ฉันกำลังเป็นอะไรกันแน่.. ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ วัณโรคต่อมน้ำเหลือง หรือมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ??

สวัสดีค่ะ หัวข้อกระทู้อาจจะดูน่าตกใจไปหน่อย มันคือความรู้สึกของเราตอนที่เราเผชิญหน้ากับมันค่ะ เราเลยอยากจะแชร์ประสบการณ์ของโรคที่เราเป็นให้เพื่อนๆฟังกันค่ะ 
ที่เรามีความตั้งใจไว้ว่าถ้าเกิดเราหายจากโรคที่เป็นอยู่แล้วเราจะเอาประสบการณ์ที่ตัวเองเจอมาแชร์ให้คนอื่นบ้าง เพราะตอนที่เรามีอาการใหม่ๆ
เราเองก็หาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตเยอะมาก ว่ามีใครเคยเป็นหรือเคยมีอาการเหมือนกันไหม ซึ่งตอนนั้นคือมีข้อมูลเกี่ยวกับคนที่เคยเป็นน้อยมากๆเลยค่ะ

*****บทความด้านล่างนี้เป็นความคิดเห็น ความรู้สึกส่วนตัวของเราล้วนๆนะคะ ซึ่งบางสิ่งเราอาจจะจำมาคลาดเคลื่อนบ้าง เพราะมันผ่านมาเกือบ 1 ปีแล้วน่ะค่ะ หากมีข้อมูลตรงไหนที่น่าจะไม่ได้เป็นเหมือนที่เราคิดหรือเข้าใจ ต้องขออภัยด้วยนะคะ*****

ทุกอย่างเริ่มต้นคือเมื่อช่วงต้นเดือนสิงหา 61...

เรามีอาการเจ็บบริเวณตรงไหปลาร้าด้านขวา โดยจะมีอาการเจ็บตอนที่ล้มตัวลงนอนเวลาตะแคงขวา ซึ่งเราคิดว่าคงกล้ามเนื้ออักเสบทั่วไปจึงไม่ได้สนใจอะไร เป็นมาประมาณ 2 อาทิตย์ ก็ไม่หายสักที เราเลยลองไปหาหมอที่ห้องพยาบาลของบริษัทเรา ก็ได้ยาพวกคลายกล้ามเนื้อมากินประมาณ 1 อาทิตย์ ก็รู้สึกว่ามีอาการดีขึ้น แต่เราก็ยังรู้สึกกังวลว่าสาเหตุแท้จริงมันเกิดจากกล้ามเนื้อจริงๆหรอ เลยลองไปหาหมอหู คอ จมูก ที่ รพ.เอกชน แห่งหนึ่ง
โดยหมอได้ตรวจโดยการคลำบริเวณรอบคอ และอัลตร้าซาวด์ ปรากฎหมอบอกว่า ต่อมน้ำเหลืองรอบเราคอโตกว่าปกติ ซึ่งตรงไหปลาร้าข้างขวาโตกว่าปกติมาก หมอจึงขอเจาะขอเอาเนื้อเยื่อไปตรวจ ซึ่งหมอบอกว่าอาจจะติดเชื้อหรือเป็นเนื้องอกก็ได้ โดยอาทิตย์หน้าหมอให้มาฟังผลตรวจเนื้อเยื่อ และหมอลองให้ยาแก้อักเสบชนิดนึงมากินเพื่อเผื่อว่ามันจะลดลงหรือหายไปเลย

1 อาทิตย์ถัดมา...

เรามาฟังผลตรวจ หมอบอกว่าก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากอะไร ต้องใช้เนื้อเยื่อมากกว่านี้ ซึ่งต้องทำการผ่าตัดเปิดบริเวณคอเพื่อเก็บเนื้อเยื่อ และถ้าเจอว่าเป็นก้อนเนื้อ หมอบอกว่าอาจจะทำการตัดทิ้งออกเลย แต่ก็ไม่สามารถคอนเฟิร์มได้ด้วยว่าจะหายขาด ซึ่งค่าผ่าตัดประมาณ 1 แสนบาท เราช็อคมาก ช็อคทั้งเรื่องอาการและเรื่องเงิน เราเลยลองปรึกษาแม่ แม่บอกว่าให้ลองไป รพ.รัฐ มีชื่อแห่งหนึ่งแถวอนุเสาวรีย์ เพื่อลองดูว่าวินิจฉัยออกมาได้เหมือนกันหรือไม่ เราจึงจะลองไปดู

ต้นเดือนกันยา61...

