●●สวมวิญญาณนักการเมือง...'ธนาธร'เปลี่ยนใจ!เอาด้วยกับกฎ IUU
หลังด่าคสช.แก้ปัญหาประมงไม่เอาอ่าวมานาน●●
14 มิถุนายน พ.ศ. 2562 เวลา 09:11 น.
เพจพรรคอนาคตใหม่ - Future Forward Party รายงานว่าเมื่อวานนี้ ณ บ้านบางเทา อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร่วมกับ ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ แบบบัญชีรายชื่อที่มีภูมิลำเนา
อยู่ในภาคใต้ ได้แก่ เจนวิทย์ ไกรสินธุ์, รังสิมันต์ โรม, ปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ และประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร
รับฟังปัญหาประมงจากตัวแทนเครือข่ายประมงพื้นบ้าน จ.ภูเก็ต, จ.กระบี่ และ จ.พังงา
ซึ่งตัวแทนชาวประมงในฝั่งอันดามันได้กล่าวถึงปัญหาที่พบเจอคือ ตั้งแต่ พ.ศ. 2504 เมื่อรัฐมีแผนพัฒนา
เศรษฐกิจฉบับที่ 1 ทำให้เกิดการสนับสนุนการจับปลาเพื่อแปรรูปและเน้นส่งออก เกิดการใช้เรืออวนลาก
มากขึ้นทำให้ปลาและทรัพยากรในทะเลลดลงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ปัญหาในเรื่องการจำกัดพื้นที่การออก
หาปลาของประมงพื้นบ้านที่ 3 ไมล์ทะเล ซึ่งทำให้เกิดการกระจุกตัวของชาวประมงขนาดเล็ก
ตัวแทนประมงพื้นบ้าน ยังกล่าวอีกว่า กฎ IUU ในมาตรา 57 ไม่มีผลกระทบกับประมงขนาดเล็กและเห็นด้วย
ในเรื่องของการกำหนดขนาดตาอวนให้ได้มาตราฐานเท่ากับยุโรปที่มีขนาด 4 นิ้ว จะช่วยทำให้รักษาทรัพยากร
และปลาขนาดเล็กไว้ได้ แต่ขนาดนี้ยังไม่สามารถใช้ได้จริง และปัญหาในการลงทะเบียนเรือกับกรมเจ้าท่าที่
ยังมีเรื่องความซับซ้อนอยู่ อย่างไรก็ตาม สำหรับการมารับฟังปัญหาของธนาธรและทีม ส.ส.พรรคอนาคตใหม่
ในครั้งนี้ พวกตนรู้สึกยินดีที่ได้ลงมาฟังปัญหาของชาวประมงขนาดเล็ก ซึ่งก็จจะได้ฝากเรื่องเข้าไปนำเสนอ
ในที่ประชุมสภา เพราะกลุ่มของตนเป็นกลุ่มที่ต้องการให้เกิดความยั่งยืนต่อการใช้ทรัพยากร
ด้านธนาธรกล่าวว่าแนวทางการแก้ปัญหาของพรรคอนาคตใหม่ พรรคยึดถือแนวทางของ IUU เรื่องของ
การรักษาความสมบูรณ์ของทรัพยากร การเก็บข้อมูลการจับปลาตามโควต้า PIPO เพื่อไม่ให้เกิดการจับปลา
ที่เรียกว่า over fishing และมองว่าปัญหาหรือข้อกังวลที่เหมือนกันของประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์
ที่ตนพบคือ การไร้ประสิทธิภาพของภาครัฐและการใช้อำนาจหน้าที่เรียกผลประโยชน์ การมีโทษปรับที่
สูงเกินไป หน่วยงานของราชการยังมีสัดส่วนมากกว่าภาคประชาชนในคณะกรรมการประมง
ซึ่งทางตนเห็นว่ากฎหมายที่นำมาใช้ไม่ได้เปิดโอกาสและให้เวลาให้ชาวประมงได้ปรับตัว ดังนั้นทางพรรค
จะผลักดันและแก้ไขกฎหมายต่างๆให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตมากขึ้น และจัดเวทีให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียระหว่าง
ประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์เข้ามาร่วมพูดคุยในระดับพื้นที่เพื่อให้เกิดความเหมาะสมในการแก้ปัญหา
ก่อนนี้นายธนาธร วิพากษ์วิจารณ์การแก้ไขปัญหาการทำประมงของรัฐบาลคสช. ว่าไปรับเงื่อนไขของ IUU
จนส่งผลเสียต่อทำให้ชาวประมงสูญเสียรายได้และเสียโอกาสในการประกอบอาชีพ ในระหว่างการลงพื้นที่
รับฟังปัญหาชาวประมง ที่ จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา.
