::: เที่ยวเกาะสีชังชลบุรี กับสิบชายแบบแผนล่ม :::
[ มีพันกว่าบาทมั้ยเที่ยวไหนได้บ้าง ]
สวัสดีครับ วันนี้มาเป็นกระทู้นำเที่ยวนะไม่มีคลิป
วันนี้ผมจะพาทุกคนไปเที่ยวเกาะสีชัง ชลบุรี
เป็นเกาะที่ผมได้ยินชื่อบ่อยมาก แต่ไม่มีโอกาส
ได้เยี่ยมชม ผมไปเที่ยวเป็นเวลา 2 วัน 1 คืน
ออกเดินทางวันที่ 6 มิ.ย กลับ 7 มิ.ย. 2562
ซึ่งผมไปกับกลุ่มเพื่อนอีก 9 คน รวมผมก็ 10 คน เที่ยวแบบผู้ชายๆ แบบลุยๆ แบบแผนมั่วๆ
มีแผนการเดินทาง แต่ก็ไม่ค่อยเป็นไปตามแผน
ซึ่งก็ใช้งบประมาณไปไม่เท่าไหร่หรอกครับ
พันนิดๆเอง เดี๋ยวผมจะลงสรุปงบไว้หน้าสุดท้ายนะครับ เรามาเริ่มการเดินทางกันเลยดีกว่า
::: เริ่มต้นการเดินทาง :::
ก็สำหรับการเดินทางนะครับ เดินทางได้ 2 วิธี จริงๆอาจจะมีอีกหลายวิธี แต่ผมแนะนำแค่ 2 นะ5555 ก็คือ
วิธีที่ 1 รถไฟปู้นๆๆๆ
เพื่อนๆสามารถนั่งรถไฟจากสถานีกรุงเทพ(หัวลำโพง)ลงที่สถานีชุมทางศรีราชา ในราคาเพียง 28 บาทเท่านั้น!!!! แต่ว่า!!!รถไฟขบวนนี้มีแค่วันละ 1 รอบเท่านั้นคือรอบ 06.55 น. ซึ่งจะถึงสถานีเวลา 10.00 น.โดยประมาณ ซึ่งผมไม่ได้ไปรถไฟครับ เพราะสายเลยไม่ทันรอบ แต่ถ้าใครนั่งรถไฟพอไปถึงสถานีแล้ว ก็หารถตุ๊กๆหน้าสถานีแล้วต่อมาที่ท่าเรือเกาะลอย ราคาน่าจะประมาณ 150 ครับ(แนะนำให้ไปหลายๆคน)
วิธีที่ 2 รถตู้หรือรถบัส
เพื่อนๆสามารถขึ้นรถได้ที่หมอชิต2 เป็นโซนรถขนาดเล็กพวกรถตู้ รถบัสเล็ก พอเข้าไปถึงที่ซื้อตั๋วก็จะมีคนเรียกเยอะมากๆแบบเรียกลูกค้าสุดฤทธิ์หน้าที่เราคือมองหาป้ายศรีราชาครับ ผมซื้อตั๋วในราคา 120 บาท จอดที่หน้าโรบินสันศรีราชา แล้วต่อรถตุ๊กๆในราคา 100 บาท(ผมนั่งกันคันละ 5 คนก็ตกคนละ 20บาท) จอดที่ท่าเรือเกาะลอยเหมือนกัน
แผนเราคือนั่งรถไฟครับเพื่อความประหยัด และคุ้มค่าแต่ว่าก็ผิดแผนทำให้เลทรถไฟสุดท้ายก็เลยได้ไปรถบัสเล็ก555
::: ท่าเรือเกาะรอย :::
พวกผมเดินทางมาถึงโรบินสันศรีราชาประมาณเกือบ 11 โมงแล้วก็รอห้องเปิดเข้าไปทำธุระต่างๆบลาๆๆ เสร็จแล้วก็ต่อรถตุ๊กๆ เค้าคิดคนละ 20 คันละ 5 คนรวมกันก็ 100
ถึงท่าเรือก็ประมาณ 11 โมงนิดๆครับ ได้เรือรอบ 12.00น. ราคาเพียง 50 บาท ต้องรอจนกว่าเรือจะออก แต่เรือข้ามเกาะออกทุกชั่วโมงนะครับ ตอนนี้ก็ชิวๆถ่ายรูปนั่งรอ พอถึงเวลาก็ขึ้นเรือครับ
::: ตารางการออกเรือ :::
