของทีม TMB
ในระหว่างปรับสัดส่วนในแต่ละไตรมาสจะไม่สามารถทำรายการเพิ่มหรือลดทุนได้
อย่าลืมว่า ความเสี่ยงที่สำคัญในการลงทุนก็คือ ความไม่รู้ ดังนั้น เพื่อให้ความเสี่ยงลดลง แนะนำเข้าไปศึกษา TMB Smart Port เพิ่มเติมที่ ธนาคาร TMB ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ TMB Investment Line โทร. 1558 กด#9 หรืออ่านข้อมูลข่าวสารลงทุนได้ที่
https://www.tmbbank.com/tmbadvisory/tmbsmartport หรือ Add LINE@ : @TMBadvisory หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจากเอกสารการเปิดบัญชีอีกทีนะครับ
ให้ TMB Smart Port เป็นอีกหนึ่งทางเลือกฉลาดๆของนักลงทุนในยุคนี้ เพื่อไปสู่เป้าหมายการลงทุนของคุณ ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม 😊
(การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต)
[BR] จัดพอร์ตการลงทุนแบบมืออาชีพฉบับ TMB Smart Port
ในโลกของการลงทุนที่ทุกคนวิ่งเข้ามาแสวงหาผลตอบแทน เราต้องยอมรับความจริงข้อแรกเลยว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่เราจะสร้างความมั่งคั่งด้วยการลงทุนให้เงินงอกเงยในระยะยาวตามเป้าหมายที่เราตั้งใจไว้ตั้งแต่ในวันแรกที่เริ่มต้นลงทุน เพราะจากประวัติศาสตร์การลงทุนที่มีมาอย่างยาวนาน เราพบว่า นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ มีจำนวนเพียงหยิบมือ เมื่อเทียบกับนักลงทุนอีกจำนวนมากที่ไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างที่ตั้งใจตั้งแต่ก่อนเดินเข้าตลาด
เกิดอะไรขึ้น?
งานวิจัยที่พยายามหาที่มาของผลตอบแทนอย่างยั่งยืนในระยะยาวหลายๆชิ้น ได้หลักฐานที่ไปในทางเดียวกัน ซึ่งเหมือนกับการพบแสงสว่างปลายอุโมงค์ที่เหมือนกับไฟนำทางให้นักลงทุนทุกคนพบโอกาสในการลงทุน
งานวิจัยนั้นว่าอย่างไร เราไปดูกันครับ
Blake, Lehmann และ Timmermann ทำการศึกษากองทุน Pension Fund ในสหรัฐฯ พบว่า ปัจจัยที่มีผลทำให้การลงทุนประสบความสำเร็จ มีอยู่ 3 ปัจจัยด้วยกัน คือ จังหวะลงทุนที่ถูกต้อง (Timing) การเลือกหลักทรัพย์ที่ถูกตัว (Selection) และ การจัดพอร์ตการลงทุน (Asset Allocation)
ซึ่งเขาพบว่า หากเอาเวลาที่นักลงทุนส่วนใหญ่ให้ความสนใจในการพยายามสร้างผลตอบแทน พบว่า จาก 100% นักลงทุนไปให้ความสนใจกับ 2 ปัจจัยแรก คือ จังหวะการลงทุนที่ถูกต้อง (Timing) และ การเลือกหลักทรัพย์ที่ถูกตัว (Selection) มากกว่า 90% ของเวลาการลงทุนทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
ในงานวิจัยค้นพบว่า การจัดพอร์ตการลงทุน (Asset Allocation) คือปัจจัยที่สำคัญมากถึง 99.5% ที่ทำให้ผลตอบแทนของ Pension Fund ในสหรัฐฯสร้างผลตอบแทนได้ถึงเป้าหมายในระยะยาว
เห็นแค่นี้ เราก็รู้ทันทีว่า การจัดพอร์ตลงทุน (Asset Allocation) คือ กลยุทธ์การลงทุนในระยะยาวที่นักลงทุนควรให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และมันก็นำมาซึ่งคำถามอีกหลายข้อ
1. ต้องมีสินทรัพย์ประเภทใดในพอร์ตบ้าง
2. จะแบ่งสัดส่วนเท่าไหร่ดี
3. ต้องถือไปยาวแค่ไหน
4. เมื่อไหร่ควรทำกำไรหรือปรับเปลี่ยนพอร์ต
แน่นอนว่า เราไม่ได้อุทิศเวลาทั้งชีวิตเพื่อการลงทุนเพียงอย่างเดียว เราทุกคนต่างต้องการชีวิตที่สมดุล เอาเวลาไปทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ไปอยู่กับคนที่อยากอยู่ ซึ่งหลายๆคนก็บอกได้ทันทีว่า มันไม่ใช่การมานั่งอ่านหนังสือลงทุนไปตลอด
แต่เป็นเพราะเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากขึ้นในศาสตร์แทบจะทุกแขนง รวมถึงเรื่องการเงินและการลงทุน เราจึงมีตัวเลือก และตัวช่วยในการลงทุนที่หลากหลายมากขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ TMB Smart Port จาก TMB
TMB Smart Port ช่วยนักลงทุนอย่างไร?