Cr.
https://www.thaipost.net/main/detail/38529
●●สวมวิญญาณนักการเมือง...'ธนาธร'เปลี่ยนใจ!เอาด้วยกับกฎ IUU ...หลังด่าคสช.แก้ปัญหาประมงไม่เอาอ่าวมานาน●●
หลังด่าคสช.แก้ปัญหาประมงไม่เอาอ่าวมานาน●●
14 มิถุนายน พ.ศ. 2562 เวลา 09:11 น.
เพจพรรคอนาคตใหม่ - Future Forward Party รายงานว่าเมื่อวานนี้ ณ บ้านบางเทา อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร่วมกับ ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ แบบบัญชีรายชื่อที่มีภูมิลำเนา
อยู่ในภาคใต้ ได้แก่ เจนวิทย์ ไกรสินธุ์, รังสิมันต์ โรม, ปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ และประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร
รับฟังปัญหาประมงจากตัวแทนเครือข่ายประมงพื้นบ้าน จ.ภูเก็ต, จ.กระบี่ และ จ.พังงา
ซึ่งตัวแทนชาวประมงในฝั่งอันดามันได้กล่าวถึงปัญหาที่พบเจอคือ ตั้งแต่ พ.ศ. 2504 เมื่อรัฐมีแผนพัฒนา
เศรษฐกิจฉบับที่ 1 ทำให้เกิดการสนับสนุนการจับปลาเพื่อแปรรูปและเน้นส่งออก เกิดการใช้เรืออวนลาก
มากขึ้นทำให้ปลาและทรัพยากรในทะเลลดลงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ปัญหาในเรื่องการจำกัดพื้นที่การออก
หาปลาของประมงพื้นบ้านที่ 3 ไมล์ทะเล ซึ่งทำให้เกิดการกระจุกตัวของชาวประมงขนาดเล็ก
ตัวแทนประมงพื้นบ้าน ยังกล่าวอีกว่า กฎ IUU ในมาตรา 57 ไม่มีผลกระทบกับประมงขนาดเล็กและเห็นด้วย
ในเรื่องของการกำหนดขนาดตาอวนให้ได้มาตราฐานเท่ากับยุโรปที่มีขนาด 4 นิ้ว จะช่วยทำให้รักษาทรัพยากร
และปลาขนาดเล็กไว้ได้ แต่ขนาดนี้ยังไม่สามารถใช้ได้จริง และปัญหาในการลงทะเบียนเรือกับกรมเจ้าท่าที่
ยังมีเรื่องความซับซ้อนอยู่ อย่างไรก็ตาม สำหรับการมารับฟังปัญหาของธนาธรและทีม ส.ส.พรรคอนาคตใหม่
ในครั้งนี้ พวกตนรู้สึกยินดีที่ได้ลงมาฟังปัญหาของชาวประมงขนาดเล็ก ซึ่งก็จจะได้ฝากเรื่องเข้าไปนำเสนอ
ในที่ประชุมสภา เพราะกลุ่มของตนเป็นกลุ่มที่ต้องการให้เกิดความยั่งยืนต่อการใช้ทรัพยากร
ด้านธนาธรกล่าวว่าแนวทางการแก้ปัญหาของพรรคอนาคตใหม่ พรรคยึดถือแนวทางของ IUU เรื่องของ
การรักษาความสมบูรณ์ของทรัพยากร การเก็บข้อมูลการจับปลาตามโควต้า PIPO เพื่อไม่ให้เกิดการจับปลา
ที่เรียกว่า over fishing และมองว่าปัญหาหรือข้อกังวลที่เหมือนกันของประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์
ที่ตนพบคือ การไร้ประสิทธิภาพของภาครัฐและการใช้อำนาจหน้าที่เรียกผลประโยชน์ การมีโทษปรับที่
สูงเกินไป หน่วยงานของราชการยังมีสัดส่วนมากกว่าภาคประชาชนในคณะกรรมการประมง
ซึ่งทางตนเห็นว่ากฎหมายที่นำมาใช้ไม่ได้เปิดโอกาสและให้เวลาให้ชาวประมงได้ปรับตัว ดังนั้นทางพรรค
จะผลักดันและแก้ไขกฎหมายต่างๆให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตมากขึ้น และจัดเวทีให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียระหว่าง
ประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์เข้ามาร่วมพูดคุยในระดับพื้นที่เพื่อให้เกิดความเหมาะสมในการแก้ปัญหา
ก่อนนี้นายธนาธร วิพากษ์วิจารณ์การแก้ไขปัญหาการทำประมงของรัฐบาลคสช. ว่าไปรับเงื่อนไขของ IUU
จนส่งผลเสียต่อทำให้ชาวประมงสูญเสียรายได้และเสียโอกาสในการประกอบอาชีพ ในระหว่างการลงพื้นที่
รับฟังปัญหาชาวประมง ที่ จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา.
Cr. https://www.thaipost.net/main/detail/38529