ตัวผมเป็นคนที่ชอบหนังตระกูล X-Men มากครับ เพราะสิ่งที่ทำให้หนัง X-Men ต่างจากหนังฮีโร่เรื่องอื่นๆก็คือ การเนื้อเรื่องที่เจ้มจ้นมาก มันไม่ใช่แค่มีตัวร้ายปรากฏตัวขึ้น ตัวร้ายอยากครองโลก พวกพระเอกเลยรวมทีมไปปราบ ดังนั้นผมเลยไม่ชอบภาค Apocalypse มากๆ แต่ว่า Apocalypse ก็ยังมีฉากแอคชั่นดีๆในตอนท้ายที่มาประครองหนังไว้ หนังก็เลยสอบผ่านในความคิดของผม

พอมาถึงภาค  Dark Phoenix ก่อนจะไปดูผมก็ได้ไปอ่านรีวิวก่อน เสียงวิจารณ์นี่ไปในทางเดียวกันเลยว่ามันแย่มาก บางความเห็นบอก แย่กว่า  Apocalypse อีก ผมก็เอาแล้ว มันแย่กว่าอีกเหรอ แต่ด้วยความที่ผมเป็นคนรักหนังซุปเปอร์ฮีโร่ ผมไปดูหนังในโรงทุกเรื่อง มันก็เหมือนไฟท์บังคับที่ผมต้องไปดูเรื่องนี้ แต่พอได้ดูจริงๆ Dark Pheonix มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะ

อาจจะเป็นเพราะส่วนตัวผมชอบหนังแนวที่ตัวเอก Broken ครับ ประมาณว่าตัวเอกที่มองโลกเป็นสีขาวมาตลอด วันนึงเจอเรื่องที่สะเทือนใจมากๆ มุมมองจากสีขาวก็เลยเปลี่ยนเป็นสีดำ หนังมันน่าติดตามดีว่าสุดท้ายแล้วตัวเอกจะถลำเข้าไปสู่ด้านมืด หรือจะมีอะไรมาฉุดรั้งในเขากลับมาเป็นคนเดิม ผมเลยค่อนข้างชอบเส้นเรื่องของ จีน เกรย์ ผมรู้สึกสนุกทุกครั้งที่หนังหันมาเล่าเรื่องเธอครับ แถม โซเฟีย เทอร์เนอร์ ก็สวยมากๆ เล่นก็ดี๊ดี โดยเฉพาะตอนที่สู้กับชาร์ล แล้วชาร์ลขอให้จีนเข้าไปอ่านใจตัวเขา จนจีนกลับมาเป็นจีนได้เหมือนเดิม ฉากนี้ผมประทับใจมาก เล่นดีกันทั้งคู่เลย  แต่ที่ผมชอบที่สุดคือตอนที่จีนทำหน้าร้ายๆครับ ผมนี่รักมาก อย่างชอบนี้นี่ผมชอบสุดๆเลย

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใส่ข้อความ

แต่ว่าผมก็เข้าใจคนที่ไม่ชอบนะ เพราะหนังมันก็มีฉากที่แบบ เอ็งจะทำไปทำไว่ะ เยอะมาก อย่างฉาก ดึงรถไฟใต้ดินขึ้นมา ตอนที่ดูผมนี่แบบ โห ..... แม่ม โคตรเท่ แต่สุดท้าย พี่ดึงขึ้นมาเพื่อปิดประตูเนี่ยนะ เพื่อ !! หรือ ฉากดึงเฮลิคอปเตอร์ คือ ผมเข้าใจนะว่าอยากจะใส่ฉาก จีน กับ อีริค ประลองกำลังกัน แต่มันตลกอ่ะ หรือ ฉากจบที่แบบ จบแค่ตอน ชาร์ลกับอีริค เล่นหมากรุกกันมันก็ดีอยู่แล้ว แต่นี่มีฟีนิกซ์บินผ่านอีก เพื่อ !!

