:: 25 บทสรุป จากหลักสูตรไอดอล ของครูเอ๊ะ ละอองฟอง ในรายการ HITSTORY EP.19 ช่อง Songtopia ::
[PART 1 : จุดเริ่มต้นของวง BNK48]
1) โมเดลของ 48GroupTH ถูกวางไว้ให้เป็นสถาบัน เป็นเหมือนกับโรงเรียนสำหรับไอดอล
2) มีเพลงที่ผ่านมือครูเอ๊ะมาแล้วมากถึง 150 เพลง
3) ครูเอ๊ะ ถูกชวนเข้ามาร่วมงานหลังจบจากโปรเจกต์ คิวชู เดอะซีรีส์ ที่ทำงานร่วมกับพี่แดน-วรเวช โดยได้รับทุนสนับสนุนจากคุณต้อม (จริง ๆ ครูเอ๊ะ เคยชวนพี่แดนมาร่วมงานนี้ด้วย)
4) ครั้งแรกที่เปิดเพจ BNK48 มีคนกดถูกใจเพจ 1,500 คน ซึ่งกลายเป็นจุดตั้งต้น ที่ทำให้รู้ว่าในไทยมีแฟนคลับของวง AKB48 อยู่พอสมควร
5) ตอนประกาศรับสมัคร รุ่น 1 มีผู้สมัคร 1,500 กว่าคน แต่หลังจากเกิดปรากฏการณ์คุ้กกี้เสี่ยงทาย ใบสมัครรุ่น 2 ทำสถิติผู้สมัครเกือบสองหมื่นคน
[PART 2 : สมาชิกรุ่นแรก และการฝึกสอน]
6) ตอนคัดเลือกเมมเบอร์รุ่นแรก จะมีทั้งทีมไทย และทีมญี่ปุ่นมาคัดเลือก โดยเกณฑ์ในการคัดเลือก จะแบ่งเป็นรอบส่งรูปและใบสมัคร รอบสอบสัมภาษณ์ รอบ Workshop และรอบ Final ที่คัดเลือกมาเหลือแค่ 30 คน
7) สิ่งที่ตั้งต้นในการเลือก คือ การมีความฝัน ความตั้งใจจริงที่อยากมาเป็นไอดอลของผู้สมัคร ครูเอ๊ะเชื่อว่าสกิลนั้นพัฒนาได้ แต่ความตั้งใจจริง ความพยายาม ต้องเป็นสิ่งที่ผู้สมัครทำให้เราเห็นว่าเขามีสิ่งนั้นจริง ๆ
8) ครูเอ๊ะเชื่อว่า Mindset สำคัญของการเป็นไอดอล 48Group คือ การเชื่อว่าตัวเองเก่งขึ้นได้ ทุกครั้งที่ขึ้นไปโชว์ ต้องดีขึ้น เก่งขึ้น ค่อย ๆ ค้นหาบุคลิกภาพ คาแรคเตอร์ของตัวเองไปเรื่อย ๆ เพราะเราไม่ได้ต้องการให้ทุกคนก็อปคาแรคเตอร์ของใคร แล้วให้เมมเบอร์ทุกคนเป็นเหมือนกัน
9) ช่วงแรกของการก่อตั้งวง จะใช้เวลาหลังเลิกเรียน ช่วงหกโมงเย็นถึงสามทุ่มของเมมเบอร์ เป็นเวลาฝึกสอน แบ่งตารางออกเป็น เรียนร้องเพลง 3 วัน เรียนเต้น 4 วัน แล้วหยุด 1 วัน ถ้าถามว่าทักษะไหนที่ควรมีติดตัวมาเป็นอันดับแรก ครูเอ๊ะ บอกว่า "การเต้น"
10) ครูเอ๊ะ ยอมรับว่า ช่วง 2 ปีแรก มีเมมเบอร์ที่ท้อแท้ระหว่างทาง แต่ก็เป็นหน้าที่ของผุ้บริหาร และคุณครูที่จะคอยไกค์ คอยแนะแนว ทำให้เมมเบอร์เชื่อมั่นว่าวงจะประสบความสำเร็จ
[PART 3 : การทำเพลง และปรากฏการณ์คุ้กกี้เสี่ยงทาย]
