[CR] KATHMANDU, NEPAL 3 วัน 2 คืน แบบไม่ TREK!!! ทริปคนบาป 1

ขอตั้งชื่อเรื่องก่อนเลยว่าทริปนี้คือทริปคนบาป และดันโง่ด้วย

เป็นกระทู้แรกของเราที่ดองไว้ปีกว่าๆ แล้ว พึ่งจะมารีวิวแต่เป็นประเทศที่ประทับใจมากมาก อยากเล่าต่อจริงๆ รูปถ่ายที่เคยแต่งไว้สวยๆ ก็คือหายไปหมดแล้วขออภัยด้วยส่วนใหญ่จะเป็นรูปดิบๆ จากกล้อง Iphone6s ของเราเอง

เรื่องมีอยู่ว่าเรากับเพื่อนสนิทอยากลองไปประเทศที่เรารู้สึกว่าแปลกดี (ในความคิดเราสองคน) เอาแบบที่ชีวิตนี้คงไม่ได้ไปแล้วล่ะประเทศนี้ แต่เป็นชะนีรักสบายกันทั้งคู่ ไม่ชอบขึ้นเขา ไม่เอา Trekking ชอบเที่ยวในเมือง คุยกันเยอะมากว่าเอาประเทศไหนดีนะ ไล่ไปเรื่อย เถียงกันไปมาก็ได้ฤกษ์ เออเมิง ไปเนปาลกันดีกว่า 12-14 มีนาคม (2561) นะ ลาสามวันพอ วันลาไม่เหลือแล้ว 555

ตกลงเรียบร้อยเราก็เดินทางไปถึงสนามบินตรีภูวัน (เขียนไม่เป็นจ้าพี่) วันที่ 12 มีนา เครื่องดีเลย์นิดหน่อยเราบินวนกันอยู่บนฟ้าประมาณ 40 นาทีได้ ถึงแลนด์ในกาฐมัณฑุอย่างสวัสดิภาพ บาปแรกคือ ทิ้งให้คนขับรถที่มาจากโรงแรมรอสิ ก็เครื่องดีเลย์อะเนอะ แล้วคือโทรไปเรื่องมากกะโรงแรมเค้ามาด้วยนะก่อนหน้านี้ สุดท้ายพึ่งมารู้ว่า พี่เค้าคือเจ้าของโรงแรม 555

บาปที่สองคืออันนี้ขำไม่ออก พอคนบาปอย่างเราแตะลงพื้นเนปาลเท่านั้นแหละ เครื่องบินของสายการบิน Bangladesh Airline ก็เกิดอุบัติเหตุในวันนั้น และพี่ลูกเรือที่บังเอิญพวกเราแลก contact กับเค้ากันไว้ก็บอกว่าอุบัติเหตุนั้นเกิดขึ้นหลังจากผู้โดยสารลงไปหมดไม่นาน เฉียดท้ายเครื่องสายการบินที่เรานั่งมาไปนิดเดียวเท่านั้นเอง ฮือ กลัวมาก ซึ่งเรื่องนี้พวกเรารู้กันช่วงเย็นๆ ของวันนั้นเพราะพี่ๆ ที่ออฟฟิสรู้ข่าวแล้วเป็นห่วงมากไลน์มากันใหญ่เลยแต่พวกเราเที่ยวกันอยู่ไม่มีเนตก็คือไม่รู้เรื่อง

โรงแรมที่เราไปพักกันอยู่ในย่าน Thamel ชื่อว่า Kumari Boutique Hotel วันที่เราไปกันคือโรงแรมเค้าเพิ่งเปิดได้ 3 อาทิตย์ บริการดีมาก พนักงานทุกคนน่ารักแบบเกินเบอร์อะ ค่าโรงแรมตกคืนละ 1000 กว่าบาทรวมอาหารเช้าสำหรับสองคน จำราคาไม่แม่นแล้วนะเพราะผ่านมาปีกว่าแล้ว เราดองรีวิวไว้ แต่เป็นโลเคชันที่เริ่ดมากเพราะเดินไป Thamel ได้แต่หลบมุมออกมาหน่อยทำให้เราไม่ต้องฟังเสียงแตรโดนดึกๆ ก็คือนอนสบายเลย แล้วทางลัดไป Thamel คือจะเป็นตลาดแบบโลคอลสุดๆ เดินลัดไป ไอ เลิฟ

วันแรกพอเก็บของที่รร เรียบร้อยเราก็ออกเดินทางตามหาชุดประจำชาติกัน เพราะแพลนว่าจะใส่ไปวันเดย์ทริปวันพรุ่งนี้ ทับใจมากก คนที่นี่ใส่ชุดประจำชาติกันเกินครึ่ง เราก็อยากใส่บ้างทางเราเตรียมพรอพมาอย่างดีขาดแต่ชุด เลยตัดสินใจไปตลาดโลคอลกันเลย

