บทสัมภาษณ์ เจนนิษฐ์และมิวสิค จาก The Standard



พอเวลาผ่านไป 2 ปีกว่าๆ มุมมองของทั้งสองคนต่อคำว่า ‘ไอดอล’ ยังเหมือนเดิมหรือเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง 
 
เจนนิษฐ์: ตั้งแต่เริ่มมีคนมาสัมภาษณ์ หนูจะบอกตลอดว่าไม่อยากเรียกตัวเองว่าไอดอล เพราะถ้าคนเขานิยาม ‘ไอดอล’ ว่าต้องดี ต้องเพอร์เฟกต์ ต้องเป็นตัวอย่าง หนูก็ไม่สามารถเรียกตัวเองว่าไอดอลได้แล้ว (หัวเราะ)  
 
มิวสิค: สำหรับสิค ไอดอลคือบุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ ไม่ถึงขนาดจะต้องเป็นบุคคลต้นแบบที่แสนเพอร์เฟกต์ พวกเราพูดอยู่ตลอดว่าเราเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ที่ทำในสิ่งที่ตัวเองรักจนได้มายืนในจุดนี้ ถ้าเราจะเป็นไอดอลได้ ก็ตรงที่มีคนได้รับแรงบันดาลใจจากเราว่าเรายึดมั่น ทำตามในสิ่งที่รัก ไม่ได้หมายความว่าเราจะเป็นต้นแบบที่ดีในทุกๆ อย่างไปได้ทั้งหมด


กับ BNK48 ล่ะ ทั้ง 2 คนรู้สึกว่าพอเวลาผ่านไป 2 ปีกว่าๆ ตัวเอง belong ไปกับสถานที่แห่งนี้มากขนาดไหนแล้ว
 
เจนนิษฐ์: ความรู้สึกส่วนตัวนะคะ หนูคิดว่าเมมเบอร์ไม่ได้ belong กับ BNK48 แต่ BNK48 belong กับเมมเบอร์ เหมือนภาพลักษณ์ของวงเปลี่ยนไปตามการกระทำและกิจกรรมของเมมเบอร์ เราเป็นของเราแบบนี้ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองไปตามชื่อวง เพราะฉะนั้นเมมเบอร์ทุกคนคือคนขับเคลื่อนว่า BNK48 จะไปในทิศทางไหน เหมือนกับวงรุ่นพี่ที่อยู่ใน 48Group มีกฎระเบียบ มีแนวทางคล้ายๆ กัน แต่ทุกวงจะแตกต่างกันไปตามที่ตัวเมมเบอร์เป็น 
 
เป้าหมายที่อยากขับเคลื่อน BNK48 ไปให้ถึงในตอนนี้คืออะไร
 
เจนนิษฐ์: อยากให้คนเห็นว่าพวกเราเป็นวงที่มีพัฒนาการด้านเพอร์ฟอร์แมนซ์ดีขึ้นมาสักอย่างหนึ่งก็พอแล้ว ทุกวันนี้ดูเหมือนว่ามีคนชมพวกเราอยู่ แต่ส่วนใหญ่นั่นคือคำชมของแฟนคลับ ถ้าวิจารณ์ในวงกว้างจริงๆ พวกเราก็คงโดนเละเทะ ขนาดพวกเรายังวิจารณ์กันเองเลย เพราะฉะนั้นเป้าหมายของหนูยังเป็นเรื่องนี้เหมือนเดิม และจะพยายามทำต่อไป แต่ที่เปลี่ยนไปคือ เข้าใจว่าเป้าหมายนี้ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ เพราะมันมีข้อจำกัดหลายอย่างที่ทำให้พวกเรายังทำไม่ได้


หลังจากที่ได้ไปรับบทเป็นเบลและซูกันมาแล้ว รู้สึกว่าชอบนิสัยหรือเรื่องไหนของสองตัวละครนี้มากที่สุด
 
มิวสิค: ชอบที่เบลเป็นคนซื่อตรงต่อความรู้สึกของตัวเองมากๆ เบลไม่เคยโกหกความรู้สึกของตัวเอง เวลาร้องไห้ เขาก็ปล่อยทั้งหัวใจของเขาออกมากับการร้องไห้ครั้งนั้น เสียใจก็ยอมรับและแสดงออกมาว่าเสียใจอย่างเต็มที่ ซึ่งถ้าเป็นสิคคงไม่เก็บเอาไว้ ไม่กล้าแสดงออกมาแบบนั้น 
 
เจนนิษฐ์: ด้วยความที่ซูคล้ายๆ กับเจนนิษฐ์ที่ไม่ใช่ BNK48 การได้เป็นซูเลยเหมือนได้กลับไปพักผ่อนเหมือนกันนะ เป็นการพักผ่อนไปพร้อมๆ กับการเรียนรู้เพื่อนคนใหม่ที่ชื่อชู ที่มีอะไรเหมือนเราอยู่ครึ่งหนึ่ง ซึ่งครึ่งที่เหมือนกันคือเป็นคนที่รักตัวเองมากๆ (หัวเราะ) และก็รู้สึกว่าชอบซูตรงนี้มากที่สุด 
 
ซูเหมือนเป็นเจนนิษฐ์ในเวอร์ชันที่ตรงกว่า แข็งกว่า ฮาร์ดคอร์กว่า ซึ่งน่าจะดึงนิสัยของซูมาใช้ตอนเป็น BNK48 ไม่ได้ เพราะน่าจะใช้ชีวิตกับคนอื่นยากนิดหนึ่ง (หัวเราะ)


อ่านฉบับเต็ม: https://thestandard.co/bnk48-jennis-music/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่