11) เพลงแรกที่วงได้รับมาแปล คือ เพลง "365วันกับเครื่องบินกระดาษ" เพลงนี้ครูเอ๊ะ กับ ครูแมน แก้เนื้อกันประมาณ 5 รอบ เพราะยังปรับจูนความต้องการระหว่างไทยกับญี่ปุ่นไม่ได้ เนื่องจากลักษณะการเขียนเพลงของไทย กับ ญี่ปุ่น ต่างกัน
12) ด้วยความยากในการแปล ทำให้ครูแมน ถึงกับบอกว่า ไม่ทำแล้ว แต่ครูเอ๊ะ ก็คอยเป็นสื่อกลางให้ และคุยกับทางญี่ปุ่น จนได้ข้อสรุปว่า เนื้อหาในเพลงอาจจะมีไม่ตรงกัน แต่คอนเซปต์ต้องคงไว้แบบเดียวกัน
13) ครูเอ๊ะบอกว่า เพลงคุ้กกี้เสี่ยงทาย เป็นเหมือน Destiny ของครูเอ๊ะ เพราะย้อนกลับไปก่อนโปรเจกต์คิวชู ครูเอ๊ะ เคยไปยืนดูเพลงนี้ที่โตเกียว แล้วชอบมาก จนกลับมาบอกคนในวงว่า ละอองฟอง ต้องทำเพลงแนวนี้นะ
14) ตอนที่รู้ว่าต้องทำเพลงนี้ ครูเอ๊ะ รู้สึกว่านี่คือ Miracle ในชีวิต ครูเอ๊ะเลยบอกครูแมนว่า "เพลงนี้ต้องดังเท่านั้น"
15) เนื้อเพลงที่ร้องว่า "แอบมองเธออยู่นะจ๊ะ" ตอนแรกเขียนว่า "แอบมองเธออยู่นะนะ" ส่วนท่อนที่ร้องว่า "ให้คุ้กกี้ทำนายกัน" ตอนแรกเขียนว่า "มาสิมาทำนายกัน" ครูเอ๊ะ เป็นคนขอให้เปลี่ยนเนื้อเพลง และคุยกับทางญี่ปุ่น จนญี่ปุ่นยอม ส่วนชื่อเพลง "คุ้กกี้เสี่ยงทาย" ครูเอ๊ะได้แรงบันดาลใจมากจากชื่อเพลง "เซียมซีเสี่ยงรัก"
[PART 4 : ความสำเร็จของ BNK48 ในวันที่ไปถึงจุดสูงสุด]
16) ตอนนั้นทุกอย่างเข้ามาเร็วมาก งานหนักขึ้น คิวงานเยอะขึ้น สปอนเซอร์เข้ามามากขึ้น ตอนที่ไม่สำเร็จก็เป็นความท้าทาย แต่พอสำเร็จแล้วก็เป็นความท้าทายเช่นกัน
17) ครูเอ๊ะบอกกับเมมเบอร์ว่า ถ้าทำไม่ได้ ก็ให้มันตายตรงนี้แหละ เพราะที่เราทำมาทั้งหมด อดทนมาท้ังหมด ก็เพื่อวันนี้ไม่ใช่เหรอ หลายคนเข้าวงการก็เพื่อจะมีวันนี้ วันที่แสงสปอตไลท์ส่องมาถึงตัวเอง
18) งานจับมือหลังเกิดปรากฏการณ์คุ้กกี้เสี่ยงทาย มีบัตรจับมือถูกใช้ไปทะลุเกินหนึ่งหมื่นใบ
[PART 5 : คำสอนของครูเอ๊ะ]
19) เมมเบอร์ที่ Out Standing ออกมาจากเมมเบอร์ด้วยกัน ทุกคนไม่ได้เกิดจากการมี Bias ของครูผู้สอน แต่เกิดจากความพยายาม และความตั้งใจของเมมเบอร์ที่พยายามกดปุ่มเปิดไฟของตัวเอง
20) ครูเอ๊ะยกตัวอย่าง เฌอปราง โมบายล์ อร ปัญ สตางค์ มายยู และ ฮูพ ว่าทุกคนต่างก็มีแสงของตัวเอง โดดเด่นอกมาจนคนอื่นสัมผัสได้เอง
21) ครูเอ๊ะบอกเมมเบอร์เสมอว่า ครูไม่สามารถเอาแสงไปให้เธอได้ เธอต้องกดปุ่มตัวเอง ไม่ว่าเธออยู่ในที่มืดแค่ไหน ก็จะมีคนมองเห็นแสงของเธอเสมอ
[PART 6 : แผนในอนาคตของวง BNK48]
