3 ปี 4 ประวัติศาสตร์  >>> ทีมไอซ์ฮอกกี้ไทยจัดเป็นหนึ่งทีมกีฬาของเมืองไทยที่มีพัฒนาการ ก้าวอย่างไม่หยุดยั้ง โดยในช่วงเวลา 3 ปี ชาติน้องใหม่จากเขตร้อนโชว์ฟอร์มสะเด่าเขย่าเวทีฮอกกี้น้ำเเข็งโดยเฉพาะระดับเอเชียเป็นว่าเล่น แถมสร้างบันทึกที่น่าจดจำ เขียน 4 ประวัติศาสตร์ให้วงการฮอกกี้น้ำเเข็งไทย
:
:

- ประวัติศาสตร์ที่ 1 >>> ประเดิมด้วยปี 2017 ทีมไอซ์ฮอกกี้ชายทีมชาติไทย ซึ่งเเม้จะร่วมแข่งขันเอเชียนเกมส์ฤดูหนาวหลายสมัย เเต่ในครั้งล่าสุด ครั้งที่ 8 ที่ประเทศญี่ปุ่น พวกเขาสามารถสร้างเขียนประวัติศาสตร์แรกบนเวทีมหกรรมกีฬาเอเชียนั่นคือการได้ "เหรียญทอง"

- ถึงแม้ว่าจะเป็นการแข่งขันในระดับดิวิชั่น 1 หรือ ลีกระดับ 2 ที่ไม่มีการนับเหรียญรางวัลบนตารางเหรียญรวม แต่ก็ได้ฝากผลงาน "ไร้พ่าย" ให้แฟนกีฬาชาวไทยได้ชื่นชมกันพร้อมจบอันดับ 5 ของการแข่งขัน (เมื่อนับรวมต่อจาก 4 ประเทศในระดับท็อปดิวิชั่น)

- ประวัติศาสตร์ที่ 2 >>> ปี 2018 คือ ปีแห่งการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมของสมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทย เริ่มด้วยการจัดศึก "ไอซ์ฮอกกี้ ไทยแลนด์ ลีก" ซึ่งมีการใช้กฏตามหลักที่ถูกต้องของ "สหพันธ์ฮอกกี้น้ำแข็งนานาชาติ" หรือ (IIHF) นับเป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งสมาคมไอซ์ฮอกกี้ไทยขึ้นมา


-การจัดลีกครั้งนี้ ถือเป็นการรวบรวมหนุ่มๆที่มีใจรักในกีฬาชนิดนี้ทั่วฟ้าเมืองไทยมารวมกัน โดยแบ่งเป็น 4 ทีม แข่งในเวลา 20 นาที 3 พีเรียด และหยุดเวลาทุกครั้งที่มีเสียงนกหวีด ซึ่งทั้ง 4 ทีมจะแข่งวนจนกว่าจะครบตามจำนวนแมตช์ที่กำหนดของสหพันธ์ฮอกกี้น้ำแข็งนานาชาติ ซึ่งลีกที่ว่านี้ก็คือใบเบิกทางสู่การเล่นในระดับเวิลด์แชมเปี้ยนชิพ

- ประวัติศาสตร์ที่ 3 >>>  เกิดขึ้นในปี 2019 จากความสำเร็จของ ไอซ์ฮอกกี้ ไทยแลนด์ ลีก จึงเป็นที่มาของการไปแข่ง "เวิลด์แชมเปี้ยนชิพ" หรือ อาจจะเรียกว่า "ชิงแชมป์โลก" ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทีมชาติไทยได้ลงแข่งถึงแม้ว่าจะเป็นในระดับ ดิวิชั่น 3

- ในดิวิชั่น 3 ซึ่งมีทั้งหมด 6 ทีม ประกอบด้วย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (เจ้าภาพ), บอสเนีย, ฮ่องกง, คีร์กีซสถาน, ไทย และ คูเวต โดยรายการนี้ ทีมหนุ่มไอซ์ฮอกกี้ไทยซึ่งนับว่าเป็นมือใหม่ สามารถจบอันดับ 4 ได้สำเร็จ ก่อนภายหลังจะมีการตรวจสอบ เเละพบว่า คีร์กีซสถาน ทำผิดกฎโกงเรื่องสัญชาติ ทำให้ไทยส้มหล่นขยับขึ้นอันดับ 3 ทันที

