1) นี่เป็นหนังของพี่คงเดช จาตุรันต์รัศมี ที่มีผลงานหนังอินดี้มากมายเช่นสยิว, เฉิ่ม, กอด, ตั้งวง, แต่เพียงผู้เดียว และ Snap... ได้แค่ คิดถึง นี่คือผลงานเรื่องล่าสุดของเขาที่ได้ "เจนนิษฐ์" และ "มิวสิค" สมาชิกวง BNK48 มาร่วมแสดงเป็นดารานำ และมีสมาชิกคนอื่นๆ ในวงมาแจมด้วย ซึ่งการกำกับของพี่คงเดชแต่ละเรื่องนับว่าชั้นครูทั้งนั้นครับ องค์ประกอบทุกอย่างมันส่งจริงๆ "เรื่องนี้ก็เช่นกัน"

     2) หนังพี่คงเดชจะไม่พยายามรีบเร่ง สังเกตุมาหลายๆ เรื่องละตั้งแต่เฉิ่มจนถึง Snap พี่แกจะใช้วิธีเล่าเรื่องแบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ให้คนดูได้ซึมซับความงดงามของสาส์นและสิ่งที่ภาพตรงหน้าพยายามจะสื่อ แต่หลายคนอาจจะงงได้เช่น "ทำไม close up หน้านางเอกใกล้จัง" "เอ๊ะ! ทำไมฉากนี้ไม่พูดอะไรเลย" แต่ถ้าเราคิดตามและจินตนาการไปตามหนัง มันเหมือนการเห็นตัวเลขบนโจทย์คณิตนั่นแหละครับ ถ้ามองว่ามันเป็นตัวเลขมันก็คือตัวเลข แต่ถ้าลองจินตนาการ เอาเลขนั่นมาบวกเลขนี่แล้วได้เป็นความคิดๆ นึง มันก็ขึ้นอยู่กับตัวเราครับว่าเราจะตีโจทย์ยังไงให้ถึงบางอ้อ

     3) หนังพี่คงเดชจะเน้นการแสดงที่สมจริง แน่นอนครับว่าจุดแข็งของหนังพี่แกหนึ่งในนั้นคือการแสดงบทบาทของนักแสดงที่พี่แกคัดมาอย่างดี หนังพี่แกจะไม่เน้นใช้ดาราแบบวงกว้างครับ ตั้งแต่พี่หม่ำ, พี่กระแต, เบสท์ ฯลฯ และก็พยายามให้บทบาทที่นักแสดงคนนั้นๆ กลายเป็นบท original และเป็น icon ของตัวนักแสดงเอง รวมทั้งเรื่องนี้ นอกจากเจนนิษฐ์ ผมก็นึกไม่ค่อยออกแล้วครับว่าใครจะรับบทซูได้พอเหมาะเท่าเจนนิษฐ์อีกแล้ว

     4) หนังพี่แกพล็อตจะน้อย จะเรียกว่าพล็อตอ่อนก้ไม่ได้ครับ เพราะพี่แกขยายความได้เก่งจริงๆ เช่นเรื่องเฉิ่ม เป็นเรื่องราวของคนขับแท็กซี่ที่ชอบฟังเพลงเก่า, กอด เล่าเรื่องราวของคนสามแขนที่อยากจะเอาแขนที่สามออก, ตั้งวง เล่าเรื่องราวของเด็กสี่คนที่ต้องฝึกรำไทยเพื่อแก้บน, Snap เล่าเรื่องราวช่วงเวลาของพระ-นาง และเรื่องนี้ เล่าเรื่องราวของ "ซู" ที่เบื่อกับประเทศไทย อยากไปเรียนที่ฟินแลนด์ พล็อตมันมีแค่นี้จริงครับ แต่พี่คงเดชก็นำมาขยายความและใส่ detail ต่างๆ ลงไปแบบพอดีทำให้เวลา 2 ชั่วโมง ที่นั่งอยู่ในโรงช่างผ่านไปไวเหมือนโกหก

     5) หนังพี่คงเดชทำให้ผมถกกับเพื่อนได้สนุกปาก มันสนุกนะครับการที่แชร์ความคิดของตัวเองให้คนอื่นฟัง มันอาจมีบางอย่างที่เราคิดเหมือนกัน และมันก็ย่อมมีบางอย่างที่เราคิดต่างกัน ฉะนั้นการที่ผมจะบอกว่าหนังเรื่องนี้สนุก ผมก็พูดไม่ได้เต็มปากครับ เพราะหนังไม่ได้ดูเพื่อความสนุก แต่เป็นหนังที่ดูแล้วเปิดจินตนาการของเราให้กว้างขึ้นมากกว่ามานั่งเสพความบันเทิงอายุ 2 ชั่วโมง

^

^

^

และหนังเรื่อง Where We Belong 'ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า' มีองค์ประกอบที่ผมว่ามาทั้ง 5 ข้อครับ

คะแนนเฉลี่ยรวม : 9.5/10

เรตหนัง : หนังดีที่ควรดู