22) วันนี้วงกำลังมองไปในระยะยาว ว่าจะทำให้สถาบันนี้ยั่งยืนได้ยังไง เป็นสถาบันที่หล่อหลอมให้เด็กสาวที่มีความฝัน เติบโตออกไปเป็นคนคุณภาพของสังคมได้ยังไง
23) โปรเจกต์ Original Stage คืออีกหนึ่ง Miracle ที่เกิดขึ้นจากแนวคิดของเฌอปราง ที่ได้พูดคุยกับทีมผู้บริหาร และขออนุญาตจากทางญี่ปุ่นจนได้รับการอนุมัติให้ทำ
24) Original Stage ครั้งนี้ จะมีเพลงทั้งหมด 17 เพลง เป็นเพลงที่แต่งใหม่ จากโปวดิวเซอร์ระดับประเทศ 10 คน และมีอีก 7 เพลง ที่จะหยิบเอาเพลง Original และ Single ของวง BNK48 มา Cover ใหม่อีกที
25) ครูเอ๊ะบอกว่า ไม่ได้คาดหวังว่าสเตจนี้จะประสบความสำเร็จมากแค่ไหน แต่คาดหวังว่าสเตจนี้จะถูกทำออกมาให้สมบูรณ์แบบที่สุด
ช่วงท้ายรายการ ครูเอ๊ะบอกว่า ขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่สนับสนุนน้อง ๆ มาตลอด ทำให้น้องมีพลังในการต่อสู้กับระบบของ 48 พวกคุณคือส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกเขาก้าวข้าวระบบไปได้
🙏🏻ขอขอบคุณข้อมูลจาก
FB

TA story วันนี้ผมอยากบอกว่า
โพสต์
https://www.facebook.com/share/p/1GsbhAR3cE/
คลิปเต็ม :
https://youtu.be/-UkJN5djGkg?si=I5pl3KT17M1PWGlK
:: 25 บทสรุป จากหลักสูตรไอดอล ของครูเอ๊ะ ละอองฟอง ในรายการ HITSTORY EP.19 ช่อง Songtopia ::
[PART 1 : จุดเริ่มต้นของวง BNK48]
1) โมเดลของ 48GroupTH ถูกวางไว้ให้เป็นสถาบัน เป็นเหมือนกับโรงเรียนสำหรับไอดอล
2) มีเพลงที่ผ่านมือครูเอ๊ะมาแล้วมากถึง 150 เพลง
3) ครูเอ๊ะ ถูกชวนเข้ามาร่วมงานหลังจบจากโปรเจกต์ คิวชู เดอะซีรีส์ ที่ทำงานร่วมกับพี่แดน-วรเวช โดยได้รับทุนสนับสนุนจากคุณต้อม (จริง ๆ ครูเอ๊ะ เคยชวนพี่แดนมาร่วมงานนี้ด้วย)
4) ครั้งแรกที่เปิดเพจ BNK48 มีคนกดถูกใจเพจ 1,500 คน ซึ่งกลายเป็นจุดตั้งต้น ที่ทำให้รู้ว่าในไทยมีแฟนคลับของวง AKB48 อยู่พอสมควร
5) ตอนประกาศรับสมัคร รุ่น 1 มีผู้สมัคร 1,500 กว่าคน แต่หลังจากเกิดปรากฏการณ์คุ้กกี้เสี่ยงทาย ใบสมัครรุ่น 2 ทำสถิติผู้สมัครเกือบสองหมื่นคน
[PART 2 : สมาชิกรุ่นแรก และการฝึกสอน]
6) ตอนคัดเลือกเมมเบอร์รุ่นแรก จะมีทั้งทีมไทย และทีมญี่ปุ่นมาคัดเลือก โดยเกณฑ์ในการคัดเลือก จะแบ่งเป็นรอบส่งรูปและใบสมัคร รอบสอบสัมภาษณ์ รอบ Workshop และรอบ Final ที่คัดเลือกมาเหลือแค่ 30 คน