- ประวัติศาสตร์ ที่ 4 >>>> เกิดขึ้นในปีเดียวกัน โดยถือเป็นประวัติศาสตร์ของทีมไอซ์ฮอกกี้ไทยอีกครั้ง หลังเว็บไซต์ www.iihf.com ของสหพันธ์ฮอกกี้น้ำแข็งนานาชาติ ประกาศการจัดกลุ่มการคลอลิฟายโอลิมปิกเกมส์ฤดูหนาว 2022 ซึ่งปรากฏชื่อ "ไทย" ในการคัดรอบแรกอยู่กลุ่มเดียวกับ ฮ่องกง (เจ้าภาพ), ไต้หวัน และ คูเวต ซึ่งจะหาเพียง 1 ทีมเข้าสู่รอบสองต่อไป

- ส่วนอีกกลุ่มในรอบแรก ต้องยอมรับว่าแข็งโป๊ก เพราะมี ลักเซมเบิร์ก, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, บอสเนีย และ คีร์กีซสถาน โดยจะหาเพียง 1 ทีมเช่นกันในการเข้าสู่รอบสอง ซึ่งการจัดอันดับแบ่งกลุ่มรอบคัดเลือก จะมี 4 รอบ แบ่งกลุ่มตามอันดับโลก

- นั่นก็หมายความว่า ประเทศที่อันดับโลกต่ำสุดก็จะเริ่มตั้งแต่รอบแรก ส่วนประเทศที่อันดับโลกสูงๆก็จะไปยืนรอในรอบ 3 หรือ 4 เมื่อเป็นเช่นนี้ทีม ไอซ์ฮอกกี้ไทย ที่ได้แข่งในระดับเวิลด์ฯครั้งแรก อยู่ที่ 51 ของโลก จึงต้องมาเริ่มตั้งแต่รอบแรก

- และด้วยเหตุการณ์ "ส้มหล่น" เมื่อครั้งที่แข่งเวิลด์ฯ ด.3 ที่ คีร์กีซสถาน ถูกปรับแพ้ทั้งหมด แล้วส่งให้ไทยขึ้นไปเป็นอันดับ 3 ทำให้อันดับโลกก็เป็น ไทย ที่อยู่เหนือ คีร์กีซสถาน และด้วยอันดับโลกนี้เอง จึงมีการจัดทีมวางแต่ละกลุ่มของรอบแรกคือ 1.ลักเซมเบิร์ก 2.ไต้หวัน 3.ฮ่องกง 4.สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 5.บอสเนีย 6.คูเวต 7.ไทย และ 8.คีร์กีซสถาน (อันดับ 1, 4, 5, 8 กับ อันดับ 2, 3, 6, 7) ทำให้ไทยอยู่ในกลุ่มที่งานเบากว่า ส่วน คีร์กีซสถาน ก็รับผลกรรมจากการโกงสัญชาติต่อไป

- สำหรับโอกาสของทีมหนุ่มไอซ์ฮอกกี้ไทยในการเข้ารอบ 2 มีสูงมาก ถ้าวัดจากผลงานในอดีตกับทั้ง 3 ชาติคู่แข่ง เพราะ ในระยะหลังมานี้ คูเวต กับ ฮ่องกง เป็นรองไทยหลายขุม ส่วน ไต้หวัน พอฟัดพอเหวี่ยงกัน

- อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่า เมื่อครั้งที่ไทยได้เหรียญทองเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ในปี 2017 ก็มาจากการเอาชนะ "ไต้หวัน" นี่แหละ! ดูเเล้วก็มีเเนวโน้มไม่น้อย ที่จะเกิดประวัติศาสตร์บทใหม่ขึ้นอีกในช่วงเวลาต่อจากนี้

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2161870130607865&id=1614998051961745

ปล.ปัจจุบัน เริ่มมีเด็กๆสนใจเล่นกีฬานี้เยอะขึ้นเรื่อยๆ ก็หวังว่าจะมีผู้ใหญ่หันมาให้การสนับสนุนกันให้มากขึ้นนะคะ