ศิโรตม์ โต้ จั๊ด คนไม่ได้แบนหนังปั้นจั่นเพราะโพสต์การเมือง แต่ฟังแล้วรู้สึกเหยียดปชช.
ศิโรตม์ โต้ จั๊ด คนไม่ได้แบนหนังปั้นจั่นเพราะโพสต์การเมือง แต่ฟังแล้วรู้สึกว่าเหยียดประชาชน : ข่าวการเมือง
หนังปั้นจั่น – วันที่ 21 มิ.ย. กระแสปมโพสต์การเมืองของพระเอกหนุ่ม ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัยยังคงร้อนแรงไม่มีแผ่ว สวนทางกับรายได้เปิดตัวหนัง
รัก 2 ปียินดีคืนเงิน เปิดตัวได้เพียง 7 แสนบาท สอดคล้องกับกระแสความไม่พอใจก่อนหน้าของผู้ชมที่บอกว่า จะไม่สนับสนุนเพราะพระเอกหนุ่มโพสต์เรื่องการเมืองด้วยถ้อยคำที่ค่อนข้างรุนแรง ร้อนจนปั้นจั่นต้องออกมาขอโทษทีมงานและแฟนหนังต่อกรณีดังกล่าว
ตัวภาพยนตร์ซึ่งแม้ว่าหลายเสียงจะบอกเหมือนกันว่าดี ควรค่าแก่การไปชม แต่พลอยโดนลูกหลงจากพิษการเมือง ทำให้ผู้ประกาศข่าวซัดทุกความจริงอย่าง จั๊ด ภีมะ ต้องออกมาแสดงความคิดเห็นว่าควรแยกเรื่องส่วนตัวกับงาน อย่าทำลายอาชีพหรือหนทางทำมาหากินกันเลย
ต่อมา
ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ ได้โพสต์แย้ง จั๊ด ภีมะว่า
“ดูคลิปในภาพแล้วไม่สบายใจ ต้นเรื่องคือหนังใหม่คุณปั้นจั่นแป้กแบบมีคนดูเป็นเก้าอี้แทบทุกโรง
ฝั่งคนดูนั้นชัดอยู่แล้วว่าไม่ไปเพราะไม่พอใจที่คุณปั้นจั่นพูดจาดูถูก แต่คุณจั๊ดพูดเหมือนใครไม่ดูหนังปั้นจั่นคือคนใจแคบ รับการที่นักแสดงพูดเรื่องการเมืองไม่ได้ โกรธที่ปั้นจั่นพูดขัดใจตัวเอง รวมทั้งไม่ใจกว้างเหมือนฝรั่งที่นักแสดงพูดเรื่องการเมืองเป็นธรรมดา
ฟังคุณจั๊ดแล้วเหมือนคนดูผิดที่ไม่ไปดูหนังปั้นจั่น แต่ผมว่าเรื่องนี้มีคนเข้าใจเรื่องคนดูไทยและดาราฝรั่งผิด เรื่องแรกคือ
คนไม่ได้มีปัญหาที่คุณปั้นจั่นพูดเรื่องการเมือง ปัญหาเกิดเพราะคุณปั้นจั่นแสดงความเห็นที่คนฟังรู้สึกว่าเหยียดประชาชน ตัวอย่างเช่นพวกอยากเลือกตั้งไม่ยอมทำมาหากิน, คนเบื่อรัฐบาลประยุทธ์คือพวกที่วันๆ เอาแต่ปาร์ตี้กินเหล้า ฯลฯ
พูดตรงๆ คือคุณปั้นจั่นไม่ได้แสดงความเห็นการเมืองเฉยๆ แต่คุณปั้นจั่นพูดแบบที่คนฟังรู้สึกคุณดูถูกความเป็นมนุษย์ของคนที่เห็นต่างจากคุณปั้นจั่นเอง
นักแสดงฝรั่งพูดเรื่องการเมืองแล้วไม่มีใครว่าอะไร แต่ถ้านักแสดงเริ่มก้าวล่วงถึงขั้นเหยียดเพศ เหยียดสีผิว เหยียดประชาชน เหยียดเชื้อชาติ เหยียดเพศสภาพ สังคมฝรั่งก็มีการบอยคอตและไม่ดูหนังของนักแสดงคนนั้นครับ เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ใช่การแสดงความเห็นการเมืองประเภทรักใครหรือชอบพรรคไหน แต่มันคือการดูหมิ่นความแตกต่างซึ่งไม่มีใครสิทธิว่าใคร ใครทำก็สมควรแล้วที่สังคมจะไม่ร่วมสังฆกรรม
คุณจั๊ดต้องเอาให้ชัดว่าเงินในกระเป๋าเป็นของคนดู คนดูมีสิทธิควักเงินให้ใครหรือนักแสดงคนไหนก็ได้ นี่คือการใช้สิทธิในที่ตั้งของผู้ชมเองครับ จะชี้หน้าด่าว่าคนดูละเมิดนักแสดงไม่ได้ เพราะคนดูไม่ได้ไล่ล่านักแสดง ไม่ได้ห้ามดาราแสดงหนัง ไม่ได้ห้ามฉายหนัง คนดูใช้สิทธิของตัวเองในการไม่ควักเงินซื้อหนังของนักแสดงที่เขารู้สึกว่าพูดจาดูหมิ่น นี่คือการปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ชม ผมไม่เห็นว่าคนดูจะไปก้าวล่วงหรือละเมิดคุณปั้นจั่นเลย