7) สิ่งที่ตั้งต้นในการเลือก คือ การมีความฝัน ความตั้งใจจริงที่อยากมาเป็นไอดอลของผู้สมัคร ครูเอ๊ะเชื่อว่าสกิลนั้นพัฒนาได้ แต่ความตั้งใจจริง ความพยายาม ต้องเป็นสิ่งที่ผู้สมัครทำให้เราเห็นว่าเขามีสิ่งนั้นจริง ๆ
8) ครูเอ๊ะเชื่อว่า Mindset สำคัญของการเป็นไอดอล 48Group คือ การเชื่อว่าตัวเองเก่งขึ้นได้ ทุกครั้งที่ขึ้นไปโชว์ ต้องดีขึ้น เก่งขึ้น ค่อย ๆ ค้นหาบุคลิกภาพ คาแรคเตอร์ของตัวเองไปเรื่อย ๆ เพราะเราไม่ได้ต้องการให้ทุกคนก็อปคาแรคเตอร์ของใคร แล้วให้เมมเบอร์ทุกคนเป็นเหมือนกัน
9) ช่วงแรกของการก่อตั้งวง จะใช้เวลาหลังเลิกเรียน ช่วงหกโมงเย็นถึงสามทุ่มของเมมเบอร์ เป็นเวลาฝึกสอน แบ่งตารางออกเป็น เรียนร้องเพลง 3 วัน เรียนเต้น 4 วัน แล้วหยุด 1 วัน ถ้าถามว่าทักษะไหนที่ควรมีติดตัวมาเป็นอันดับแรก ครูเอ๊ะ บอกว่า "การเต้น"
10) ครูเอ๊ะ ยอมรับว่า ช่วง 2 ปีแรก มีเมมเบอร์ที่ท้อแท้ระหว่างทาง แต่ก็เป็นหน้าที่ของผุ้บริหาร และคุณครูที่จะคอยไกค์ คอยแนะแนว ทำให้เมมเบอร์เชื่อมั่นว่าวงจะประสบความสำเร็จ
[PART 3 : การทำเพลง และปรากฏการณ์คุ้กกี้เสี่ยงทาย]
11) เพลงแรกที่วงได้รับมาแปล คือ เพลง "365วันกับเครื่องบินกระดาษ" เพลงนี้ครูเอ๊ะ กับ ครูแมน แก้เนื้อกันประมาณ 5 รอบ เพราะยังปรับจูนความต้องการระหว่างไทยกับญี่ปุ่นไม่ได้ เนื่องจากลักษณะการเขียนเพลงของไทย กับ ญี่ปุ่น ต่างกัน
12) ด้วยความยากในการแปล ทำให้ครูแมน ถึงกับบอกว่า ไม่ทำแล้ว แต่ครูเอ๊ะ ก็คอยเป็นสื่อกลางให้ และคุยกับทางญี่ปุ่น จนได้ข้อสรุปว่า เนื้อหาในเพลงอาจจะมีไม่ตรงกัน แต่คอนเซปต์ต้องคงไว้แบบเดียวกัน
13) ครูเอ๊ะบอกว่า เพลงคุ้กกี้เสี่ยงทาย เป็นเหมือน Destiny ของครูเอ๊ะ เพราะย้อนกลับไปก่อนโปรเจกต์คิวชู ครูเอ๊ะ เคยไปยืนดูเพลงนี้ที่โตเกียว แล้วชอบมาก จนกลับมาบอกคนในวงว่า ละอองฟอง ต้องทำเพลงแนวนี้นะ
14) ตอนที่รู้ว่าต้องทำเพลงนี้ ครูเอ๊ะ รู้สึกว่านี่คือ Miracle ในชีวิต ครูเอ๊ะเลยบอกครูแมนว่า "เพลงนี้ต้องดังเท่านั้น"
15) เนื้อเพลงที่ร้องว่า "แอบมองเธออยู่นะจ๊ะ" ตอนแรกเขียนว่า "แอบมองเธออยู่นะนะ" ส่วนท่อนที่ร้องว่า "ให้คุ้กกี้ทำนายกัน" ตอนแรกเขียนว่า "มาสิมาทำนายกัน" ครูเอ๊ะ เป็นคนขอให้เปลี่ยนเนื้อเพลง และคุยกับทางญี่ปุ่น จนญี่ปุ่นยอม ส่วนชื่อเพลง "คุ้กกี้เสี่ยงทาย" ครูเอ๊ะได้แรงบันดาลใจมากจากชื่อเพลง "เซียมซีเสี่ยงรัก"
