ขอความเห็นใจค่ะ ถ้าการที่เราทำตัวเป็น "พลเมืองดี" ทำให้กลายเป็น "ผู้ต้องสงสัย"

เมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ (11 มิถุนายน 2562) รุ่นน้องของเราได้ขับรถยนต์กลับมาจากส่งเพื่อนที่สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อกลับบ้านที่ชลบุรี ซึ่งขับมาคนเดียว ระหว่างทางลงมอเตอร์เวย์ ก็ได้เห็นคนนอนอยู่กลางถนนจากไฟหน้ารถ ทำให้ต้องหักหลบกระทันหัน แล้วทางลงมันเป็นถนนเลนเดียว จะหักเยอะก็ไม่ได้ แล้วตอนนั้นก็เป็นเวลากลางคืน น้องตกใจมาก ไม่รู้ว่าเค้าเป็นใคร ทำไมมานอนอยู่ตรงนี้ หรือถูกรถชน แต่ก็ไม่มีรถ ไม่มีคู่กรณีอยู่ตรงนั้น คือไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเลย น้องก็หักหลบแล้วขับต่อมาจอดที่ถนนด้านล่าง คือน้องก็ไม่รู้ว่าคนนั้นเขาตายหรือยังไม่ตาย หรือเป็นอะไรยังไง น้องก็เลยรีบโทร 191 แล้วก็ลงมาโบกเรียกรถที่คิดว่าลงมาจากทางนั้นเหมือนกัน แต่ก็ไม่มีใครจอด

ซักพักก็มีตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ มีกู้ภัย มีนักข่าว ตำรวจก็ไปดูคนที่นอนอยู่บนถนนก่อน น้องก็มีอาการวิตกกังวล ตกใจ เสียขวัญ ตอนนั้นญาติก็ยังไม่มา แล้วตำรวจกับนักข่าวก็มารุมถ่ายรูปและซักถามว่าเป็นคนชนใช่มั้ย เพราะคนที่นอนบนถนนนั้นเสียชีวิตแล้วจากการถูกรถชน น้องก็ยิ่งคุมสติไม่อยู่ขึ้นไปอีก ตอบคำถามวนไปวนมา จนต้องได้ไปโรงพัก และตำรวจจะแจ้งข้อกล่าวหา ทั้งที่ยังไม่มีพยานหลักฐาน มีแค่ข้อสันนิษฐาน (ปล. น้องไม่ได้ติดกล้องหน้ารถค่ะ หลังจากได้รถคืนคงต้องเอาไปติดทันที)

และที่สำคัญคือ รถน้องไม่ได้มีร่องรอยการชนเลยแม้แต่นิดเดียว และไม่นาน คนที่ขับรถชนก็ไปที่สถานีตำรวจเพื่อรับสารภาพแล้วด้วย แต่ตำรวจกลับบอกน้องว่าต้องอายัดรถไว้พิสูจน์หลักฐาน และจะสอบปากคำน้องในฐานะพยาน แต่ไม่รับประกันว่าไม่มีส่วนผิด

มากไปกว่านั้น ตอนที่มีคนมารับสารภาพไม่มีนักข่าวมา แต่สำนักข่าวนำรูปของน้อง รูปรถ เลขทะเบียน ชื่อและนามสกุลไปทำข่าว พร้อมทั้งบอกว่าเป็นผู้ต้องสงสัย

ตอนนี้น้องอยู่ในอาการใจเสีย เครียด และหวาดกลัวมากๆ กลัวว่าจะโดนกล่าวหาว่าชนคนตาย กลัวจะติดคุก กลัวไปหมดทุกอย่าง ทั้งๆที่เป็นคนโทรเรียกตำรวจให้มา แต่กลับถูกตราหน้าว่าเป็นคนขับรถชนเสียเอง การที่เราตกใจ เสียขวัญ ร้องไห้ ทำให้ถูกสันนิษฐานว่าเป็นคนร้ายได้เลยเหรอคะ เพราะแบบนี้ใช่มั้ยคะ เวลาเจอใครเป็นอะไรถึงได้ไม่มีใครอยากยุ่ง ไม่มีใครอยากช่วย เพราะถ้าช่วยแล้วจะเป็นแบบนี้ใช่มั้ยคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่