ในกรณีคุณปั้นจั่น ผมว่าบทเรียนที่ควรได้คือคนทำงานสื่อต้องไม่ดูถูกประชาชน ประชาชนมีบุญคุณกับเรา แค่สละเวลาดูก็มีพระคุณแล้ว ยิ่งเป็นนักแสดงซึ่งร่ำรวยจากค่าตั๋ว คุณยิ่งพูดจาดูหมิ่นประชาชนไม่ได้ และยิ่งอวยรัฐบาลทหารหรือเหยียบย่ำคนอยากเลือกตั้งยิ่งน่าเกลียด เพราะรัฐบาลแบบนี้หรือการหวงแหนอำนาจแบบนี้คือการแย่งอำนาจจากประชาชน คนดูจึงมีสิทธิโดยชอบที่จะไม่เอาเงินที่หาด้วยความเหนื่อยยากไปสนับสนุนคนที่ไม่เห็นหัวประชาชนเป็นธรรมดา
ดูหนังเดี๋ยวนี้ครั้งนึงก็ 4-500 ถัานักแสดงไม่เคารพประชาชน ประชาชนก็เอาเงินไปให้ลูกหลานเขากินข้าวหรือทำบุญดีกว่าครับ ใครดูถูกประชาชนก็ไม่มีสิทธิกล่าวหาว่าประชาชนละเมิด เพราะสิ่งที่ประชาชนทำก็แค่ไม่จ่ายเงินซื้อผลงานของคนที่ไม่เคารพประชาชน
ดาราพูดเรื่องการเมืองได้ครับ แต่ที่ไม่ว่าใครก็ทำไม่ได้คือใช้ปากประจบผู้มีอำนาจจนลืมตัวไปเหยียดหยามประชาชน คนดูไม่ได้เทหนังปั้นจั่นเพราะเกลียดที่ปั้นจั่นเห็นต่าง แต่เขาโกรธที่ปั้นจั่นพูดจาเหมือนดูถูกคนที่ด้อยกว่าตัวเอง”
https://thethaiger.com/thai/news-th/politics-th/%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%A1%E0%B9%8C-%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B9%89-%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B9%8A%E0%B8%94-%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99
ศิโรตม์ ช่องVOICE TV โต้ จั๊ด นักข่าวช่องONE คนไม่ได้แบนหนัง ปั้นจั่น เพราะโพสต์การเมือง แต่ฟังแล้วรู้สึกเหยียดปชช.
ศิโรตม์ โต้ จั๊ด คนไม่ได้แบนหนังปั้นจั่นเพราะโพสต์การเมือง แต่ฟังแล้วรู้สึกว่าเหยียดประชาชน : ข่าวการเมือง
หนังปั้นจั่น – วันที่ 21 มิ.ย. กระแสปมโพสต์การเมืองของพระเอกหนุ่ม ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัยยังคงร้อนแรงไม่มีแผ่ว สวนทางกับรายได้เปิดตัวหนัง รัก 2 ปียินดีคืนเงิน เปิดตัวได้เพียง 7 แสนบาท สอดคล้องกับกระแสความไม่พอใจก่อนหน้าของผู้ชมที่บอกว่า จะไม่สนับสนุนเพราะพระเอกหนุ่มโพสต์เรื่องการเมืองด้วยถ้อยคำที่ค่อนข้างรุนแรง ร้อนจนปั้นจั่นต้องออกมาขอโทษทีมงานและแฟนหนังต่อกรณีดังกล่าว
ตัวภาพยนตร์ซึ่งแม้ว่าหลายเสียงจะบอกเหมือนกันว่าดี ควรค่าแก่การไปชม แต่พลอยโดนลูกหลงจากพิษการเมือง ทำให้ผู้ประกาศข่าวซัดทุกความจริงอย่าง จั๊ด ภีมะ ต้องออกมาแสดงความคิดเห็นว่าควรแยกเรื่องส่วนตัวกับงาน อย่าทำลายอาชีพหรือหนทางทำมาหากินกันเลย
ต่อมา ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ ได้โพสต์แย้ง จั๊ด ภีมะว่า
“ดูคลิปในภาพแล้วไม่สบายใจ ต้นเรื่องคือหนังใหม่คุณปั้นจั่นแป้กแบบมีคนดูเป็นเก้าอี้แทบทุกโรง ฝั่งคนดูนั้นชัดอยู่แล้วว่าไม่ไปเพราะไม่พอใจที่คุณปั้นจั่นพูดจาดูถูก แต่คุณจั๊ดพูดเหมือนใครไม่ดูหนังปั้นจั่นคือคนใจแคบ รับการที่นักแสดงพูดเรื่องการเมืองไม่ได้ โกรธที่ปั้นจั่นพูดขัดใจตัวเอง รวมทั้งไม่ใจกว้างเหมือนฝรั่งที่นักแสดงพูดเรื่องการเมืองเป็นธรรมดา