เราลองมาที่รพ.รัฐ ตามที่แม่แนะนำ ปรากฏว่าเราก็โดนเจาะที่คอบริเวณไหปลาร้าเหมือนเดิม เพื่อเอาเนื้อเยื่อไปตรวจ และหมอให้ยากลับบ้าน โดยอีก 1 อาทิตย์มาฟังผล ซึ่ง 1 อาทิตย์ถัดมา ผลที่ได้ออกมาคือ ‘ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากอะไร’ เราโดนเจาะครั้งแล้วครั้งเล่า ประมาณ 2-3 ครั้งได้
ก็ยังไม่รู้ผล จนหมอบอกว่าให้ไปทำ CT SCAN ซึ่งเราก็ไปทำ CT SCAN บริเวณหัวถึงคอ เสียเงินไปประมาณ 12000 หมออ่านผลที่ได้ออกมาคือมีก้อนอะไรบางอย่างที่คอ ขนาดประมาณ 3-4 cm และเจ้าก้อนนี้ก็เบียดเส้นเลือดใหญ่ที่คอเรามากจนทำให้เส้นเลือดใหญ่เราเริ่มผิดรูป หมอจึงบอกว่า เราอาจจะเป็นมะเร็งก็ได้ แต่หมอก็ยังไม่ฟันธง หมอจึงขอส่องกล้องที่โพรงจมูกเพิ่ม
ปรากฎว่าเจอผังผืดบางๆที่หลังโพรงจมูก หมอเลยขอผ่าตัดเอาเนื้อเยื่อผังผืดหลังโพรงจมูกไปตรวจด้วย ซึ่งผลออกมาคือ ปกติ ไม่ใช่มะเร็ง คราวนี้หมอจึงบอกว่าอาจจะต้องลองเปิดทำการผ่าตัดเปิดบริเวณที่บวม เพื่อดูว่าเป็นอะไรกันแน่ เพราะเจาะกี่ครั้งก็ดูดออกมาได้แต่น้ำเลือด
ไม่มีหนองหรืออะไรเจือปน หมอจึงให้ไปปรึกษาหมอศัลย์ ปรากฎว่าหมอศัลย์บอกว่าไม่ควรเปิดคอบริเวณนี้เลยเพราะมันเสี่ยงใกล้เส้นเลือดใหญ่มากๆ
หมอศัลย์จึงแนะนำให้ไปหาหมออัลตร้าซาวด์ เพื่อให้หมออัลตร้าซาวด์ลองเจาะเอาผลไปตรวจ ซึ่งผลที่หมออัลตร้าซาวด์เจาะได้คือ
หนอง ออกมานิดนึง (เข็มที่ใช้เจาะคือรูใหญ่มากสำหรับเรา)
ซึ่งในการนัดเจอหมอของตัวเองครั้งถัดไป เราบอกให้หมอฟังว่าหมอศัลย์เจาะเจอหนอง หมอเราจึงจะทำการเจาะดูอีกครั้ง แต่คราวนี้เรารู้สึกว่าเราพอแล้วที่จะตรวจ เพราะระยะเวลาทั้งหมดที่เราตรวจที่รพ.รัฐนี้ ทั้งหมด 1 เดือน เราก็ยังไม่รู้ผลสักทีว่าเราเป็นอะไร เราเจ็บทุกครั้งที่โดนเจาะ อีกทั้งที่ตรงบริเวณตรงไหปลาร้าเราก็เริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนมีขนาดประมาณ 4-5 cm. คือถ้าเรานอนตะแคงขวา เราจะรู้สึกเลยว่ามีก้อนอะไรบางอย่างอยุ่ที่คอ เรากับแม่เลยตัดสินใจเปลี่ยนไป รพ.เอกชน ที่เรามีประกันสังคมอยู่ เพื่อเผื่อจะได้รู้สักทีว่าเราเป็นอะไรกันแน่

ต้นเดือนตุลา 61...

เรามาที่ รพ.เอกชน ที่เรามีสิทธิ์ประกันสังคมอยู่ โดยที่รพ.เอกชนนี้ จะแยกตึกของผู้ป่วยสิทธิ์ประกันสังคมออกจากตึกปกติ เราจึงไปที่ตึกประกันสังคม
โดยเริ่มต้นต้องพบหมอทั่วไปก่อน หมอฟังทั้งหมดที่เราเล่า ผลตรวจเนื้อเยื่อผังผืดและผลตรวจ CT SCAN หมอจึงนัดให้เจอกับหมอเฉพาะทางของประกันสังคมอาทิตย์หน้าอีกที เรากับแม่ร้อนใจ จึงปรึกษากันว่า ไหนๆก็มา รพ.นี้แล้ว และวงเงินประกันกลุ่มของบริษัทเรายังไม่เกิน เราจึงลองไปหาหมอ หู คอ จมูก ที่ตึกปกติดู ปรากฎว่าเราโดนเจาะที่คอเหมือนเดิม แต่คราวนี้คือเจาะออกมาเป็นหนองล้วนๆ ประมาณ 10-20 cc. หลังจากโดนดูดหนองออกไป คือเห็นได้ชัดเลยว่าก้อนที่คอเรายุบลง หมอบอกว่าจะลองเอาเชื้อหนองนี้ไปตรวจดู เบื้องต้นหมอสันนิฐานว่าต่อมน้ำเหลืองเราติดเชื้อขั้นรุนแรง หรืออาจจะเป็นวัณโรคต่อมน้ำเหลืองก็ได้ ต้องรอผล 1-2 อาทิตย์ แต่ที่แน่ๆคือ 90% ไม่น่าเป็นมะเร็งแน่นอน ซึ่งเราได้ยินแบบนั้น เราโล่งใจมากๆ

