ผมเป็นอดีตพนักงานอสังหา ฯ แห่งหนึ่งที่เพิ่งจะ IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์ได้เมื่อช่วงหลังสงกรานต์ ผมเริ่มทำงานมาตั้งแต่ปีที่แล้วจนก้าวข้ามผ่านกระบวนการประเมินผลงาน วัดผลจนสำเร็จได้รับ fixed bonus ปลายปีแฮปปี้กันไปเรียบร้อย สถานีต่อไปคือโบนัสรอบตามผลการประเมิน ซึ่งจะมีกำหนดจ่ายให้พนักงานในเดือนมีนาคมนั่นเอง
เรื่องมันเกิดขึ้นตรงที่ว่า บริษัทเก่าของผมกำลังอยู่ใช่ช่วงเร่งกระบวนการต่าง ๆ นานาเพื่อให้ IPO ได้ทันในช่วงหลังสงกรานต์และหนึ่งในนั้นก็คือการตกแต่งตัวเลขให้สวยงาม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าใจ พนักงานทุกคนตอนนั้นได้รับแจ้งว่าบริษัทจะขอเลื่อนจ่ายโบนัสปีนี้จากเดือนมีนาคมไปเป็นเดือนพฤษภาคมแทนเนื่องจากกำลังจะเข้าตลาด ขอทำตัวเลขสวย ๆ ก่อน ส่วนตัวผมในตอนนั้นเข้าใจว่ามันคือ next step ของบริษัทที่จะก้าวหน้าได้ ก็เข้าใจในความจำเป็นข้อนั้น ก็ต้องรอต่อไป
สรุป 1 : สิ้นเดือนมีนาคม พนักงานทุกคนไม่ได้โบนัส ตามที่ได้รับแจ้งว่าขอเลื่อนจ่าย ย้ำนะครับว่าใช้คำว่าขอเลื่อนจ่าย
ต่อมาปลายเดือนเมษายนผมลาออกเนื่องจากได้งานใหม่ กำหนดวันทำงานสุดท้ายคือเดือนพฤษภาคม มีเหตุผลสนับสนุนหลายประการที่ผมเลือกที่จะเสี่ยงกับการไม่ได้เงินก้อนนั้นที่กำหนดใหม่คือปลายพฤษภาคม อันนี้ผมขอไม่พูดถึงเพราะนอกประเด็นตรงนี้ exit interview อะไรเรียบร้อยเป็นอันว่าสภาพพนักงานของผมจะจบลงในวันที่ 31 พ.ค.
ต้นเดือน พ.ค. บริษัท ฯ เข้าตลาดได้ เป็นที่น่ายินดีที่ก้าวสู่ความสำเร็จใหม่ได้ ถือเป็นเรื่องดี ๆ ที่ผมเองก็รับรู้ได้และยินดีด้วยกับว่าที่อดีตบริษัทของผมในวันนั้น ระหว่างนั้นก็มีการประกาศออกมาแล้วว่าจะมีเงินกินขนมให้นะสิ้นเดือน พ.ค. นี้ ผมก็ดีใจสิครับรออะไร แต่อีกใจก็หวั่น ๆ ว่าจะแป้กมั้ยสำหรับเคสผมเอง
เหตุการณ์ที่น่าเศร้าเกิดขึ้นตรงนี้ครับ :
HR ออกประกาศให้แต่ละฝ่าย แต่ละแผนกเข้าไปฟังประกาศเกี่ยวกับเงินก้อนนี้ เนื้อหาที่ได้รับมาคือ ปีนี้จะไม่จ่ายเป็นโบนัส แต่จะเรียกว่าเงินพิเศษแทนนะ ซึ่งเงินพิเศษนั้นมาพร้อมกับเงื่อนไขเพิ่มเติมซึ่งหนึ่งในนั่นก็คือต้องไม่พ้นสภาพพนักการก่อนวันที่ 1 มิ.ย. ผมนี่หน้าชาเลยครับตรงนั้น ทำได้อย่างเดียวคือทำใจ
ความรู้สึกส่วนตัว