[PART 4 : ความสำเร็จของ BNK48 ในวันที่ไปถึงจุดสูงสุด]
16) ตอนนั้นทุกอย่างเข้ามาเร็วมาก งานหนักขึ้น คิวงานเยอะขึ้น สปอนเซอร์เข้ามามากขึ้น ตอนที่ไม่สำเร็จก็เป็นความท้าทาย แต่พอสำเร็จแล้วก็เป็นความท้าทายเช่นกัน
17) ครูเอ๊ะบอกกับเมมเบอร์ว่า ถ้าทำไม่ได้ ก็ให้มันตายตรงนี้แหละ เพราะที่เราทำมาทั้งหมด อดทนมาท้ังหมด ก็เพื่อวันนี้ไม่ใช่เหรอ หลายคนเข้าวงการก็เพื่อจะมีวันนี้ วันที่แสงสปอตไลท์ส่องมาถึงตัวเอง
18) งานจับมือหลังเกิดปรากฏการณ์คุ้กกี้เสี่ยงทาย มีบัตรจับมือถูกใช้ไปทะลุเกินหนึ่งหมื่นใบ
[PART 5 : คำสอนของครูเอ๊ะ]
19) เมมเบอร์ที่ Out Standing ออกมาจากเมมเบอร์ด้วยกัน ทุกคนไม่ได้เกิดจากการมี Bias ของครูผู้สอน แต่เกิดจากความพยายาม และความตั้งใจของเมมเบอร์ที่พยายามกดปุ่มเปิดไฟของตัวเอง
20) ครูเอ๊ะยกตัวอย่าง เฌอปราง โมบายล์ อร ปัญ สตางค์ มายยู และ ฮูพ ว่าทุกคนต่างก็มีแสงของตัวเอง โดดเด่นอกมาจนคนอื่นสัมผัสได้เอง
21) ครูเอ๊ะบอกเมมเบอร์เสมอว่า ครูไม่สามารถเอาแสงไปให้เธอได้ เธอต้องกดปุ่มตัวเอง ไม่ว่าเธออยู่ในที่มืดแค่ไหน ก็จะมีคนมองเห็นแสงของเธอเสมอ
[PART 6 : แผนในอนาคตของวง BNK48]
22) วันนี้วงกำลังมองไปในระยะยาว ว่าจะทำให้สถาบันนี้ยั่งยืนได้ยังไง เป็นสถาบันที่หล่อหลอมให้เด็กสาวที่มีความฝัน เติบโตออกไปเป็นคนคุณภาพของสังคมได้ยังไง
23) โปรเจกต์ Original Stage คืออีกหนึ่ง Miracle ที่เกิดขึ้นจากแนวคิดของเฌอปราง ที่ได้พูดคุยกับทีมผู้บริหาร และขออนุญาตจากทางญี่ปุ่นจนได้รับการอนุมัติให้ทำ
24) Original Stage ครั้งนี้ จะมีเพลงทั้งหมด 17 เพลง เป็นเพลงที่แต่งใหม่ จากโปวดิวเซอร์ระดับประเทศ 10 คน และมีอีก 7 เพลง ที่จะหยิบเอาเพลง Original และ Single ของวง BNK48 มา Cover ใหม่อีกที
25) ครูเอ๊ะบอกว่า ไม่ได้คาดหวังว่าสเตจนี้จะประสบความสำเร็จมากแค่ไหน แต่คาดหวังว่าสเตจนี้จะถูกทำออกมาให้สมบูรณ์แบบที่สุด
ช่วงท้ายรายการ ครูเอ๊ะบอกว่า ขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่สนับสนุนน้อง ๆ มาตลอด ทำให้น้องมีพลังในการต่อสู้กับระบบของ 48 พวกคุณคือส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกเขาก้าวข้าวระบบไปได้
🙏🏻ขอขอบคุณข้อมูลจาก
FB
โพสต์https://www.facebook.com/share/p/1GsbhAR3cE/
คลิปเต็ม : https://youtu.be/-UkJN5djGkg?si=I5pl3KT17M1PWGlK