1-2 อาทิตย์ถัดมา..

เช้าวันที่เรามาฟังผล เราลองจับไปที่ก้อนบวมที่คอ ปรากฎว่ามีน้ำเลือดปนน้ำหนองไหลออกมาตรงรอยที่เราโดนเจาะแบบอัลตร้าซาวด์ของที่ รพ.รัฐ ก่อนหน้านี้ เราตกใจมาก พอเราเจอหมอเราก็เล่าให้หมอฟัง หมอก็บอกว่าไม่เป็นอะไร มันจะได้ระบายหนองออกมาด้วย และผลการตรวจของเราออกมาคือเราเป็น ‘วัณโรคต่อมน้ำเหลือง’ ซึ่งหมอบอกว่ามันไม่เหมือนวัณโรคปอดที่สามารถติดเชื้อกันได้ โดยมันอาจเกิดจากร่างกายเราได้รับเชื้อโรคชนิดหนึ่ง และตอนนั้นภูมิคุ้มกันเราคงต่ำพอดี จึงทำให้เราติดเชื้อขึ้นมา ซึ่งต่อมน้ำเหลืองมันเป็นด่านแรกในการดักจับทำลายเชื้ออยู่แล้ว
จากนั้นหมอส่งตัวเราต่อไปให้หมอด้านโรคติดเชื้อ เพื่อทำการรักษา เราโดนให้ยาแก้อักเสบทางสายน้ำเกลือ 1
คืน และได้เริ่มกินยาต้านเชื้อวัณโรค ซึ่งบอกเลยว่ามันสุดจะบรรยายเลยจริงๆ มันรู้สึกร้อนรุ่ม กระวนกระวาย หลากหลายอารมณ์มากๆ ซึ่งเราต้องรับยาต้านนี้ โดยการกินทุกวัน เป็นระยะเวลา 6 เดือน หลังจากกินไปได้ สองอาทิตย์อาการผลข้างเคียงของยาก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ
จนตอนนี้ครบ 6 เดือนแล้ว เราหายแล้ว เหลือแต่เพียงรอยแผลเป็นบริเวณไหปลาร้าด้านขวาที่เกิดจากการเจาะแบบอัลตร้าซาวด์แค่นั้น

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สุดท้ายนี้เราอยากจะบอกกับเพื่อนๆหรือใครที่มีคนที่รัก ที่อาจจะกำลังเจอสถานะการณ์แบบเราตอนนั้นว่าให้ อดทน และสู้ๆ เดี๋ยวมันก็จะผ่านพ้นไป คุณผ่านมันไปได้อยู่แล้ว รู้ว่าอาจจะท้อ อาจจะเหนื่อย อาจจะสับสน ซึ่งตอนนั้นที่เราตรวจเท่าไหร่ก็ไม่รู้ผลสักที เราร้องไห้บ่อยมาก เพราะเราท้อ เราเหนื่อย เรากังวล แต่ก็ได้กำลังใจจากพ่อแม่ แฟน พ่อแม่แฟน เพื่อนๆ และคนรอบข้างที่รักเรา ทำให้เราก้าวข้ามผ่านมันมาได้

❤❤ ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่เรา และคุณพ่อคุณแม่ของแฟน ที่คอยให้กำลังใจ คอย support เราเสมอ
❤❤ ขอบคุณแฟนที่คอยดูแล คอยพาไปรพ. ที่สำคัญคือไม่เคยรังเกียจโรคที่เราเป็นเลย
❤❤ ขอบคุณคุณหมอทุกๆท่านที่เราเคยได้ไปตรวจหรือรักษา
❤❤ ขอบคุณเพื่อนๆที่คอยให้กำลังใจเราเสมอ และขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่เข้ามาอ่าน
หวังว่าประสบการณ์นี้จะช่วยเป็นประโยนช์ให้กับเพื่อนๆไม่มากก็น้อยนะคะ
สุดท้าย.. ขอบคุณตัวเราเองที่อดทนสู้ และข้ามผ่านสิ่งเหล่านี้มาได้ (。◕‿◕。)
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่