ผมรู้สึกว่ามันไม่แฟร์เลยที่ผมโดนกระทำแบบนี้ เงินก้อนนี้ที่มันต้องมาตั้งแต่มีนาคมซึ่งในตอนนั้น ผมมีสิทธิ์ครบทุกอย่างทั้งตำแหน่ง หน้าที่ ผลงาน ผลการประเมิน แต่บริษัทขอความร่วมมือให้รอไปก่อนด้วยความที่อยากให้ตัวเลขสวยเพื่อเข้าตลาด ฯ ได้ดี ๆ ผมก็รอ แต่พอถึงกำหนดผมกลับไม่ได้ด้วยเงื่อนไขอะไรแบบนั้น ผมรู้สึกสงสัยว่าความตั้งใจของผมทั้งปีไร้ความหมายขนาดเลยเหรอ ถ้าผมแจ้งออกก่อนมีนาคม ผมยอมรับได้ผมไม่สมควรได้รับเงินก้อนนี้แน่นอน มันคนเป็นหนี้เราครบกำหนดจ่าย แต่ถึงเวลาขอเลื่อนไปอีกสองเดือน เราก็บอกอ่ะได้ ๆ ไม่เป็นไรเราเข้าใจเทอนะ แต่พอถึงเวลาก็ไม่จ่ายแล้วเพราะเราย้ายไปอยู่อีกพวกนึงแล้ว ไม่ให้ ไม่สนด้วยว่าเคยทำอะไรมา แบบนั้นเลย
ผมได้แต่ทน ทุกคนได้เงิน คุยเล่นกันสนุกสนาน แต่คนที่ไม่ได้อย่างผมด้วยเงื่อนไขแบบนั้น ผมไม่รู้จะทำหน้ายังไง ผมตั้งใจทำงานให้ที่นั่นมาทั้งปี ไม่เคยร้องขออะไรเพิ่ม บางอย่างเสียเองได้เพื่อให้งานเดินต่อก็ทำ ไม่เคยคิดเอาเปรียบบริษัท แต่สุดท้ายบริษัท ฯ ที่เราเคยรักกลับหักหลังกันซะได้แบบเน้น ๆ สุดท้ายผมก็ผ่านมันมาได้ พยายามเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นซึ่งยากเหลือเกิน ตอนนี้ไม่ได้อยู่ท่ี่นั่นแหละ ก็เลยอยากเล่าไว้อุทาหรณ์ให้มนุษย์เงินเดือนอย่างผมได้รับรู้ไว้ครับ
ข้อคิดที่ได้จากผมในครั้งนี้ก็คงจะมีแค่
อย่าเพิ่งยิ่นลาออก จนกว่าจะได้โบนัสเข้าบัญชีนะฮ้าฟฟฟฟฟฟ ไม่งั้นอาจจะแป้กแบบผมนี่แหละครับ
ขอบคุณที่ยอมอ่านจนจบครับ
ป.ล. ไอดีจริงไม่อิงเพื่อนครับ
แก้ไข tag ให้เหลือแค่นี้
บริษัทกำลังจะเข้า IPO ขอเลื่อนจ่ายโบนัส แต่พอถึงกำหนดกลับแจ้งว่าปีนี้ไม่ให้โบนัส แต่ให้เป็นเงินพิเศษแทน
เรื่องมันเกิดขึ้นตรงที่ว่า บริษัทเก่าของผมกำลังอยู่ใช่ช่วงเร่งกระบวนการต่าง ๆ นานาเพื่อให้ IPO ได้ทันในช่วงหลังสงกรานต์และหนึ่งในนั้นก็คือการตกแต่งตัวเลขให้สวยงาม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าใจ พนักงานทุกคนตอนนั้นได้รับแจ้งว่าบริษัทจะขอเลื่อนจ่ายโบนัสปีนี้จากเดือนมีนาคมไปเป็นเดือนพฤษภาคมแทนเนื่องจากกำลังจะเข้าตลาด ขอทำตัวเลขสวย ๆ ก่อน ส่วนตัวผมในตอนนั้นเข้าใจว่ามันคือ next step ของบริษัทที่จะก้าวหน้าได้ ก็เข้าใจในความจำเป็นข้อนั้น ก็ต้องรอต่อไป
สรุป 1 : สิ้นเดือนมีนาคม พนักงานทุกคนไม่ได้โบนัส ตามที่ได้รับแจ้งว่าขอเลื่อนจ่าย ย้ำนะครับว่าใช้คำว่าขอเลื่อนจ่าย
ต่อมาปลายเดือนเมษายนผมลาออกเนื่องจากได้งานใหม่ กำหนดวันทำงานสุดท้ายคือเดือนพฤษภาคม มีเหตุผลสนับสนุนหลายประการที่ผมเลือกที่จะเสี่ยงกับการไม่ได้เงินก้อนนั้นที่กำหนดใหม่คือปลายพฤษภาคม อันนี้ผมขอไม่พูดถึงเพราะนอกประเด็นตรงนี้ exit interview อะไรเรียบร้อยเป็นอันว่าสภาพพนักงานของผมจะจบลงในวันที่ 31 พ.ค.
