ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.share2trade.com/index.php?mod=talk&file=view&id=1980
บริษัท ทาพาโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ TAPAC ที่อยู่ภายใต้การบริหารของ "มร.นารุฮิซะ อาเบะ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายเลือดญี่ปุ่น สร้างผลงานเทิร์นอะราวด์สวนกระแสเศรษฐกิจ ด้วยงบไตรมาส 2/62 (สิ้นสุด 30 เมษายน) พลิกกำไร 26.43 ล้านบาท ฟื้นชัดจากปีก่อนขาดทุน 25.20 ล้านบาท งานนี้มาด้วยฝีมือล้วนๆ จับตาเป้าหมายทั้งปีโตเกิน 10% อาจเป็นไปได้สวยกว่าที่วาดไว้
ประเด็นสำคัญที่ทำให้ TAPAC กลับมาด้วยก้าวที่สง่าผ่าเผยนี้ เกิดจากธุรกิจหลักสายงานก่อสร้างซึ่ง บริษัทย่อยคือ C4Hus AB ผู้ดำเนินธุรกิจก่อสร้าง-พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในประเทศสวีเดน สามารถต้านทานผลกระทบเชิงลบเศรษฐกิจของยุโรปได้ยอดเยี่ยม แม้รายได้ค่าก่อสร้างจะลดลง ทว่าด้วยการบริหารจัดการที่ดีทำให้มีกำไรเกิดขึ้นได้ จากเดิมไตรมาส 2/61 ขาดทุนในส่วนกำไรขั้นต้นกว่า 20%
ส่วนธุรกิจหลักดั้งเดิม การรับผลิตชิ้นส่วนพลาสติกวิศวกรรม สัดส่วนรายได้ราว 40% ของงบรวมก็มีออเดอร์ต่อเนื่อง และที่จะเป็นสตอรี่หลังจากนี้ไปก็คือ ผลพวงการที่จีนมีปัญหาสงครามการค้ากับสหรัฐอเมริกา นี่จึงทำให้ลูกค้ารายสำคัญของ TAPAC จะมีงานป้อนเข้ามาให้มากขึ้นจากการย้ายฐานผลิตในฝั่งจีนมาในไทยแทน
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เคยประกาศไว้อย่างมั่นใจว่า งบของงวดปี 62 นี้ จะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 3/62 ทั้งในแง่ของรายได้และกำไร จากทุกสายงานธุรกิจที่เข้าที่เข้าทางมากขึ้น
จริงๆ แล้ว หลายปีที่ผ่านมา งบย้อนหลัง TAPAC จะเร่งตัวแรงทั้งในไตรมาส 3 และ 4 อยู่แล้ว ซึ่งการที่ปีนี้ สามารถสตาร์ทได้เร็วตั้งแต่ก่อนกลางปี นี่อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ตัวเลขเป้าโต 10% ที่วางไว้อาจง่ายดายกว่าที่คิด
อีกหนึ่งทีเด็ดสวยๆ อย่างธุรกิจร้านเครื่องสำอาง “เฮ้ สตรีท บิวตี้” (HEJ Street Beauty) ที่ได้ "มาดามเจนนี่" จารุวัลย์ วงศ์เจษฏาสกุล เข้ามาดำเนินการในฐานะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีโฟร์ โกลบอล ในกลุ่ม TAPAC ก็เริ่มต้นได้ดีงวดปี 61 ก็มีกำไรทันที และที่น่าจับตาคือปี 62 นี้แผนการขยายสาขาเพิ่มจาก 5 สาขาเป็น 10 สาขา น่าจะทำให้สัดส่วนรายได้ที่เคยอยู่ที่ราว 1-2% โตขึ้นมาได้อีกเกินเท่าตัว ซึ่งจะคอยเป็นตัวสร้างกระแสเงินสดชั้นดี บาลานซ์ความเสี่ยงจากสายธุรกิจอื่นๆ ได้
ก้าวจากนี้ไปของ TAPAC ดูจะมั่นคงกว่าที่ผ่านมาค่อนข้างชัด ทุกสายธุรกิจดูเหมือนจะมีสตอรี่ที่ดีของตัวเอง สามารถช่วยสนับสนุนและคำยันซึ่งกันได้ ซึ่งแน่นอนว่าสุดท้ายแล้ว ผลดีย่อมจะสะท้อนมายังผลประกอบการบรรทัดสุดท้ายโดยมีผู้ถือหุ้นทั้งหลายเป็นผู้รับประโยชน์สูงสุดนั่นเอง
