👸🏼💗🐶THE LEISURE GLOVES ถุงมือยามว่าง : เรื่องสั้น-ฉายเดี่ยว #4 ตอน "เจ้าตูบของคุณยาย" โดย "ถุงมือแจ๋วแหวว"🐶💗👸🏼

กระทู้คำถาม
ถึงตาของเรื่องสั้นบ้างแล้วครับ ^^

เรื่องนี้คงเป็นที่ถูกใจของคนรักสัตว์ โดยเฉพาะน้องหมา จขถม. ให้ชื่อว่า "เจ้าตูบของคุณยาย"

เรื่องราวจะเป็นอย่างไรบ้าง ไปอ่านกันเลยครับ (กรรมการก็เพิ่งจะกำลังเริ่มอ่านเหมือนกัน) อมยิ้ม04อมยิ้ม50


เจ้าตูบของคุณยาย


ฉันอาศัยอยู่ในบ้านอบอุ่นพร้อมกับคุณพ่อ คุณแม่ และคุณยาย

ฉันอายุสิบสองปีเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่สอง  เรื่องที่ฉันจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ไม่ใช่นิยาย

เพราะเด็กหญิงอย่างฉันยังเขียนนิยายไม่เป็น แต่ถ้าเป็นความเรียง ยังพอเขียนได้

ดังนั้นถือเสียว่าเรื่องที่ฉันเขียนต่อไปนี้เป็นความเรียงนะคะ

และเรื่อง ไม่ได้เน้นไปที่ครอบครัวของฉันโดยตรง

แต่เป็นเรื่องของ เจ้าตูบ  หมาพันธุ์ไทย

(ความจริงฉันไม่รู้หรอกว่าจะเป็นพันธุ์หมาไทยจริงขนาดไหน

แต่หน้าตาท่าทางไม่ได้เหมือนหมาเมืองนอกที่เห็นในทีวี)



เจ้าตูบหน้าตาเหมือนหมาทั่วไปที่พบเห็นในบ้านเมืองเรา


ขนสั้นสีขาวลายจุดเล็กบ้างใหญ่บ้างน้ำตาล  บางจุดก็เป็นสีดำ

มันถูกตั้งชื่อว่าตูบ เห็นยายบอกว่านัยน์ตาของมันดูเศร้าๆ ผิดหมาทั่วไป

เลยเรียกว่าเจ้าตูบ (ฉันเองก็ไม่เข้าใจว่า ความเศร้า กับคำว่า ตูบ เกี่ยวข้องกันตรงไหน)

แสนรู้มากที่สุด  ตั้งแต่จำความได้ ฉันก็มีเจ้าตูบเป็นเพื่อนมาตั้งแต่เด็ก

จะดึงหูลากหางยังไง เล่นแรง เจ้าตูบก็ไม่เคยโกรธ  อย่างมากก็แค่เดินหนีเท่านั้น

ยายบอกว่าสมัยฉันยังนอนแบเบาะ เจ้าตูบจะมานั่งๆนอนๆ เฝ้าบ่อยๆ

เหมือนจะคอยดูแล  พอเริ่มเดินได้ ฉันก็ชอบจะเล่นกับมัน

เวลาร้องไห้เห็นเจ้าตูบจะหยุดร้องทันที และหันไปดึงหางดึงหัวมันแทน



พอฉันเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ก็ไม่ได้รังแกมันอีก และนึกเสียใจที่สมัยนั้นชอบทำรุนแรงกับเจ้าตูบ