ต้นเดือน พ.ค. บริษัท ฯ เข้าตลาดได้ เป็นที่น่ายินดีที่ก้าวสู่ความสำเร็จใหม่ได้ ถือเป็นเรื่องดี ๆ ที่ผมเองก็รับรู้ได้และยินดีด้วยกับว่าที่อดีตบริษัทของผมในวันนั้น ระหว่างนั้นก็มีการประกาศออกมาแล้วว่าจะมีเงินกินขนมให้นะสิ้นเดือน พ.ค. นี้ ผมก็ดีใจสิครับรออะไร แต่อีกใจก็หวั่น ๆ ว่าจะแป้กมั้ยสำหรับเคสผมเอง
เหตุการณ์ที่น่าเศร้าเกิดขึ้นตรงนี้ครับ :
HR ออกประกาศให้แต่ละฝ่าย แต่ละแผนกเข้าไปฟังประกาศเกี่ยวกับเงินก้อนนี้ เนื้อหาที่ได้รับมาคือ ปีนี้จะไม่จ่ายเป็นโบนัส แต่จะเรียกว่าเงินพิเศษแทนนะ ซึ่งเงินพิเศษนั้นมาพร้อมกับเงื่อนไขเพิ่มเติมซึ่งหนึ่งในนั่นก็คือต้องไม่พ้นสภาพพนักการก่อนวันที่ 1 มิ.ย. ผมนี่หน้าชาเลยครับตรงนั้น ทำได้อย่างเดียวคือทำใจ
ความรู้สึกส่วนตัว
ผมรู้สึกว่ามันไม่แฟร์เลยที่ผมโดนกระทำแบบนี้ เงินก้อนนี้ที่มันต้องมาตั้งแต่มีนาคมซึ่งในตอนนั้น ผมมีสิทธิ์ครบทุกอย่างทั้งตำแหน่ง หน้าที่ ผลงาน ผลการประเมิน แต่บริษัทขอความร่วมมือให้รอไปก่อนด้วยความที่อยากให้ตัวเลขสวยเพื่อเข้าตลาด ฯ ได้ดี ๆ ผมก็รอ แต่พอถึงกำหนดผมกลับไม่ได้ด้วยเงื่อนไขอะไรแบบนั้น ผมรู้สึกสงสัยว่าความตั้งใจของผมทั้งปีไร้ความหมายขนาดเลยเหรอ ถ้าผมแจ้งออกก่อนมีนาคม ผมยอมรับได้ผมไม่สมควรได้รับเงินก้อนนี้แน่นอน มันคนเป็นหนี้เราครบกำหนดจ่าย แต่ถึงเวลาขอเลื่อนไปอีกสองเดือน เราก็บอกอ่ะได้ ๆ ไม่เป็นไรเราเข้าใจเทอนะ แต่พอถึงเวลาก็ไม่จ่ายแล้วเพราะเราย้ายไปอยู่อีกพวกนึงแล้ว ไม่ให้ ไม่สนด้วยว่าเคยทำอะไรมา แบบนั้นเลย
ผมได้แต่ทน ทุกคนได้เงิน คุยเล่นกันสนุกสนาน แต่คนที่ไม่ได้อย่างผมด้วยเงื่อนไขแบบนั้น ผมไม่รู้จะทำหน้ายังไง ผมตั้งใจทำงานให้ที่นั่นมาทั้งปี ไม่เคยร้องขออะไรเพิ่ม บางอย่างเสียเองได้เพื่อให้งานเดินต่อก็ทำ ไม่เคยคิดเอาเปรียบบริษัท แต่สุดท้ายบริษัท ฯ ที่เราเคยรักกลับหักหลังกันซะได้แบบเน้น ๆ สุดท้ายผมก็ผ่านมันมาได้ พยายามเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นซึ่งยากเหลือเกิน ตอนนี้ไม่ได้อยู่ท่ี่นั่นแหละ ก็เลยอยากเล่าไว้อุทาหรณ์ให้มนุษย์เงินเดือนอย่างผมได้รับรู้ไว้ครับ
ข้อคิดที่ได้จากผมในครั้งนี้ก็คงจะมีแค่
อย่าเพิ่งยิ่นลาออก จนกว่าจะได้โบนัสเข้าบัญชีนะฮ้าฟฟฟฟฟฟ ไม่งั้นอาจจะแป้กแบบผมนี่แหละครับ
ขอบคุณที่ยอมอ่านจนจบครับ
ป.ล. ไอดีจริงไม่อิงเพื่อนครับ
แก้ไข tag ให้เหลือแค่นี้