https://www.share2trade.com/index.php?mod=talk&file=view&id=2089
ทำความรู้จักบริษัท ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ACG ผ่าน 10 จุดเด่น ก่อนที่ไอพีโอไฟแรงตัวนี้จะเข้าเทรดใน ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ วันที่ 27 มิ.ย. นี้
1. เบอร์ 1 ในวงการ
ฮอนด้ามะลิวัลย์ ซึ่งเป็นกิจการหลักของ ACG มีฐานะเป็นดีลเลอร์รายใหญ่รถยนต์ฮอนด้า แบรนด์ชั้นนำที่เป็นที่นิยมของผู้บริโภค อีกทั้งยังมีศูนย์บริการมากที่สุดในประเทศไทย
ถือว่าเป็นดีลเลอร์รถยนต์รายแรกจากทุกค่ายรถยนต์ที่เข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยได้สำเร็จ
2. พรีเมี่ยม
โชว์รูมรถยนต์เน้นความเรียบหรูเหนือทุกมาตรฐานด้วยความกว้างขวางและการตกแต่งภายใน เสริมด้วยบริการระดับ Luxury แก่ผู้เข้าใช้บริการ มีกระทั่งห้องชมภาพยนตร์ในโชว์รูม ขณะที่ความเร็วด้านงานซ่อมก็เป็นเลิศจากความพร้อมของช่าง พื้นที่ อุปกรณ์ และระบบการจัดการ
3. โปร่งใส
มาตรฐานบัญชีระดับสูง โดยใช้ผู้สอบบัญชีระดับ Big4 มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งกิจการในปีแรกๆ กระทั่งปัจจุบัน จึงทำให้ต้นทุนและรายจ่ายทุกอย่างมีความชัดเจนตรวจสอบได้ และง่ายต่อการทำข้อมูลไปประกอบการวางแผนการตลาดที่คุ้มค่า
4. กำไรแรง
ปี 2016 กำไรสุทธิอยู่ที่ 8.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากว่า 120%
ปี 2017 กำไรสุทธิอยู่ที่ 21.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากว่า 146%
ปี 2018 กำไรสุทธิอยู่ที่ 27.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากว่า 28%
อย่างไรก็ตาม ในปี 2018 กลุ่มบริษัทมีค่าใช้จ่ายมากกว่าปกติจากการปรับโครงสร้างและรวมธุรกิจในเครือเพื่อเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งจะไม่เกิดขึ้นแล้วในปีต่อๆ ไป
ส่วนปี 2019 เพียงไตรมาสแรกก็มีกำไรแล้ว 15.95 ล้านบาท
5. Barriers to entry สูง
ธุรกิจดีลเลอร์ของฮอนด้าในประเทศไทยจะมีการวางระบบพื้นที่ไม่ให้แต่ละเจ้าต้องเกิดการแข่งขันกันเอง ขณะที่การที่จะมีผู้ประกอบการรายใหม่เกิดขึ้นจำเป็นต้องได้รับการยินยอมจากฮอนด้าก่อนด้วย ดังนั้นตราบใดที่เจ้าของพื้นที่เดิมยังมียอดขายต่อเนื่องก็ยากมากที่จะมีคู่แข่ง รวมไปถึงการมีสาขาจำนวนมากกระจายทั่วประเทศช่วยทำให้ต้นทุนการบริหารได้เปรียบกว่าดีลเลอร์รายเล็กมาก
6. คนรุ่นใหม่
แม้ผู้ก่อตั้ง "ภานุมาศ รังคกูลนุวัฒน์" ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จะดำเนินธุรกิจด้วยตนเองมาตั้งแต่ปี 1992 กระทั่งปัจจุบันผ่านมาราว 27 ปี ในวัย 50 ต้นๆ แต่สไตล์การทำงานก็ยังเป็นแบบเชิงรุกไปพร้อมๆ กับทีมงานรุ่นใหม่ไฟแรงโปรไฟล์ดี โดยค่าเฉลี่ยอายุพนักงานอยู่ที่ราว 27-28 ปีเท่านั้น
7. มี Hidden Margin