::: ขึ้นเรือข้ามเกาะ :::
ตื่นเต้นครับผมจะได้ขึ้นเรือข้ามเกาะครั้งแรกในชีวิต
เพื่อนๆผมน่าจะเคยขึ้นหมดละมั้ง มีแต่ผมที่ยังไม่เคย
เปิดประสบการณ์ ขึ้นไปปั๊บรอสักแป็ป เรือสตาร์ทพร้อมออก
แล้วเราก็ออกผจญภัยสู่น่านน้ำ อันไกลโพ้น พอเรือเดินปั๊ป
สิ่งแรกที่รู้สึกเลยคือ มึนหัวนิดหน่อยโอเค เมาเรือ5555
แต่ไม่ได้เมามากครับ ก็ยังคงสนุกกับการเห็นทะเล
มีเรือ มีน้ำสีฟ้า มีนกนางนวลมั้ง บินผ่าน เดินทางอยู่ไม่นาน
ประมาณ 40 นาทีเราก็เดินทางมาถึงท่าเรือเกาะสีชังครับ
::: บริเวณท่าเรือ :::
::: เข้าที่พัก :::
พอไปถึงนะครับก็จะมีพวกรถแบบนี้ มาจอดเรียงรอนักท่องเที่ยว
แต่พอดีพวกเราจองที่พักเอาไว้ เลยมีรถของทางที่พักมารับ
ก็รถก็มีการขายโปรนิดหน่อย เหมา 500 เที่ยวรอบเกาะ
ไปกลับที่พัก 300 แน่นอนครับไม่เอา!!! 55555
พอไปถึงที่พักก็เช็คอินประมาณบ่ายโมงนิดๆ เข้าที่พัก
ค่าราคาก็บังกะโล 3 หลัง หลังละประมาณ 1,890 บาท
ก็ประมาณ 5,670 ก็ตกคนละ 567 บาทครับ มีข้าวเช้าให้มื้อนึง
และแล้วความซวยก็มาถึง ไฟดับทั้งเกาะครับ!!!!
ตอนมาถึงค่อนข้างร้อนเลยอยากเข้าไปนอนพักตากแอร์
ไฟดันดับซะได้ นอกจากไฟดับน้ำก็ไม่ไหล คือซวยจัด555
แต่ชั่งเถอะครับ อย่าไปโฟกัส สุดท้ายก็เลยเช่ามอไซต์ 2 คัน
รวมกัน 500 ก็ตกคนละ 50 บาท ไปกินข้าวกันที่ร้านอาหารในเกาะ
ก็ไปกินอาหารตามสั่งกันครับราคาทั่วไป ก็จานละ 50 60 แต่ก็มีพวกจานละ 100 นิดๆนะครับ ผมกินข้าวผัดทะเล ก็ประมาณ 60 ค่าน้ำเปล่าน้ำแข็งก็รวมกันเป็น 70 ตอนแรกคิดว่าอาหารเกาะคงราคาแพง แต่ไม่เลยครับ ถูกๆก็มี ข้างๆร้านข้าวที่ผมกิน มีร้านก๋วยเตี๋ยวเรือด้วยชามละ 40 เอง ก็แนะนำครับแต่ไม่ได้ไปกิน พอกินอะไรกันเสร็จก็เดินทางกลับที่พัก
::: หาดข้างสะพานอัษฎางค์ :::
::: สะพานอัษฎางค์ :::
จุดเช็คอินของเกาะนี้ ที่ไม่ว่าใครมาที่นี่ก็ต้องมาถ่ายรูปกับสะพานอัษฎางค์ เป็นสะพานสีขาวครับ มีความยาวไม่มาก
แต่สวยมากๆ เหมาะกับการไปนั่งถ่ายรูปไงงี้ ก็ถ่ายกันไปชุดใหญ่อยู่ครับ ข้างล่างจะเป็นสุสานหอย มีแต่เปลือกหอยเต็มไปหมด มีหาดอยู่ข้างๆ แต่ก็เป็นหาดทรายกึ่งหินหอย ไม่แนะนำให้เล่นนะครับ ถ้าจะเล่นต้องไปเล่นหาดเดียวของเกาะ ที่สำหรับเล่นน้ำทะเล เรียกว่าหาดถ้ำพังครับ เดี๋ยวเราจะไปกัน
::: หาดถ้ำพัง :::