TAPAC ฟูลเทิร์นอะราวด์! ด้วยก้าวที่มั่นใจกว่าเดิม
บริษัท ทาพาโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ TAPAC ที่อยู่ภายใต้การบริหารของ "มร.นารุฮิซะ อาเบะ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายเลือดญี่ปุ่น สร้างผลงานเทิร์นอะราวด์สวนกระแสเศรษฐกิจ ด้วยงบไตรมาส 2/62 (สิ้นสุด 30 เมษายน) พลิกกำไร 26.43 ล้านบาท ฟื้นชัดจากปีก่อนขาดทุน 25.20 ล้านบาท งานนี้มาด้วยฝีมือล้วนๆ จับตาเป้าหมายทั้งปีโตเกิน 10% อาจเป็นไปได้สวยกว่าที่วาดไว้
ประเด็นสำคัญที่ทำให้ TAPAC กลับมาด้วยก้าวที่สง่าผ่าเผยนี้ เกิดจากธุรกิจหลักสายงานก่อสร้างซึ่ง บริษัทย่อยคือ C4Hus AB ผู้ดำเนินธุรกิจก่อสร้าง-พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในประเทศสวีเดน สามารถต้านทานผลกระทบเชิงลบเศรษฐกิจของยุโรปได้ยอดเยี่ยม แม้รายได้ค่าก่อสร้างจะลดลง ทว่าด้วยการบริหารจัดการที่ดีทำให้มีกำไรเกิดขึ้นได้ จากเดิมไตรมาส 2/61 ขาดทุนในส่วนกำไรขั้นต้นกว่า 20%
ส่วนธุรกิจหลักดั้งเดิม การรับผลิตชิ้นส่วนพลาสติกวิศวกรรม สัดส่วนรายได้ราว 40% ของงบรวมก็มีออเดอร์ต่อเนื่อง และที่จะเป็นสตอรี่หลังจากนี้ไปก็คือ ผลพวงการที่จีนมีปัญหาสงครามการค้ากับสหรัฐอเมริกา นี่จึงทำให้ลูกค้ารายสำคัญของ TAPAC จะมีงานป้อนเข้ามาให้มากขึ้นจากการย้ายฐานผลิตในฝั่งจีนมาในไทยแทน
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เคยประกาศไว้อย่างมั่นใจว่า งบของงวดปี 62 นี้ จะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 3/62 ทั้งในแง่ของรายได้และกำไร จากทุกสายงานธุรกิจที่เข้าที่เข้าทางมากขึ้น
จริงๆ แล้ว หลายปีที่ผ่านมา งบย้อนหลัง TAPAC จะเร่งตัวแรงทั้งในไตรมาส 3 และ 4 อยู่แล้ว ซึ่งการที่ปีนี้ สามารถสตาร์ทได้เร็วตั้งแต่ก่อนกลางปี นี่อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ตัวเลขเป้าโต 10% ที่วางไว้อาจง่ายดายกว่าที่คิด
อีกหนึ่งทีเด็ดสวยๆ อย่างธุรกิจร้านเครื่องสำอาง “เฮ้ สตรีท บิวตี้” (HEJ Street Beauty) ที่ได้ "มาดามเจนนี่" จารุวัลย์ วงศ์เจษฏาสกุล เข้ามาดำเนินการในฐานะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีโฟร์ โกลบอล ในกลุ่ม TAPAC ก็เริ่มต้นได้ดีงวดปี 61 ก็มีกำไรทันที และที่น่าจับตาคือปี 62 นี้แผนการขยายสาขาเพิ่มจาก 5 สาขาเป็น 10 สาขา น่าจะทำให้สัดส่วนรายได้ที่เคยอยู่ที่ราว 1-2% โตขึ้นมาได้อีกเกินเท่าตัว ซึ่งจะคอยเป็นตัวสร้างกระแสเงินสดชั้นดี บาลานซ์ความเสี่ยงจากสายธุรกิจอื่นๆ ได้
ก้าวจากนี้ไปของ TAPAC ดูจะมั่นคงกว่าที่ผ่านมาค่อนข้างชัด ทุกสายธุรกิจดูเหมือนจะมีสตอรี่ที่ดีของตัวเอง สามารถช่วยสนับสนุนและคำยันซึ่งกันได้ ซึ่งแน่นอนว่าสุดท้ายแล้ว ผลดีย่อมจะสะท้อนมายังผลประกอบการบรรทัดสุดท้ายโดยมีผู้ถือหุ้นทั้งหลายเป็นผู้รับประโยชน์สูงสุดนั่นเอง