จากเหตุการณ์ที่มีนักเรียนระดับชั้นมัธยมปลาย ประดิษฐ์พานไหว้ครูสะท้อนความคิดเห็นทางการเมืองนั้น ตนมองได้ 2 มุม มุม1 ถ้าเด็กนักเรียนประดิษฐ์พานโดยคำแนะนำของครูที่ปรึกษาที่ฝักไฝ่พรรคการเมืองแล้วใส่ความคิดเห็นทางการเมืองผ่านพานไหว้ครูประดิษฐ์ ก็คงไม่เหมาะสมเสมือนใช้เด็กนักเรียนเป็นเครื่องมือทางการเมืองต่อต้านแทนครู เพราะครูคือข้าราชการต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ถ้าจะอธิบายการเมืองจะต้องพูดข้อมูล 2 ด้านเป็นกลางให้นักเรียนศึกษาและตัดสินใจเอง มุม2 ถ้าเด็กนักเรียนคิดเองประดิษฐ์พานไหว้ครูล้อการเมืองเอง นั้นตนมองว่าเป็นสิ่งดีได้สะท้อนมุมมอง ได้แสดงออกทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยตามมุมมองของตนเองที่สัมผัสได้ อีกอย่างในโรงเรียนก็มีการเลือกตั้งประธานนักเรียนซึ่งก็เป็นการเมืองภายในโรงเรียน วิชาสังคมศึกษา ในระดับ ประถมศึกษา มัธยมศึกษา เขาก็ได้สอนการเปลี่ยนผ่านของการเมืองภายในประเทศไทยจากอดีตถึงปัจจุบัน ทำให้นักเรียนเรียนรู้ประชาธิปไตยด้วยการลงมือทำ การปฏิบัติ การวิพากวิจารณ์ ถือเป็นสิ่งดี ตนยังอยากให้นักเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาล ถึง ปริญญาตรี สามารถวิจารณ์นโยบายของรัฐบาล พรรคการเมือง นักเรียนสามารถเสนอนโยบายการแก้ปัญหาบ้านเมืองในมุมมองของนักเรียนสู่พรรคการเมือง รัฐบาลได้เลย ตนสนับสนุนอย่างยิ่ง การเมืองในปัจจุบันถึงอนาคต เด็กรุ่นใหม่ถึงวัยกลางคนถึงวัยอาวุโส จะได้จูนความคิดให้เข้าใจกันทำงานแบบเข้าใจกัน นโยบายที่ออกมาจะสามารถสร้างประโยชน์แบบสมดุล การเมืองบ้านเมืองเป็นเรื่องของคนไทยทุกคนต้องร่วมกันทำ ร่วมแก้ปัญหา บ้านเมืองจะสงบสุข เจริญรุ่งเรือง

ความคิดเข้าท่าแฮะพี่เต้