นี่คือสภาพบ้านเมือง รถตู้คือแน่นมากแบบปิดประตูรถไม่ได้ กระเป๋ารถตู้ก็ยังวิ่งลงมาเรียกลูกค้าเพิ่ม เป็นงงดิ
สิ่งนี้คือร้านอาหาร
ร้านขายยา... และร้านไอติม ไม่กล้ากินนะเรากลัวจู๊ด
เดินกันอยู่ก็เกิดอยากเป็นชะนี เฮลตี้ ขึ้นมา เราก็ไปแวะซื้อผลไม้คุณลุง ซึ่งซื้อแอปเปิลกับองุ่น ถามราคาเรียบร้อย แอปเปิลแพงกว่าถ้าจำไม่ผิด ลุงก็ถามว่าเอากี่กิโล ก็บอกๆ ไป ตาชั่งเค้ายังเป็นแบบถ่วงหินข้างนึง ผลไม้ข้างนึง คือบับบบ ไอเลิฟมากแก แต่แล้วมาคิดได้ทีหลังว่า เออ ทำไมเค้าชั่งรวมกันวะแอปเปิลกะองุ่น ราคามันไม่เท่ากันอ่ะ แล้วกรูจะรู้ได้ไงว่าตุ้มที่วางคือ 1 กิโลจริงๆ เห้ย พึ่งรู้ตัวว่าพวกกุโง่และ 555 แต่ก็ได้ผลไม้เยอะมากกลับมาในราคา 80 บาท

คุณลุงและตาชั่งของเขา ที่กูเห็นนะลุงแอบเอามือกดด้านผลไม้อะ แต่ลุงพูดอังกฤษไม่ได้ ลุงไม่เข้าใจหนู
ลุงบอกเอาไปกินเลยจ้าหนู ไม่ถึงโลหรอกจ้ะ 555555

ในส่วนของตลาด Local ที่พวกชั้นชอบมาก มากมากมาก ไอเลิฟ การขายเครื่องเทศ 
รูปนี้คือจะถ่ายว่าเมืองเค้าพังๆ เยอะมากกำลังบูรณะ ไม่ได้เกี่ยวกับผู้ชายผมทองตัวสูงๆ หล่อๆ คนนั้นเลย
ในส่วนชองหน้าร้านตั่งต่าง
ผ่านวัดแขกในเมืองอีกแล้ว เค้าทำอะไรกันไม่แน่ใจแต่ว่าเราเป็นอิสลาม เราขอถ่ายหน่อยนะแกร

อันนี้คือร้านเบเกอรี เรากับเพื่อนจะเรียกร้านขนมทุกร้านว่า After You เนปาล อันนี้จะมีใครแจ้งจับมั้ย ต้องเซนเซอร์ปะวะ 5555
น้องคือเน่ามาก มองไกลๆ ก็รู้ว่าแล้วว่าน้องน่าจะเหม็น แต่หน้าตาน่ารักนะ
แล้วพวกเราก็เดินไป Durbar Square กัน มันเหมือนเป็นจัตุรัสเมืองแหละ เดาเอาไม่ได้มีความรู้อะไรเลย แต่ว่าทุกเมืองจะมี Durbar Square นะ (ทุกเมืองคือสองเมืองที่ไปมา เอาจริงๆ ปะ 55555 คือกาฐมัณฑุ กับ บักตาปูร) อันนี้ต้องเสียค่าเข้า น่าจะ 300 บาทอยู่ได้ทั้งวัน คือเอาจริงๆ จะเดินเนียนเข้าเลยก็ได้เพราะคนเนปาลเข้าฟรี ซึ่งทุกคนที่นั่นคิดว่าพวกชั้นคือคนท้องถิ่น โดยเฉพาะวันที่ใส่ชุดประจำชาติ 55555555