อยู่ด้านหลังเกาะเลยครับ หาดสวยมั้ย ก็จัดว่าใช้ได้ แต่สิ่งที่โครตดีคือ น้ำโครตใส ใสจริงๆ ดูนั่นซิครับ นอกจากน้ำใส ทรายยังโครตละเอียด คือแนะนำจริงๆ คือฟินมากๆกับความใสของน้ำ คนเล่นน้ำไม่ค่อยเยอะครับก็ดี แต่พอเย็นๆก็เริ่มมีคนมาเล่น
ก็ลงเล่นน้ำกันประมาณชั่วโมงกว่าๆครับ จนเริ่มเย็น ตอนแรกจะรอดูพระอาทิตย์ตก แต่ว่า ฟ้าค่อนข้างครึ้ม เมฆบางๆเต็มท้องฟ้า ก็เลยไม่มีแสงแดดเลย ก็เลยเดินทางกลับที่พักกัน
::: ดูพวกเราเล่นกันซิครับ :::
::: ท้องฟ้ามันครึ้มมันครึ้มอยู่อย่างนี้ :::
ลาวันแรกไปด้วยภาพนี้แล้วกันนะครับ555
::: ทะเลตอนกลางคืน มันก็น่ากลัวดีนะ :::
หลังจากกลับมาที่พัก ไฟก็มาครับประมาณ 6 โมงเย็น
เลยอาบน้ำอาบท่าแต่งตัว ก็ไปทราบมาว่าจริงๆ
ชาวบ้านรู้ล่วงหน้า 1 วันว่าจะมีคนมาซ่อมไฟ
เลยพากันข้ามมาอีกฝั่ง ร้านอาหารเลยน้อย5555
แต่เค้ามันไม่ได้ซ่อมกันตลอดนะครับคือที่ผมไป
ก็ถือว่าแจ็คพ็อตเหมือนกัน5555 ก็หลังจากนั้นก็ได้เวลา
อาหารเย็นแล้วววว ก็รวมเงินกันครับคนละประมาณ200
ซื้ออาหารเครื่องดื่มมากินในห้อง ก็อาหารก็รสชาติดีครับ
ราคาเกาะเลยทีนี้ ร้านน้อยเพราะคนย้ายฝั่งไปหมด555
ก็กินเท่าที่เหลือครับ มีร้านไหนขายก็ทยอยซื้อหมดเลย
หลังจากกินข้าวกันเสร็จก็แยกย้ายเข้าห้องตัวเองครับ
ผมกับเพื่อนกลุ่มนึงอยากไปทะเลตอนนี้ อยากรู้ว่าทะเล
ตอนกลางคืนมันเป็นยังไง ที่พักผมอยู่ไม่ไกลจากหาด
เลยชวนกันไปทะเลตอนนี้ ซึ่งก็ประมาณ 4 ทุ่มนิดๆ
พอไปถึงก็ตามที่เห็นในภาพครับ มืด แต่ก็สวยงามครับ
ส่องไฟฉายไปที่น้ำ น้ำยังคงใส แนะนำว่าต้องใส่รองเท่านะครับ
เป็นหาดแก้ว แก้วแบบ แก้วแตกอ่ะครับ รู้เลยว่าถ้าใครมาที่นี้
คือต้องมานั่งดื่มกันตรงนี้ แล้วไม่ยอมเอาขวดกลับแน่ๆ
แต่แล้วฝนก็ตกครับ555 ก็เลยถ่ายรูปท่ามกลางฝนนิดหน่อย
แล้วค่อยตัดสินใจกลับมาที่พักกัน
กลับมาถึงก็ยังไม่นอน ไปหัดขับมอเตอร์ไซต์กันต่อ
พอเริ่มเหนื่อยก็นั่งพักคุยกันยาว จนตี 3 แล้วครับถึง
แยกย้ายกันนอน5555
::: เช้าฝนตก :::
ก็พอเช้ามาผมตื่นมากินข้าวครับ เป็นไข่ดาว แฮม ไส้กรอก ขนมปัง พอกินเสร็จก็กลับไปนอนต่อ 5555
รูปหลังจากนี้ผมจะไม่ไปนะครับคือหลับอยู่ เพื่อนๆเลยเก็บภาพมาให้ไปดูรูปกัน
::: บรรยากาศรอบๆเกาะ :::
::: เดินทางกลับ :::
หลังจากนั้นก็เดินทางกลับครับออกจากเกาะประมาณ 14.00 น.