ในทางบัญชีส่วนต่างของราคาขายรถยนต์เท่านั้นที่จะถูกบันทึกเป็นกำไรหลัก ทว่าในความเป็นจริงในการขายรถยนต์ยังมีกำไรจากการบริหารโปรโมชั่นส่วนลด จากค่านายหน้าไฟแนนซ์ ประกันภัย รวมไปถึงกำไรงานบริการด้วย เหล่านี้ถือเป็นกำไรทางอ้อมสำคัญที่ช่วยให้งบบรรทัดสุดท้ายเติบโต
8. ฐานะการเงินแกร่ง
ACG มีสินทรัพย์รวมล่าสุดในงบอยู่ที่ 1,233.87 ล้านบาท มีหนี้สินอยู่ที่ 832.97 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 400.90 ล้านบาท
คิดเป็นหนี้สินต่อทุน (D/E) ราว 2 เท่า ทว่าหนี้สิน D/E กำลังจะลดลงต่ำกว่า 2 เท่าอย่างมีนัยหลังได้เงินจากการขายไอพีโอ
9. มี Growth Story
หลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ ACG จะใช้เงินที่ได้ราว 200 ล้านบาทเพื่อทยอยขยายสาขาเพิ่มอีก 6 แห่ง รวมเป็น 15 แห่งทั่วประเทศ (จากปัจจุบันมีอยู่ 9 แห่ง) ซึ่งการมีสาขามากขึ้นจะช่วยเพิ่มความได้เปรียบในการบริหารจัดการสต็อกรถยนต์ให้มีประสิทธิภาพสูง พร้อมๆ กับยอดขายที่คาดจะเพิ่มขึ้นตาม
10. ปันผล
ACG มีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และสำรองตามกฎหมาย
รายละเอียดเพิ่มเติม
ประเภทธุรกิจ : เป็นโฮลดิ้งคอมพานีในธุรกิจจำหน่ายและบริการในอุตสาหกรรมรถยนต์
ทุนจดทะเบียน : 300 ล้านบาท
จำนวนขายหุ้นไอพีโอ : 156 ล้านหุ้น
ราคาต่อหุ้น : 1.44 บาท (พาร์ 0.50 บาท)
วันเริ่มซื้อขาย : 27 มิ.ย.2019
ผู้ถือหุ้นใหญ่ : นายภานุมาศ รังคกูลนุวัฒน์ (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร)
ที่ปรึกษาทางการเงิน : บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)
10 จุดเด่น ACG ไอพีโอไฟแรง
ทำความรู้จักบริษัท ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ACG ผ่าน 10 จุดเด่น ก่อนที่ไอพีโอไฟแรงตัวนี้จะเข้าเทรดใน ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ วันที่ 27 มิ.ย. นี้
1. เบอร์ 1 ในวงการ
ฮอนด้ามะลิวัลย์ ซึ่งเป็นกิจการหลักของ ACG มีฐานะเป็นดีลเลอร์รายใหญ่รถยนต์ฮอนด้า แบรนด์ชั้นนำที่เป็นที่นิยมของผู้บริโภค อีกทั้งยังมีศูนย์บริการมากที่สุดในประเทศไทย
ถือว่าเป็นดีลเลอร์รถยนต์รายแรกจากทุกค่ายรถยนต์ที่เข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยได้สำเร็จ
2. พรีเมี่ยม
โชว์รูมรถยนต์เน้นความเรียบหรูเหนือทุกมาตรฐานด้วยความกว้างขวางและการตกแต่งภายใน เสริมด้วยบริการระดับ Luxury แก่ผู้เข้าใช้บริการ มีกระทั่งห้องชมภาพยนตร์ในโชว์รูม ขณะที่ความเร็วด้านงานซ่อมก็เป็นเลิศจากความพร้อมของช่าง พื้นที่ อุปกรณ์ และระบบการจัดการ
3. โปร่งใส
มาตรฐานบัญชีระดับสูง โดยใช้ผู้สอบบัญชีระดับ Big4 มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งกิจการในปีแรกๆ กระทั่งปัจจุบัน จึงทำให้ต้นทุนและรายจ่ายทุกอย่างมีความชัดเจนตรวจสอบได้ และง่ายต่อการทำข้อมูลไปประกอบการวางแผนการตลาดที่คุ้มค่า
4. กำไรแรง
ปี 2016 กำไรสุทธิอยู่ที่ 8.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากว่า 120%
ปี 2017 กำไรสุทธิอยู่ที่ 21.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากว่า 146%