สิ่งนี้คือวงเวียนที่ต้องจำเพราะเดี๋ยวหลงทางกลับบ้านไม่ถูก
เข้าเขต Durbar Square มาแล้ว ก็จะมีขายของ มีคาเฟ่ ไม่มีอะไรเท่าไหร่หรอก 555
ไฮไลท์คือตรงนี้ ประตูนี้ เป็นทางเข้าไปดูกุมารี ซึ่งเพื่อนเราทำรีเสิชมาดีมากและอธิบายให้ฟังว่า คนที่จะได้เห็นกุมารีก็คือจะต้องมีบุญมากๆ (แต่เราไปอ่านรีวิวมาถ้าอยากเห็นให้ไปประมาณสี่โมงเย็น กุมารีจะออกมา ซึ่งพวกชั้นคือคนบาปแหละไปสี่โมงแหละ แต่ไม่เจอนะ) กุมารีคือเด็กบริสุทธิ์ที่เค้าจะมีการเลือกว่าจะเอาเด็กคนไหนมาเป็นกุมารี เด็กหญิงเท่านั้นนะ เด็กคนนั้นจะถูกเลี้ยงดูโดยรายล้อมด้วยผู้หญิงเท่านั้น เหมือนถูกขังอยู่ในบ้านเลย แต่เค้าจะถูกทรีทเหมือนเป็นนางฟ้า เป้นเจ้าหญิงอะไรแบบนี้ อยู่สบายมาก มีคนรับใช้ แต่พอประจำเดือนมา เด็กคนนั้นจะไม่ได้เป็นกุมารีอีกต่อไป สิ้นสุดวาระ ที่เราอ่านเค้าบอกว่ามันก็เป็นปัญหาของเด็กนะเพราะด้วยความที่อยู่แต่ในบ้าน (เรียกอะไรไม่รู้) และไม่ได้ใช้ชีวิตแบบปรกติ พอไม่ได้เป็นกุมารีแล้วก็จะแอบงงๆ แหละว่าต้องใช้ชีวิตยังไง และการปรากฎตัวของกุมารีไม่ใช่เค้าเดินออกมาทั้งตัวนะ เค้าจะเดินผ่านตามชานบ้าน แล้วหยุดมองแปปนึง ให้คนเห็นจากมุมมืดๆ อ่อ ห้ามถ่ายรูปนะจ๊ะทุกคน

อันนี้คือเหมือนโดนไฟไหม้อะ บ้านเมืองเค้ามีซากอะไรแบบนี้เยอะมาก
แต่ที่ดีใจกว่าคือเจอชุดประจำชาติถูกมากๆ ระหว่างเดินกลับรร ซึ่งตอนแรกตัดใจแล้วเพราะมันหายากมาก เค้าบอกชุดละ 500 มั้ง ต่อกันจนเหลือ 300 ซื้อมา 3 ชุด คือดีใจเว่อๆ แบบ หึพวกแขก ไม่ได้แด่กกูหรอก ต่อกระจาย

พอกลับมารร ภรรยากับเจ้าของรร ก็ทักทายน่ารักมากกว่าเราไปไหนกันมา ดูถุงชอปปิง แล้วเค้าก็ถามว่าซื้อชุดมาหรอ เราก็โม้กันใหญ่เลยว่าจะใส่ไปวันเดย์ทริปพรุ่งนี้แหละยู ตื่นเต้นได้มา 300 บาทเองนะ ดีใจมาก สรุป พี่เค้าทำหน้าแปลกๆ ละเค้าบอกว่า ชั้นไม่คิดว่าพวกยูจะได้ใส่ชุดกันพรุ่งนี้นะ นี่ก็งงไง ก็ยืนยันว่ายูมัน ready to wear พวกชั้นถามแล้ว สุดท้ายเค้าเลยขอแกะดู เค้าบอกว่าปรกติชุดมันจะยังไม่ทำนะ แล้วราคานี้ด้วย อ่ะ แกะ ๆๆ

แถ่น แท้น โง่รอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ 

สรุปชุดยังไม่ได้ทำจริงๆ จ้าแม่ อีเว๊น โกรธมาก คือกางออกมาเป็นผ้าดิบเลยอ่ะ กางออกมาเป็นผ้าผืนใหญ่ๆ เลย กระดุมคือแปะอยู่บนผ้าฮือ จะร้อง 

สรุปก็คือเดือดร้อนภรรยาเจ้าของโรงแรมอะเค้าต้องพาไปตัดชุดเช้าวันรุ่งขึ้น และพยายามหาร้านที่ตัดเสร็จพายในวันเดียว เพราะพวกเราจะกลับอีกสองวัน แผนล่มเลยอ่ะกะว่าจะใส่ไปวันเดย์ทริป ฮือ แต่ว่าเจ้าของรร กับภรรยาน่ารักมากกก พาไปตลาดไปตัดชุด แล้วโทรเลื่อนรถที่จะมารับให้เพราะว่าแพลนเปลี่ยนเราออกกันแต่เช้าไม่ได้เพราะต้องไปร้านตัดเสื้อก่อน แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดีหาร้านได้เรียบร้อย

วันที่สองของพวกเราจะเป็นการไปวันเดย์ทริปที่เมือง Bhaktapur ไปตามรอยโลเคชันถ่ายหนังเรื่องธาราหิมาลัย พอครึ่งวันหลังค่อยกลับมาเก็บที่สำคัญๆ ในกาฐมัณฑุ ซึ่งเจ้าของรร สอนมาว่ามันจะมีที่นึงไม่ต้องไป ไม่มีอะไร สถานที่วันที่สองนี้คือทุกที่เสียค่าเข้าหมดนะจ๊ะ เราไป Durbar Square in Bhaktapur แล้วกลับมา Pashupathi (อันนี้แหละไม่ต้องไป!!!! ไม่มีอะไรเลยจ้า), Bhuddha Eyes(highlight) แล้วก็ Swayambhu 
ชื่อสินค้า:   เนปาล
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่