นั่งเรือรอบ 14.00 น. เดินทางมาอีกฝั่ง เป็นประสบการณ์นั่งเรือท่ามกลางสายฝนเบาๆ นั่งข้างล่างเรือครับมีกระจกให้มองไปดูข้างนอก นั่งเรือตอนฝนตกนี่ก็ดีไปอีกไปนะ555
แต่เดี๋ยวรถไฟที่จะเดินทางกลับคือรอบ 14.52 น.ซึ่งนั่งเรือใช้เวลา 40 นาทีคือเป็นวินาทีเฉียดตายมากๆ คือไปถึงปั๊ปต้องวิ่งไปขึ้นตุ๊กๆสุดใจ คือเราวางแผนว่าจะไปสถานีชุมทางศรีราชา
ซึ่งพอบอกตุ๊กๆ ตุ๊กๆบอกทางไปน้ำท่วมรถติดแน่ๆ ตุ๊กๆเลยเสนอให้ไปสถานีเขาพระบาท ซึ่งเป็นสถานีถัดชุมทางศรีราชาไปสถานีนึง ซึ่งจะถึงช้ากว่าคือ 15.01 เราก็เลยตัดสินใจไปสถานีเขาพระบาทกัน ซึ่งก็ปาฏิหารย์ ทันเว้ย5555 คือมันมีแค่วันละรอบถ้าไม่ทันเราคงต้องกลับไปนั่งรถตู้ แต่โชคดีจริงๆที่ไปทัน
ค่าตั๋วราคา 26 บาทถึงสถานีหัวลำโพงประมาณ 18.30 น.
แล้วก็เดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ
::: สรุปทริป :::
[ค่าใช้จ่าย]
ค่ารถบัสเล็ก 120 บาท
ค่ารถตุ๊กๆ 20 บาท
ค่าเรือ 50 บาท
ค่าที่พัก 567 บาท
ค่าข้าวกลางวัน 70 บาท
ค่าหารมอไซต์ 50 บาท
ค่าไอติม 20 บาท
ค่าอาหารเย็น 200 บาท
ค่าเรือ 50 บาท
ค่ารถตุ๊กๆ 30 บาท
ค่ารถไฟ 26 บาท
= 1,203 บาท
คือถ้าเพื่อนๆไปเองอาจจะถูกกว่านี้ หรือแพงกว่านี้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับจำนวนคน ช่วงที่ไป หรือโอกาสที่จะซื้อของต่างๆ แต่ถ้ามีโอกาสหรือมีเวลาว่างก็แนะนำให้ไปนะครับ เกาะที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ก็มีอะไีรซ่อนไว้มากมาย มีบ้านคน มีโรงเรียนเล็กๆ มีเซเว่น ด้วยนะ ผู้คนก็เป็นกันเอง ขนาดผมเที่ยวผิดฤดูยังสนุกกันขนาดนี้ ถ้าเพื่อนๆเที่ยวถูกฤดูคงมีอะไรให้ทำอีกเยอะ55555
ก็ลาไปก่อนสำหรับทริปนี้ เจอกันทริปหน้าขอบคุณครับ
ฝากช่องด้วยครับ แต่ทริปนี้ไม่ได้ทำคลิปน้าา
https://www.youtube.com/channel/UCsXveH6ZPQBipgzK7kHlw9w
เที่ยวเกาะสีชัง ชลบุรี แบบอินดี้ ด้วยงบสุดประหยัด
[ มีพันกว่าบาทมั้ยเที่ยวไหนได้บ้าง ]
สวัสดีครับ วันนี้มาเป็นกระทู้นำเที่ยวนะไม่มีคลิป
วันนี้ผมจะพาทุกคนไปเที่ยวเกาะสีชัง ชลบุรี