แล้วตัวผู้กำกับก็เป็นคนเขียนบทเอง ตัวเองก็น่าจะรู้ดิว่าฉากไหนมันเป็นฉากใหญ่ ฉากไหนควรจะให้ความสำคัญ อย่างฉากงานศพเรเว่น มันควรจะเป็นฉากใหญ่ เพื่อดึงอารมณ์คนดู มันควรจะมีมิวแทนท์มางานศพเยอะๆ มันควรจะเป็นฉากเปิดตัวอีริค แต่กลายเป็นงานศพที่ยืนกันอยู่หร่อมแหร่ม ไม่สำคัญขนาดอีริคยังไม่รู้เลยว่าเรเว่นตาย

หรือฉากเปลี่ยนป้ายชื่อโรงเรียน มันควรจะเป็นฉากพิธีการใหญ่อย่างเป็นทางการเพื่อปิดท้ายเรื่อง มีชาร์ลมากล่าวสุนทรพจน์เพื่อระลึกถึงจีน พร้อมกับประกาศเกษียณตำแหน่ง แต่ในหนังกลับมีแค่สก๊อต เดินมึนๆมาเปลี่ยนป้ายชื่อแล้วก็ไป

และสิ่งที่ผมไม่ชอบมากๆก็คือ กล้องจะซูมไปไหน อย่างฉากตายของเรเว่น ครึ่งนึงของจอเป็นหน้าแฮงค์ อีกครึ่งเป็นหลังหูของเรเว่น คือแบบ พี่ก็ซูมไป มันไม่ได้ช่วยให้อินกันการแสดงของนักแสดงเลย มันอึดอัดซะมากกว่า แล้วไอ้การซูมๆแบบนี้ ผมนึกว่าพอถึงฉากต่อสู้จะดีขึ้น ที่ไหนได้ ซูมเหมือนเดิม คือ ฉากสู้กันในนิวยอร์กนี่มันแย่มาก เพราะไอ้การซูมภาพเข้าไป มุมกล้องก็เลยดูไม่สวย ฉากสู้มันก็เลยดูอึดอัดน่าเบื่อไปเลย

แต่ฉากสู้กันบนรถไฟนี่มันดูดีผิดหูผิดตามาก คือ เขาเลิกซูมภาพ เน้นถ่ายวงกว้างมากขึ้น ให้ดูว่าใครทำอะไรที่ไหน ฉากสู้เลยออกมาดูดี ไอ้ที่เขาแซวๆกันว่า ฉากรถไฟคือถ่ายใหม่หมด แล้วมีคนอื่นมากำกับ อาจจะจริงก็ได้นะ

บทมนุษย์ต่างดาวเองก็น่าผิดหวัง นี่ถ้าผมเป็นคนเขียนบทนะ ผมจะตัดฉากจีนไปหาอีริคออก ให้จีนไปเจอมนุษย์ต่างดาวแทน แล้วเอาเวลาไปเล่นเรื่องมนุษย์ต่างดาวมากกว่า อาจจะเพิ่มบทว่า ดาวของพวกมนุษย์ต่างดาวกำลังจะตาย ก็เลยต้องการพลังฟีนิกซ์ฟอร์ซไปฟื้นฟูดาว มนุษย์ต่างดาวก็เลยชวนจีนไปด้วยกัน แต่พวกอีริคมาซะก่อน หลังจากสู้กัน จีนที่เสียใจมากจึงตัดสินใจมอบพลังฟินิกซ์ให้แม้ว่าจะต้องตาย ทำให้พวก X-men มาขัดขวาง การต่อสู้ครั้งสุดท้ายมันจะได้มีเหตุผลด้วยกันทั้งคู่ ระหว่าง มนุษย์ต่างดาวที่ต้องการพลังฟีนิกซ์ไปฟื้นฟูดาวบ้านเกิด X-men ที่พยามปกป้องชีวิตจีน รวมไปถึง จีนที่ตัดสินใจใช้พลังฟีนิกซ์ปกป้องครอบครัวในตอนท้าย

สรุป - ผมตั้งกระทู้มาเพื่อจะพยามบอกว่า หนังมันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะ แต่พิมพ์ไปพิมพ์มา เอ้า ร่วมด่ากับเขาด้วยเฉยเลย งั้นผมขอสรุปว่า ถ้าเทียบกับภาค  Apocalypse ภาค Dark Phoenix ยังมีเส้นเรื่องที่สนุกกว่า แต่พอเทียบเรื่ององค์ประกอบอื่นๆมันแย่กว่าจริงๆ แต่ทั้งหมดมันก็แค่ความคิดเห็นของผมเท่านั้น มันจะไม่ตรงกับใจคุณก็ได้ ทางเดียวที่จะพิสูจน์ก็คือต้องลองเข้าไปดูในโรงแล้วตัดสินเองครับ