คือ บริการจัดพอร์ตกองทุนแบบครบวงจร โดยมีผู้เชี่ยวชาญคัดกองทุน จัดสัดส่วน และปรับพอร์ตการลงทุนให้ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหา 4 ข้อข้างต้นให้คุณได้ง่ายขึ้น ด้วยวิธีการกระจายความเสี่ยง จัดพอร์ต (Asset Allocation) นำเงินของเราไปลงทุนในกองทุนที่ผ่านการคัดเลือกมาจากหลากหลายสินทรัพย์ทั่วทุกมุมโลกจากมืออาชีพ
โดยพอร์ตที่ TMB ออกแบบมาให้ มีทั้งหมดด้วยกัน 5 ระดับความเสี่ยงตั้งแต่เสี่ยงต่ำไปถึงเสี่ยงสูง ซึ่งก็เหมาะกับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้แตกต่างกัน
และที่บอกว่ามีการปรับพอร์ตการลงทุนให้ สิ่งนี้น่าจะเป็นหัวใจสำคัญอีกอันหนึ่งที่นักลงทุนจะได้ประโยชน์จาก TMB Smart Port เพราะ บริการนี้ จะมีการปรับสัดส่วนการลงทุนให้สม่ำเสมอ ทำให้ลูกค้าไม่พลาดกับโอกาสในการซื้อ/ขาย (right timing) ถือเป็นบริการที่เหมาะกับนักลงทุนทุกประเภท ตั้งแต่ผู้เริ่มลงทุน ไปถึงนักลงทุนที่มีประสบการณ์แล้ว
จากรูปข้างต้น มี 5 พอร์ตการลงทุน นักลงทุนก็มีหน้าที่เลือกพอร์ตการลงทุนตามระดับความเสี่ยงของตัวเอง นี่คือ ขั้นตอนที่ 1 จากนั้น TMB Smart Port จะคัดกองทุนตัวท็อปคุณภาพดีจากทุกประเภทสินทรัพย์ จาก 10 บลจ. ชั้นนำมาให้ในพอร์ตของคุณ ไม่ต้องปวดหัวเลือกกองทุนใส่เข้าพอร์ตเอง
หลังจากนั้น ขั้นตอนที่ 2 ในฐานะของนักลงทุน เรามีหน้าที่นำเงินลงทุนเข้าไปใส่ไว้ในพอร์ต ซึ่งขั้นต่ำ ทาง TMB กำหนดไว้แค่เพียง 100,000 บาท เท่านั้น ถือว่าไม่มากเกินไปสำหรับการเริ่มต้นจัดพอร์ตนะครับ
และเมื่อเวลาผ่านไป สิ่งที่ถือว่าเป็นจุดเด่นอีกอย่างของ TMB Smart Port ก็คือ จะมีการปรับสัดส่วนการลงทุนตามสถานการณ์ตลาดอย่างสม่ำเสมอ ให้มั่นใจว่า สอดรับกับทิศทางตลาด และรักษาสมดุลของความเสี่ยงพอร์ตไว้ได้ตลอดทาง โดยที่นักลงทุนไม่องมานั่งคอยเฝ้าดูสถานการณ์ตลาดเอง
จบแล้วครับ ขั้นตอนการลงทุนกับ TMB Smart Port ง่ายไหม?