เป็นเกาะที่ผมได้ยินชื่อบ่อยมาก แต่ไม่มีโอกาส
ได้เยี่ยมชม ผมไปเที่ยวเป็นเวลา 2 วัน 1 คืน
ออกเดินทางวันที่ 6 มิ.ย กลับ 7 มิ.ย. 2562
ซึ่งผมไปกับกลุ่มเพื่อนอีก 9 คน รวมผมก็ 10 คน เที่ยวแบบผู้ชายๆ แบบลุยๆ แบบแผนมั่วๆ
มีแผนการเดินทาง แต่ก็ไม่ค่อยเป็นไปตามแผน
ซึ่งก็ใช้งบประมาณไปไม่เท่าไหร่หรอกครับ
พันนิดๆเอง เดี๋ยวผมจะลงสรุปงบไว้หน้าสุดท้ายนะครับ เรามาเริ่มการเดินทางกันเลยดีกว่า
ก็สำหรับการเดินทางนะครับ เดินทางได้ 2 วิธี จริงๆอาจจะมีอีกหลายวิธี แต่ผมแนะนำแค่ 2 นะ5555 ก็คือ
วิธีที่ 1 รถไฟปู้นๆๆๆ
เพื่อนๆสามารถนั่งรถไฟจากสถานีกรุงเทพ(หัวลำโพง)ลงที่สถานีชุมทางศรีราชา ในราคาเพียง 28 บาทเท่านั้น!!!! แต่ว่า!!!รถไฟขบวนนี้มีแค่วันละ 1 รอบเท่านั้นคือรอบ 06.55 น. ซึ่งจะถึงสถานีเวลา 10.00 น.โดยประมาณ ซึ่งผมไม่ได้ไปรถไฟครับ เพราะสายเลยไม่ทันรอบ แต่ถ้าใครนั่งรถไฟพอไปถึงสถานีแล้ว ก็หารถตุ๊กๆหน้าสถานีแล้วต่อมาที่ท่าเรือเกาะลอย ราคาน่าจะประมาณ 150 ครับ(แนะนำให้ไปหลายๆคน)
วิธีที่ 2 รถตู้หรือรถบัส
เพื่อนๆสามารถขึ้นรถได้ที่หมอชิต2 เป็นโซนรถขนาดเล็กพวกรถตู้ รถบัสเล็ก พอเข้าไปถึงที่ซื้อตั๋วก็จะมีคนเรียกเยอะมากๆแบบเรียกลูกค้าสุดฤทธิ์หน้าที่เราคือมองหาป้ายศรีราชาครับ ผมซื้อตั๋วในราคา 120 บาท จอดที่หน้าโรบินสันศรีราชา แล้วต่อรถตุ๊กๆในราคา 100 บาท(ผมนั่งกันคันละ 5 คนก็ตกคนละ 20บาท) จอดที่ท่าเรือเกาะลอยเหมือนกัน
แผนเราคือนั่งรถไฟครับเพื่อความประหยัด และคุ้มค่าแต่ว่าก็ผิดแผนทำให้เลทรถไฟสุดท้ายก็เลยได้ไปรถบัสเล็ก555
พวกผมเดินทางมาถึงโรบินสันศรีราชาประมาณเกือบ 11 โมงแล้วก็รอห้องเปิดเข้าไปทำธุระต่างๆบลาๆๆ เสร็จแล้วก็ต่อรถตุ๊กๆ เค้าคิดคนละ 20 คันละ 5 คนรวมกันก็ 100
ถึงท่าเรือก็ประมาณ 11 โมงนิดๆครับ ได้เรือรอบ 12.00น. ราคาเพียง 50 บาท ต้องรอจนกว่าเรือจะออก แต่เรือข้ามเกาะออกทุกชั่วโมงนะครับ ตอนนี้ก็ชิวๆถ่ายรูปนั่งรอ พอถึงเวลาก็ขึ้นเรือครับ
ตื่นเต้นครับผมจะได้ขึ้นเรือข้ามเกาะครั้งแรกในชีวิต
เพื่อนๆผมน่าจะเคยขึ้นหมดละมั้ง มีแต่ผมที่ยังไม่เคย
เปิดประสบการณ์ ขึ้นไปปั๊บรอสักแป็ป เรือสตาร์ทพร้อมออก
แล้วเราก็ออกผจญภัยสู่น่านน้ำ อันไกลโพ้น พอเรือเดินปั๊ป
สิ่งแรกที่รู้สึกเลยคือ มึนหัวนิดหน่อยโอเค เมาเรือ5555
แต่ไม่ได้เมามากครับ ก็ยังคงสนุกกับการเห็นทะเล
มีเรือ มีน้ำสีฟ้า มีนกนางนวลมั้ง บินผ่าน เดินทางอยู่ไม่นาน
ประมาณ 40 นาทีเราก็เดินทางมาถึงท่าเรือเกาะสีชังครับ
พอไปถึงนะครับก็จะมีพวกรถแบบนี้ มาจอดเรียงรอนักท่องเที่ยว
แต่พอดีพวกเราจองที่พักเอาไว้ เลยมีรถของทางที่พักมารับ
ก็รถก็มีการขายโปรนิดหน่อย เหมา 500 เที่ยวรอบเกาะ
ไปกลับที่พัก 300 แน่นอนครับไม่เอา!!! 55555
พอไปถึงที่พักก็เช็คอินประมาณบ่ายโมงนิดๆ เข้าที่พัก
ค่าราคาก็บังกะโล 3 หลัง หลังละประมาณ 1,890 บาท
ก็ประมาณ 5,670 ก็ตกคนละ 567 บาทครับ มีข้าวเช้าให้มื้อนึง
และแล้วความซวยก็มาถึง ไฟดับทั้งเกาะครับ!!!!
ตอนมาถึงค่อนข้างร้อนเลยอยากเข้าไปนอนพักตากแอร์
ไฟดันดับซะได้ นอกจากไฟดับน้ำก็ไม่ไหล คือซวยจัด555
แต่ชั่งเถอะครับ อย่าไปโฟกัส สุดท้ายก็เลยเช่ามอไซต์ 2 คัน
รวมกัน 500 ก็ตกคนละ 50 บาท ไปกินข้าวกันที่ร้านอาหารในเกาะ
ก็ไปกินอาหารตามสั่งกันครับราคาทั่วไป ก็จานละ 50 60 แต่ก็มีพวกจานละ 100 นิดๆนะครับ ผมกินข้าวผัดทะเล ก็ประมาณ 60 ค่าน้ำเปล่าน้ำแข็งก็รวมกันเป็น 70 ตอนแรกคิดว่าอาหารเกาะคงราคาแพง แต่ไม่เลยครับ ถูกๆก็มี ข้างๆร้านข้าวที่ผมกิน มีร้านก๋วยเตี๋ยวเรือด้วยชามละ 40 เอง ก็แนะนำครับแต่ไม่ได้ไปกิน พอกินอะไรกันเสร็จก็เดินทางกลับที่พัก
จุดเช็คอินของเกาะนี้ ที่ไม่ว่าใครมาที่นี่ก็ต้องมาถ่ายรูปกับสะพานอัษฎางค์ เป็นสะพานสีขาวครับ มีความยาวไม่มาก
แต่สวยมากๆ เหมาะกับการไปนั่งถ่ายรูปไงงี้ ก็ถ่ายกันไปชุดใหญ่อยู่ครับ ข้างล่างจะเป็นสุสานหอย มีแต่เปลือกหอยเต็มไปหมด มีหาดอยู่ข้างๆ แต่ก็เป็นหาดทรายกึ่งหินหอย ไม่แนะนำให้เล่นนะครับ ถ้าจะเล่นต้องไปเล่นหาดเดียวของเกาะ ที่สำหรับเล่นน้ำทะเล เรียกว่าหาดถ้ำพังครับ เดี๋ยวเราจะไปกัน
อยู่ด้านหลังเกาะเลยครับ หาดสวยมั้ย ก็จัดว่าใช้ได้ แต่สิ่งที่โครตดีคือ น้ำโครตใส ใสจริงๆ ดูนั่นซิครับ นอกจากน้ำใส ทรายยังโครตละเอียด คือแนะนำจริงๆ คือฟินมากๆกับความใสของน้ำ คนเล่นน้ำไม่ค่อยเยอะครับก็ดี แต่พอเย็นๆก็เริ่มมีคนมาเล่น
ก็ลงเล่นน้ำกันประมาณชั่วโมงกว่าๆครับ จนเริ่มเย็น ตอนแรกจะรอดูพระอาทิตย์ตก แต่ว่า ฟ้าค่อนข้างครึ้ม เมฆบางๆเต็มท้องฟ้า ก็เลยไม่มีแสงแดดเลย ก็เลยเดินทางกลับที่พักกัน
ลาวันแรกไปด้วยภาพนี้แล้วกันนะครับ555
หลังจากกลับมาที่พัก ไฟก็มาครับประมาณ 6 โมงเย็น
เลยอาบน้ำอาบท่าแต่งตัว ก็ไปทราบมาว่าจริงๆ
ชาวบ้านรู้ล่วงหน้า 1 วันว่าจะมีคนมาซ่อมไฟ
เลยพากันข้ามมาอีกฝั่ง ร้านอาหารเลยน้อย5555
แต่เค้ามันไม่ได้ซ่อมกันตลอดนะครับคือที่ผมไป
ก็ถือว่าแจ็คพ็อตเหมือนกัน5555 ก็หลังจากนั้นก็ได้เวลา
อาหารเย็นแล้วววว ก็รวมเงินกันครับคนละประมาณ200
ซื้ออาหารเครื่องดื่มมากินในห้อง ก็อาหารก็รสชาติดีครับ
ราคาเกาะเลยทีนี้ ร้านน้อยเพราะคนย้ายฝั่งไปหมด555
ก็กินเท่าที่เหลือครับ มีร้านไหนขายก็ทยอยซื้อหมดเลย
หลังจากกินข้าวกันเสร็จก็แยกย้ายเข้าห้องตัวเองครับ
ผมกับเพื่อนกลุ่มนึงอยากไปทะเลตอนนี้ อยากรู้ว่าทะเล
ตอนกลางคืนมันเป็นยังไง ที่พักผมอยู่ไม่ไกลจากหาด
เลยชวนกันไปทะเลตอนนี้ ซึ่งก็ประมาณ 4 ทุ่มนิดๆ
พอไปถึงก็ตามที่เห็นในภาพครับ มืด แต่ก็สวยงามครับ
ส่องไฟฉายไปที่น้ำ น้ำยังคงใส แนะนำว่าต้องใส่รองเท่านะครับ
เป็นหาดแก้ว แก้วแบบ แก้วแตกอ่ะครับ รู้เลยว่าถ้าใครมาที่นี้
คือต้องมานั่งดื่มกันตรงนี้ แล้วไม่ยอมเอาขวดกลับแน่ๆ
แต่แล้วฝนก็ตกครับ555 ก็เลยถ่ายรูปท่ามกลางฝนนิดหน่อย
แล้วค่อยตัดสินใจกลับมาที่พักกัน
กลับมาถึงก็ยังไม่นอน ไปหัดขับมอเตอร์ไซต์กันต่อ
พอเริ่มเหนื่อยก็นั่งพักคุยกันยาว จนตี 3 แล้วครับถึง
แยกย้ายกันนอน5555
ก็พอเช้ามาผมตื่นมากินข้าวครับ เป็นไข่ดาว แฮม ไส้กรอก ขนมปัง พอกินเสร็จก็กลับไปนอนต่อ 5555
รูปหลังจากนี้ผมจะไม่ไปนะครับคือหลับอยู่ เพื่อนๆเลยเก็บภาพมาให้ไปดูรูปกัน
หลังจากนั้นก็เดินทางกลับครับออกจากเกาะประมาณ 14.00 น.
นั่งเรือรอบ 14.00 น. เดินทางมาอีกฝั่ง เป็นประสบการณ์นั่งเรือท่ามกลางสายฝนเบาๆ นั่งข้างล่างเรือครับมีกระจกให้มองไปดูข้างนอก นั่งเรือตอนฝนตกนี่ก็ดีไปอีกไปนะ555
แต่เดี๋ยวรถไฟที่จะเดินทางกลับคือรอบ 14.52 น.ซึ่งนั่งเรือใช้เวลา 40 นาทีคือเป็นวินาทีเฉียดตายมากๆ คือไปถึงปั๊ปต้องวิ่งไปขึ้นตุ๊กๆสุดใจ คือเราวางแผนว่าจะไปสถานีชุมทางศรีราชา
ซึ่งพอบอกตุ๊กๆ ตุ๊กๆบอกทางไปน้ำท่วมรถติดแน่ๆ ตุ๊กๆเลยเสนอให้ไปสถานีเขาพระบาท ซึ่งเป็นสถานีถัดชุมทางศรีราชาไปสถานีนึง ซึ่งจะถึงช้ากว่าคือ 15.01 เราก็เลยตัดสินใจไปสถานีเขาพระบาทกัน ซึ่งก็ปาฏิหารย์ ทันเว้ย5555 คือมันมีแค่วันละรอบถ้าไม่ทันเราคงต้องกลับไปนั่งรถตู้ แต่โชคดีจริงๆที่ไปทัน
ค่าตั๋วราคา 26 บาทถึงสถานีหัวลำโพงประมาณ 18.30 น.
แล้วก็เดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ
[ค่าใช้จ่าย]
ค่ารถบัสเล็ก 120 บาท
ค่ารถตุ๊กๆ 20 บาท
ค่าเรือ 50 บาท
ค่าที่พัก 567 บาท
ค่าข้าวกลางวัน 70 บาท
ค่าหารมอไซต์ 50 บาท
ค่าไอติม 20 บาท
ค่าอาหารเย็น 200 บาท
ค่าเรือ 50 บาท
ค่ารถตุ๊กๆ 30 บาท
ค่ารถไฟ 26 บาท
= 1,203 บาท
คือถ้าเพื่อนๆไปเองอาจจะถูกกว่านี้ หรือแพงกว่านี้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับจำนวนคน ช่วงที่ไป หรือโอกาสที่จะซื้อของต่างๆ แต่ถ้ามีโอกาสหรือมีเวลาว่างก็แนะนำให้ไปนะครับ เกาะที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ก็มีอะไีรซ่อนไว้มากมาย มีบ้านคน มีโรงเรียนเล็กๆ มีเซเว่น ด้วยนะ ผู้คนก็เป็นกันเอง ขนาดผมเที่ยวผิดฤดูยังสนุกกันขนาดนี้ ถ้าเพื่อนๆเที่ยวถูกฤดูคงมีอะไรให้ทำอีกเยอะ55555
ก็ลาไปก่อนสำหรับทริปนี้ เจอกันทริปหน้าขอบคุณครับ
ฝากช่องด้วยครับ แต่ทริปนี้ไม่ได้ทำคลิปน้าา
https://www.youtube.com/channel/UCsXveH6ZPQBipgzK7kHlw9w