ฟังคุณจั๊ดแล้วเหมือนคนดูผิดที่ไม่ไปดูหนังปั้นจั่น แต่ผมว่าเรื่องนี้มีคนเข้าใจเรื่องคนดูไทยและดาราฝรั่งผิด เรื่องแรกคือคนไม่ได้มีปัญหาที่คุณปั้นจั่นพูดเรื่องการเมือง ปัญหาเกิดเพราะคุณปั้นจั่นแสดงความเห็นที่คนฟังรู้สึกว่าเหยียดประชาชน ตัวอย่างเช่นพวกอยากเลือกตั้งไม่ยอมทำมาหากิน, คนเบื่อรัฐบาลประยุทธ์คือพวกที่วันๆ เอาแต่ปาร์ตี้กินเหล้า ฯลฯ
พูดตรงๆ คือคุณปั้นจั่นไม่ได้แสดงความเห็นการเมืองเฉยๆ แต่คุณปั้นจั่นพูดแบบที่คนฟังรู้สึกคุณดูถูกความเป็นมนุษย์ของคนที่เห็นต่างจากคุณปั้นจั่นเอง
นักแสดงฝรั่งพูดเรื่องการเมืองแล้วไม่มีใครว่าอะไร แต่ถ้านักแสดงเริ่มก้าวล่วงถึงขั้นเหยียดเพศ เหยียดสีผิว เหยียดประชาชน เหยียดเชื้อชาติ เหยียดเพศสภาพ สังคมฝรั่งก็มีการบอยคอตและไม่ดูหนังของนักแสดงคนนั้นครับ เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ใช่การแสดงความเห็นการเมืองประเภทรักใครหรือชอบพรรคไหน แต่มันคือการดูหมิ่นความแตกต่างซึ่งไม่มีใครสิทธิว่าใคร ใครทำก็สมควรแล้วที่สังคมจะไม่ร่วมสังฆกรรม
คุณจั๊ดต้องเอาให้ชัดว่าเงินในกระเป๋าเป็นของคนดู คนดูมีสิทธิควักเงินให้ใครหรือนักแสดงคนไหนก็ได้ นี่คือการใช้สิทธิในที่ตั้งของผู้ชมเองครับ จะชี้หน้าด่าว่าคนดูละเมิดนักแสดงไม่ได้ เพราะคนดูไม่ได้ไล่ล่านักแสดง ไม่ได้ห้ามดาราแสดงหนัง ไม่ได้ห้ามฉายหนัง คนดูใช้สิทธิของตัวเองในการไม่ควักเงินซื้อหนังของนักแสดงที่เขารู้สึกว่าพูดจาดูหมิ่น นี่คือการปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ชม ผมไม่เห็นว่าคนดูจะไปก้าวล่วงหรือละเมิดคุณปั้นจั่นเลย
ในกรณีคุณปั้นจั่น ผมว่าบทเรียนที่ควรได้คือคนทำงานสื่อต้องไม่ดูถูกประชาชน ประชาชนมีบุญคุณกับเรา แค่สละเวลาดูก็มีพระคุณแล้ว ยิ่งเป็นนักแสดงซึ่งร่ำรวยจากค่าตั๋ว คุณยิ่งพูดจาดูหมิ่นประชาชนไม่ได้ และยิ่งอวยรัฐบาลทหารหรือเหยียบย่ำคนอยากเลือกตั้งยิ่งน่าเกลียด เพราะรัฐบาลแบบนี้หรือการหวงแหนอำนาจแบบนี้คือการแย่งอำนาจจากประชาชน คนดูจึงมีสิทธิโดยชอบที่จะไม่เอาเงินที่หาด้วยความเหนื่อยยากไปสนับสนุนคนที่ไม่เห็นหัวประชาชนเป็นธรรมดา
ดูหนังเดี๋ยวนี้ครั้งนึงก็ 4-500 ถัานักแสดงไม่เคารพประชาชน ประชาชนก็เอาเงินไปให้ลูกหลานเขากินข้าวหรือทำบุญดีกว่าครับ ใครดูถูกประชาชนก็ไม่มีสิทธิกล่าวหาว่าประชาชนละเมิด เพราะสิ่งที่ประชาชนทำก็แค่ไม่จ่ายเงินซื้อผลงานของคนที่ไม่เคารพประชาชน
ดาราพูดเรื่องการเมืองได้ครับ แต่ที่ไม่ว่าใครก็ทำไม่ได้คือใช้ปากประจบผู้มีอำนาจจนลืมตัวไปเหยียดหยามประชาชน คนดูไม่ได้เทหนังปั้นจั่นเพราะเกลียดที่ปั้นจั่นเห็นต่าง แต่เขาโกรธที่ปั้นจั่นพูดจาเหมือนดูถูกคนที่ด้อยกว่าตัวเอง”
https://thethaiger.com/thai/news-th/politics-th/%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%A1%E0%B9%8C-%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B9%89-%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B9%8A%E0%B8%94-%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99