ปี 2018 กำไรสุทธิอยู่ที่ 27.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากว่า 28%
อย่างไรก็ตาม ในปี 2018 กลุ่มบริษัทมีค่าใช้จ่ายมากกว่าปกติจากการปรับโครงสร้างและรวมธุรกิจในเครือเพื่อเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งจะไม่เกิดขึ้นแล้วในปีต่อๆ ไป
ส่วนปี 2019 เพียงไตรมาสแรกก็มีกำไรแล้ว 15.95 ล้านบาท
5. Barriers to entry สูง
ธุรกิจดีลเลอร์ของฮอนด้าในประเทศไทยจะมีการวางระบบพื้นที่ไม่ให้แต่ละเจ้าต้องเกิดการแข่งขันกันเอง ขณะที่การที่จะมีผู้ประกอบการรายใหม่เกิดขึ้นจำเป็นต้องได้รับการยินยอมจากฮอนด้าก่อนด้วย ดังนั้นตราบใดที่เจ้าของพื้นที่เดิมยังมียอดขายต่อเนื่องก็ยากมากที่จะมีคู่แข่ง รวมไปถึงการมีสาขาจำนวนมากกระจายทั่วประเทศช่วยทำให้ต้นทุนการบริหารได้เปรียบกว่าดีลเลอร์รายเล็กมาก
6. คนรุ่นใหม่
แม้ผู้ก่อตั้ง "ภานุมาศ รังคกูลนุวัฒน์" ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จะดำเนินธุรกิจด้วยตนเองมาตั้งแต่ปี 1992 กระทั่งปัจจุบันผ่านมาราว 27 ปี ในวัย 50 ต้นๆ แต่สไตล์การทำงานก็ยังเป็นแบบเชิงรุกไปพร้อมๆ กับทีมงานรุ่นใหม่ไฟแรงโปรไฟล์ดี โดยค่าเฉลี่ยอายุพนักงานอยู่ที่ราว 27-28 ปีเท่านั้น
7. มี Hidden Margin
ในทางบัญชีส่วนต่างของราคาขายรถยนต์เท่านั้นที่จะถูกบันทึกเป็นกำไรหลัก ทว่าในความเป็นจริงในการขายรถยนต์ยังมีกำไรจากการบริหารโปรโมชั่นส่วนลด จากค่านายหน้าไฟแนนซ์ ประกันภัย รวมไปถึงกำไรงานบริการด้วย เหล่านี้ถือเป็นกำไรทางอ้อมสำคัญที่ช่วยให้งบบรรทัดสุดท้ายเติบโต
8. ฐานะการเงินแกร่ง
ACG มีสินทรัพย์รวมล่าสุดในงบอยู่ที่ 1,233.87 ล้านบาท มีหนี้สินอยู่ที่ 832.97 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 400.90 ล้านบาท
คิดเป็นหนี้สินต่อทุน (D/E) ราว 2 เท่า ทว่าหนี้สิน D/E กำลังจะลดลงต่ำกว่า 2 เท่าอย่างมีนัยหลังได้เงินจากการขายไอพีโอ
9. มี Growth Story
หลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ ACG จะใช้เงินที่ได้ราว 200 ล้านบาทเพื่อทยอยขยายสาขาเพิ่มอีก 6 แห่ง รวมเป็น 15 แห่งทั่วประเทศ (จากปัจจุบันมีอยู่ 9 แห่ง) ซึ่งการมีสาขามากขึ้นจะช่วยเพิ่มความได้เปรียบในการบริหารจัดการสต็อกรถยนต์ให้มีประสิทธิภาพสูง พร้อมๆ กับยอดขายที่คาดจะเพิ่มขึ้นตาม
10. ปันผล
ACG มีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และสำรองตามกฎหมาย
รายละเอียดเพิ่มเติม
ประเภทธุรกิจ : เป็นโฮลดิ้งคอมพานีในธุรกิจจำหน่ายและบริการในอุตสาหกรรมรถยนต์
ทุนจดทะเบียน : 300 ล้านบาท
จำนวนขายหุ้นไอพีโอ : 156 ล้านหุ้น
ราคาต่อหุ้น : 1.44 บาท (พาร์ 0.50 บาท)
วันเริ่มซื้อขาย : 27 มิ.ย.2019
ผู้ถือหุ้นใหญ่ : นายภานุมาศ รังคกูลนุวัฒน์ (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร)
ที่ปรึกษาทางการเงิน : บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)