แค่เลือกพอร์ตการลงทุนที่เหมาะกับเรา แล้วก็ใส่เงินลงทุนเข้าใป
หลังจากนั้นคืองานของ TMB ล้วนๆที่จะทำให้พอร์ตของเรางอกเงยขึ้นจนถึงเป้าหมายการลงทุนในระยะยาว
แล้วหน้าตากองทุนรวมที่ TMB Smart Port เลือกให้เราเป็นอย่างไร?
ยกตัวอย่างหน้าตาของ Balanced Portfolio ความเสี่ยงระดับ 3 ตามรูปด้านล่าง
ข้อมูลพอร์ตการลงทุน ณ วันที่ 31 มี.ค. 2562
จะเห็นว่า ทาง TMB ไม่ได้เลือกเฉพาะกองทุนของ บลจ.ทหารไทย มาให้เรา แต่คัดเลือกจาก 10 บลจ. ชั้นนำ ที่ผ่านการวิเคราะห์และคัดเลือกมาแล้วโดยแบ่งเป็นประเภทสินทรัพย์ทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่ หุ้นไทย, หุ้นต่างประเทศ, ตราสารหนี้ไทย, ตราสารหนี้ต่างประเทศ
สำหรับหน้าตาพอร์ตการลงทุนพอร์ตอื่นๆ อยากรู้ว่าเป็นอย่างไร ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ https://www.tmbbank.com/tmbadvisory/tmbsmartport หรือหากสนใจสามารถเข้าไปสอบถามได้ที่ TMB ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ TMB Investment Line โทร.1558 กด #9
ผลตอบแทนแต่ละพอร์ต จะดีกว่าที่เราไปจัดการเองไหม?
สำหรับคำถามนี้ ทาง TMB เขาก็มีคำตอบให้ จาก Performance ย้อนหลังนับตั้งแต่ต้นปีนี้ (2019) ผมว่า พอร์ตการลงทุนทุกพอร์ตตั้งแต่ความเสี่ยงระดับ 1 ถึง 5 ให้ผลตอบแทนเป็นบวกทุกพอร์ต หากเทียบกับตลาดหุ้นโลก (MSCI AC World Index) ซึ่งอยู่ที่ 9.38% แล้ว พบว่า พอร์ตความเสี่ยงระดับ 3-5 5 ซึ่งมีการลงทุนในตราสารหนี้ในพอร์ตบางส่วน สามารถเอาชนะได้สบายๆเลย ทั้งๆที่มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นน้อยกว่า สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความเก่งในการคัดเลือกกองทุนของทีม TMB
ในระหว่างปรับสัดส่วนในแต่ละไตรมาสจะไม่สามารถทำรายการเพิ่มหรือลดทุนได้
อย่าลืมว่า ความเสี่ยงที่สำคัญในการลงทุนก็คือ ความไม่รู้ ดังนั้น เพื่อให้ความเสี่ยงลดลง แนะนำเข้าไปศึกษา TMB Smart Port เพิ่มเติมที่ ธนาคาร TMB ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ TMB Investment Line โทร. 1558 กด#9 หรืออ่านข้อมูลข่าวสารลงทุนได้ที่
https://www.tmbbank.com/tmbadvisory/tmbsmartport หรือ Add LINE@ : @TMBadvisory หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจากเอกสารการเปิดบัญชีอีกทีนะครับ
ให้ TMB Smart Port เป็นอีกหนึ่งทางเลือกฉลาดๆของนักลงทุนในยุคนี้ เพื่อไปสู่เป้าหมายการลงทุนของคุณ ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม 😊
(การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต)
BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน