จากกรณี นายภัทรศักดิ์ หรือ เก่ง อายุ 35 ปี อดีตดีเจคลื่นวิทยุ 89.5 ขับรถกระบะโตโยต้าไฮลักซ์ สีดำ ถอยหลังชนกับรถเก๋งโตโยต้ายาริส ของคู่กรณี ที่บริเวณทางเข้าสนามไทยญี่ปุ่น-ดินแดง เมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด (7 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณา 31 ศาลแขวงพระนครเหนือ ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดพร้อมคู่ความ คดีหมายเลขคดีดำ ที่อ.1116/2558 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีศาลแขวง(พระนครเหนือ) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายภัทรศักดิ์ ในความผิดฐานขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ทำร้ายร่างกายให้เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายทางร่างกายและจิตใจ และทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจ
โดยเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา จำเลยให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ศาลจึงนัดพร้อมในวันนี้เพื่อตรวจพยานหลักฐาน แต่ก่อนที่ศาลจะเริ่มขบวนการ จำเลยหรือดีเจเก่ง ได้แถลงต่อศาลขอกลับคำให้การรับสารภาพ ตามฟ้องโจทก์ โดยศาลสอบถามอัยการแล้วไม่คัดค้าน
ศาลพิจารณาพยานหลักฐานประกอบคำรับสารภาพจำเลยแล้วเห็นว่า การกระทำความผิดตามฟ้อง จึงพิพากษาจำคุก เป็นเวลา 7 เดือน แต่จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุให้บรรเทาโทษ เห็นควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน 15 วัน และเมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีศาลเห็นว่าพฤติการณ์ร้ายแรง ก่อเหตุบนถนนสาธารณะในเวลากลางวัน จึงไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ โดยศาลให้เพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ และยึดรถกระบะคันดังกล่าว
ทั้งนี้ ภายหลังศาลมีคำพิพากษา นายภัทรศักดิ์ ได้ยื่นหลักทรัพย์ เป็นเงินสด 15,000 บาท เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี ศาลพิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์จำเลย อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลย โดยตีราคาประกัน 15,000 บาท
ดีเจเก่ง รับสารภาพ คุก 3 เดือน 15 วัน ไม่รอลงอาญา
ล่าสุด (7 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณา 31 ศาลแขวงพระนครเหนือ ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดพร้อมคู่ความ คดีหมายเลขคดีดำ ที่อ.1116/2558 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีศาลแขวง(พระนครเหนือ) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายภัทรศักดิ์ ในความผิดฐานขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ทำร้ายร่างกายให้เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายทางร่างกายและจิตใจ และทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจ
โดยเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา จำเลยให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ศาลจึงนัดพร้อมในวันนี้เพื่อตรวจพยานหลักฐาน แต่ก่อนที่ศาลจะเริ่มขบวนการ จำเลยหรือดีเจเก่ง ได้แถลงต่อศาลขอกลับคำให้การรับสารภาพ ตามฟ้องโจทก์ โดยศาลสอบถามอัยการแล้วไม่คัดค้าน
ศาลพิจารณาพยานหลักฐานประกอบคำรับสารภาพจำเลยแล้วเห็นว่า การกระทำความผิดตามฟ้อง จึงพิพากษาจำคุก เป็นเวลา 7 เดือน แต่จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุให้บรรเทาโทษ เห็นควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน 15 วัน และเมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีศาลเห็นว่าพฤติการณ์ร้ายแรง ก่อเหตุบนถนนสาธารณะในเวลากลางวัน จึงไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ โดยศาลให้เพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ และยึดรถกระบะคันดังกล่าว
ทั้งนี้ ภายหลังศาลมีคำพิพากษา นายภัทรศักดิ์ ได้ยื่นหลักทรัพย์ เป็นเงินสด 15,000 บาท เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี ศาลพิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์จำเลย อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลย โดยตีราคาประกัน 15,000 บาท