คุณยายของฉันรักมันมาก

ท่านเป็นคนคอยให้น้ำและอาหารของเจ้าตูบเสมอ

เวลาเดินไปตลาด หรือไปไหนต่อไหน เจ้าตูบจะเดินตามคุณยายไปด้วยทุกครั้ง

บางทีก็วิ่งนำหน้า เหมือนจะสำรวจเส้นทางให้ว่าปลอดภัยไหม

ท่าทางเจ้าตูบเวลาออกจากบ้านไปกับคุณยายท่าทางร่าเริง มีความสุขมากทีเดียว

รู้สึกได้เลยว่ามันรู้ภาษาคนหลายคำที่คุณยายพูดกับมัน สั่งให้นอนให้นั่งได้ คาบตะกร้าเดินไปมาได้

ถ้าคุณยายชี้นิ้วและบอกว่า ไปนอนตรงนั้น เจ้าตูบก็จะทำตาละห้อย

แต่ก็ยอมเดินไปนอนตำแหน่งที่คุณยายชี้บอกแต่โดยดี

แต่พอฉันสั่งบ้าง มันกลับเฉย

มันไม่ได้ดื้อหรอก แต่เลือกคนที่จะทำตาม




ฉันเคยนึกอิจฉาเจ้าตูบ  ที่ได้รับความรักความเอาใจใส่ของคุณยายที่ให้เจ้าตูบจนเกินหน้าเกินตา

ขนาดเรียกเจ้าตูบว่า ลูกเสมอ เช่น  มากินข้าวนะลูก   ---  ตูบเอ้ย อยู่ไหนนะลูก มาหาแม่เร็ว

พอได้ยินเสียงเรียกเจ้าตูบก็จะวิ่งแจ้นกระดิกหางมาหาทุกครั้ง  

แม้แต่การนอน ยังให้นอนในบ้าน แทนที่จะปล่อยให้นอนนอกบ้านอย่างหมาทั่วไป

“ยุงมันกัดเอา สงสารเขา”  เป็นคำอธิบายของคุณยาย

ฉันนึกอยากจะแย้งว่า ทีหมาตัวอื่นยังนอนนอกบ้าน มันเป็นธรรมชาติของหมาที่จะต้องอดทน

มานอนในบ้านก็เสียหมา   คุณยายไม่สนใจความเห็นของฉันเลย

แม้จะบ่นเรื่องขนหมาที่กระจายไปทั่วชั้นล่าง  คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ว่าอะไร

แล้วฉันจะว่าอะไรได้




เรื่องที่ฉันประทับใจที่สุดก็คงจะหลายปีมาแล้ว

ฉันพาจักรยาน ล้มข้างถนน

เจ้าตูบที่วิ่งตามมา มันนึกยังไงไม่รู้ วิ่งกลับบ้าน

แล้วหลังจากนั้นก็เห็นคุณพ่อกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามหลังเจ้าตูบมาดูอาการของฉันที่เจ็บเข่าจนเป็นแผล

เพราะล้มฟาดลงโดนเศษหินข้างทางเข้าให้

พ่อบอกว่าเจ้าตูบวิ่งหน้าตาตื่นมาและเห่าเสียงดังทำท่าเหมือนอยากให้ตามไป

ถ้าเป็นจริง  ฉันว่าเจ้าตูบมันรู้เรื่องดีเลย



วีรกรรมของเจ้าตูบมีมากมาย แต่มันก็กลายเป็นสมาชิกของครอบครัว


ทุกคนรักเจ้าตูบ หมาพเนจรที่เมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว (ก่อนฉันจะเกิดเสียอีก)

คุณยายเห็นมันมาด้อมๆมองๆ อยู่หน้าบ้าน ด้วยท่าทางหิวโหยอ่อนแรง
  
พอได้รับอาหารการกินจนอิ่มก็ไม่ยอมไปไหนอีก แรกๆ ก็นอนเจียมตัวหน้าบ้าน

แล้วพัฒนาการ เขยิบใกล้เข้ามาตามลำดับ จนกลายเป็นเข้ามานอนในบ้านชั้นล่าง อยู่ข้างเตียงไม้ของคุณยาย



มีภาพที่ฉันไม่มีวันลืม  ในวันเสาร์ของปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว


ที่ฉันจำได้เพราะจำได้ว่าเป็นวันที่ทางโรงเรียนจัดกิจกรรมวันคริสต์มาสในวันศุกร์

วันนั้น  คุณพ่อกับคุณแม่ออกไปทำธุระนอกบ้านกับคุณลุงที่มาเยี่ยมบ้านตั้งแต่เช้า

ฉันนั่งดูการ์ตูนทางทีวีอยู่ในบ้าน

แล้วก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายอยู่สนามหญ้าหน้าบ้าน จึงวิ่งออกไปดู

ภาพที่เห็นคือคุณยายกำลังร้องและกระโดดไปมาอย่างไม่น่าเชื่อว่าคนแก่ขนาดนั้นจะทำได้ ในมือมีไม้กวาดกำลังฟาดลงไปบนพื้นชนิดไม่นับ

มีเจ้าตูบเก่าเสียงดังและทำท่าเหมือนต่อสู้กับอะไรบางอย่างบนพื้น

มันเป็นตัวยาวๆ กำลังดิ้นไปมา

ฉันได้แต่มองดูด้วยความตกใจ ไม่รู้จะทำอะไรดี

จะออกไปช่วยคุณยาย ฉันก็รู้สึกหวาดกลัวงูเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ได้แต่ยืนตัวแข็ง นึกว่าอย่าให้เจ้างูวิ่งเข้ามาในบ้านเลย

ท่าทางของเจ้าตูบและคุณยายเต็มไปด้วยการปกป้องกันและกันชนิดไม่น่าเชื่อ

หลังจากนั้น สนามหญ้าหน้าบ้านก็มีเพื่อนบ้านเข้ามาหลายคน

ฉันจำคำพูดของพวกเขาไม่ได้หมดหรอก เพราะยังอยู่ในอาการตกใจ

แต่พอจับความได้ว่า เป็นงูเห่าที่บุกเข้ามาในบ้าน จะด้วยสาเหตุอะไรก็ไม่รู้

มันถูกเพื่อนบ้านตีตาย ส่วนเจ้าตูบพลาดท่าโดนงูกัด



นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกสงสารเจ้าตูบอย่างจับใจ
  

ภาพของมันวิ่งกระโดดไปมา ทำท่าปกป้องคุณยายอย่างสุดชีวิต ยังประทับในความทรงจำและความรู้สึกเสมอ แม้กระทั่งทุกวันนี้

เจ้าตูบคือฮีโร่ตัวจริง  มันเป็นหมาธรรมดา เหาะไม่ได้ ปล่อยแสงไม่ได้

แต่ได้ทำหน้าที่ครั้งสุดท้ายอย่างเต็มที่

และนั่นเป็นครั้งสุดท้าย  ที่ฉันเห็นเจ้าตูบแบบมีชีวิต

หมอที่คุณยายโทรตามมาที่บ้านบอกว่าช่วยอะไรไม่ได้แล้ว  พิษงูรวดเร็วเกินไป

เสียงครางของเจ้าตูบยังก้องกังวานอยู่ในหัว  เสียงของมันแผ่วลงเรื่อยๆ  จนหายไปในที่สุด

เหมือนมันพยายามจะพูดอะไรกับคุณยาย



ฉันนึกเสียใจที่ตอนนั้นไม่ได้ไปดูหน้าเจ้าหมาผู้กล้าหาญเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนมันจะหมดลมหายใจ


ถ้าย้อนเวลาได้ ฉันก็จะออกไปช่วยคุณยายลูบหัวเจ้าตูบ ให้มันจากไปอย่างสงบ

ทำไมฉันไม่มีความกล้าหาญเลยนะในเวลาสำคัญอย่างนั้น



คุณยายฝังเจ้าตูบไว้สนามหญ้าหน้าบ้าน มีเพื่อนบ้านมาช่วยกันหลุม


ฉันเห็นคุณยายร้องไห้แล้วก็อดจะร้องไห้ตามคุณยายไม่ได้

เพิ่งรู้สึกได้ว่า เพื่อนสนิทที่รู้จักมาตั้งแต่เกิด ได้จากไปเสียแล้ว

ต่อไปนี้จะไม่มีเจ้าหมาจอมซนที่เคยวิ่งตามเวลาไปตลาด

ไม่มีผู้พิทักษ์ที่เคยนั่งเฝ้าเสมอเวลาเล่นขายของอยู่กับกองทรายของบ้าน

ไม่มีตัวซนนุ่มๆ มาให้กอด

ไม่มีลิ้นสากๆที่มาคอยเลียมือเวลาให้อาหาร



มันเป็นเรื่องเศร้า


แต่คุณยายดูจะอาการหนักมากกว่า

ท่านกลายเป็นคนเหม่อลอย ชอบนั่งนิ่งอยู่คนเดียว

หลายครั้งท่านกอดเบาะที่นอนของเจ้าตูบด้วยสีหน้าท่าทางเศร้าสร้อย

และในที่สุดท่านก็ล้มป่วย

ฉันไม่รู้หรอกว่าจะเป็นเพราะการตายของเจ้าตูบ หรือเป็นเพราะโรคแทรกซ้อนตามหลัง  

บางทีอาจเป็นเพราะท่านอายุมากแล้วก็เป็นได้  แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไรท่านก็แย่ลงเรื่อยๆ

คุณพ่อกับคุณแม่พยายามจะพาท่านไปโรงพยาบาล แต่ท่านปฏิเสธอย่างเด็ดขาด

ท่านป่วยเป็นแรมปี  เปลี่ยนจากคนร่าเริงเป็นเงียบขรึม  

แต่ทุกคนก็ยังเบาใจว่าอาการท่านยังไม่หนักมาก



จนกระทั่งวันหนึ่ง


ขณะที่ฉันนั่งเล่นตุ๊กตาเป็นเพื่อนท่านอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน

ฉันก็ได้ยินคุณยายเรียกชื่อไอ้ตูบออกมา

ฉันนึกว่าท่านละเมอ เลยหันไปมอง

เห็นคุณยายลุกขึ้นนั่งพิงหมอนสามเหลี่ยม จ้องมองออกไปทางประตู

ใบหน้าท่าทางเต็มไปด้วยความสดชื่นและรอยยิ้ม ไม่เหมือนคนป่วยเลยสักนิด

ฉันไม่เคยเห็นสีหน้าท่านดีขนาดนี้มานานมากแล้ว



“ยายได้ยินเสียงเจ้าตูบ นั่นไงเจ้าตูบมาหายายแล้ว”


เสียงของท่านเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ

ฉันมองตามสายตาของท่านก็ไม่เห็นอะไรเลย  ได้แต่มองไปมาอย่างสงสัย

“รอนานแล้วนะกว่าจะเจอกัน ลูกเอ้ย” น้ำเสียงของคุณยายมีแววดีใจอย่างที่สุด

สายตาของท่านเหมือนมองเห็นมีเจ้าตูบอยู่ข้างตัวนี่เอง

ท่านพูดพึมพำอะไรไม่รู้ รู้เพียงว่าน้ำเสียงสุขสมหวังอย่างที่สุด

แต่ที่แน่ๆ ฉันเห็นท่าไม่ดี เลยวิ่งไปบอกคุณพ่อกับคุณแม่

พวกท่านออกไปที่บ้านคุณลุงที่อยู่ห่างจากบ้านเราไปประมาณสองสามร้อยเมตร

ฉันวิ่งแบบลืมเหนื่อย ละล่ำละลักบอกแบบคนตกใจว่าเจ้าตูบมาหาคุณยาย

ตอนแรกพวกผู้ใหญ่ทำท่าหัวเราะอย่างขบขัน คงนึกว่าฉันล้อเล่น

แต่คุณพ่อดูเหมือนจะฉุกใจคิดอะไรบางอย่างได้ก่อนใคร ท่านสีหน้าเปลี่ยนไป แล้วรีบชวนกันกลับไปดูคุณยาย



เมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็พบว่าคุณยายหมดลมหายใจไปเสียแล้ว ด้วยวัยแปดสิบกว่าปี  


สีหน้าของท่านเหมือนคนนอนหลับอย่างมีความสุข  จากไปโดยไม่ต้องทรมานอะไรเลยสักนิด

จากนั้นเสียงอะไรต่อมิอะไรอื้ออึงวุ่นวายไปหมด

ฉันรู้สึกมึนงงและตกใจกับการตายของคุณยาย ทำอะไรไม่ถูก

หูเหมือนจะได้ยินเสียงเห่าของหมาแทรกขึ้นมาในความวุ่นวายทั้งหลาย

จำได้ดีว่าเป็นเสียงของเจ้าตูบ

รู้สึกเหมือนมีอะไรที่มองไม่เห็นแค่คุ้นเคยวูบผ่านไป

มันเป็นกลิ่นของเจ้าตูบแน่นอน ฉันจำได้ดี และกลิ่นแป้งน้ำของคุณยาย

จู่ๆ ทำไมถึงนึกภาพคุณยายกำลังเดินห่างออกไป มีเจ้าตูบวิ่งกระโดดไปรอบตัวอย่างร่าเริงดีใจ

ภาพแวบขึ้นมาในความรู้สึกอย่างประหลาด ราวเป็นการสั่งลา



คุณยายจากไปอย่างสงบ


และในที่สุด ท่านก็ได้พบ เจ้าตูบ หมาที่ผูกพันราวกับเป็นลูกและเพื่อนแท้ของท่านตลอดมา  ในลมหายใจสุดท้ายของท่านนี่เอง

ฉันเชื่อว่าท่านไปดีอย่างแน่นอน

หลังจากนั้น ฉันกลายเป็นผู้นำของเพื่อนๆ ในการสอนบอกให้เพื่อนรู้จักรักสัตว์

พวกเขามีชีวิต รักชีวิต ต้องการความรักความใส่ใจ  มีความรู้สึกเหมือนเรา เป็นเพื่อนแท้ของเราได้โดยไม่เสแสร้ง

และฉันจะบอกกับทุกคนที่ฉันรู้จักแบบนี้ตลอดไป เพื่อความรักและความผูกพันธ์ของเพื่อนต่างเผ่าพันธุ์

ตามสิ่งที่คุณยายสอนให้ฉันเข้าใจ



เรื่องเจ้าตูบและคุณยาย มีเหตุการณ์แปลกประหลาด หลายคนอาจไม่เชื่อ


แต่ไม่สำคัญหรอก สำคัญที่ว่า เรื่องของฉันจะให้คนอ่านรู้สึกรักและเมตตาสัตว์เลี้ยง สัตว์ต่างๆ ได้เท่าไรต่างหาก

ไม่ต้องไปทำร้ายสัตว์เหมือนที่เห็นในข่าวแทบทุกวัน

ฉันรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งเมื่อเห็นข่าว มันน่าเศร้าและสลดใจกับการกระทำแบบนั้น

พวกที่ทำไม่มีหัวจิตหัวใจของความเป็นมนุษย์หรืออย่างไร  

ทั้งที่เพียงแต่เราหยิบยื่นความรักความเมตตาน้ำใจให้ พวกเพื่อนตัวน้อยใหญ่

ก็พร้อมจะตอบรับน้ำใจกลับมาด้วยความจริงใจให้พวกเรา

จากความเรียงของ ดญ.จันทร์เป็ง โรงเรียนบ้านวังหม้อ


///  จบ  ///

ถุงมือแจ๋วแหวว




แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่