นวนิยายเรื่องนี้ เคยถูกตีพิมพ์เป็นตอน ๆ ในนิตยสารแพรวสุดสัปดาห์ราวปี 2528
จากปลายปากกาของนักเขียนสตรีชั้นครูนาม "ทมยันตี" เจ้าของฉายา "ราชินีแห่งความเศร้า"
การเดินทางอันยาวนานถึง 34 ปีของนวนิยายเรื่องนี้ ทำให้เนื้อหาในหนังสือดูเชย ล้าสมัย และค่อนข้างเนือยเกินไปสำหรับยุคนี้ ที่คนอ่านนิยมการเดินเรื่องแบบกระชับ ฉับไว สมสมัย ใช้คำน้อยแต่กินความมาก มากกว่า
แม้ตอนอ่านนิยาย ดิฉันจะไพล่นึกถึงม้า-อรนภา เพราะเธอผันตัวจากช่างแต่งหน้ามาเป็นนางแบบ แต่เธอจะไม่สวยราวกับปั้นเท่า "นิรา" หรืออดีต "ชนันธวัช" ในบทบรรยายเท่านั้นเอง
เคยมีผู้จัดละครค่ายเล็ก ๆ แห่งวิก "สี-หาม" พยายามยื่นนิยายเรื่องนี้ให้บอร์ดสถานีพิจารณา พร้อมเลือกอดีตนางงามทิฟฟานี ปี 2542 ชื่อ "โอ๋-ภัทรียา" เจ้าของฉายา "ลูกเกด-เมทินี 2" ที่เพิ่งได้ตำแหน่งระดับโลกมาใหม่ ๆ ให้กับช่อง
ก่อนจะถูกสถานีระงับโครงการนี้ไป เพราะสมัยนั้นสังคมยังไม่ยอมรับมากนัก ถึงกับห้ามกะเทยออกจอทีวี
กระทั่งผู้จัดละครกะเทยแห่งวิกเดียวกัน ยังถูกจับผิดว่าทำไมเดี๋ยวพูดครับ เดี๋ยวพูดค่ะ ในรายการวาไรตี้ของตัวเอง ที่ตอนนี้ "ระเบิดตัวเอง" ไปนานแล้ว
แม้ดิฉันจะมิใช่กะเทย แต่ก็จะขอเป็นกำลังใจให้ กับการโลดแล่นผ่านจอแก้วครั้งแรกของนิยายเรื่องนี้ค่ะ หลังผ่านมรสุมมากมายเมื่อครั้งอดีต
และขอเป็นกำลังใจให้ผู้จัดละครตลอดจนนักแสดงทุกท่านค่ะ โดยเฉพาะ ”ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก” ที่ต้องมารับบทหนักเป็นกะเทยแปลงเพศ ถึงแม้ดิฉันจะอยากให้กะเทยจริง ๆ มารับบทนี้มากกว่า แต่ก็เข้าใจสถานีค่ะ เพราะเขาต้องแคร์เรื่องการตลาดด้วย และกะเทยที่สวยเก่งเด่นดังในวงการก็ยังขาดแคลนอยู่มากด้วยค่ะ
แม้แต่ปอย-ตรีชฎา ที่ ’เนียนนี’ แถมมีชื่อเสียง แต่ฝีมือก็ยังไม่ดีเท่าหน้าตาของเธอเลยค่ะ
ฉะนั้นการให้นางเอกเจ้าบทบาทมารับบทนี้ ถือเป็นความแปลกใหม่ของคนดู และได้แฟนละครในวงกว้างกว่าด้วยค่ะ แล้วจะรอชมนะคะ ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ
นางงามข้ามเพศคนนี้ เคยถูกวางตัวในละคร "ใบไม้ที่ปลิดปลิว" มาก่อนค่ะ
จากปลายปากกาของนักเขียนสตรีชั้นครูนาม "ทมยันตี" เจ้าของฉายา "ราชินีแห่งความเศร้า"
การเดินทางอันยาวนานถึง 34 ปีของนวนิยายเรื่องนี้ ทำให้เนื้อหาในหนังสือดูเชย ล้าสมัย และค่อนข้างเนือยเกินไปสำหรับยุคนี้ ที่คนอ่านนิยมการเดินเรื่องแบบกระชับ ฉับไว สมสมัย ใช้คำน้อยแต่กินความมาก มากกว่า
แม้ตอนอ่านนิยาย ดิฉันจะไพล่นึกถึงม้า-อรนภา เพราะเธอผันตัวจากช่างแต่งหน้ามาเป็นนางแบบ แต่เธอจะไม่สวยราวกับปั้นเท่า "นิรา" หรืออดีต "ชนันธวัช" ในบทบรรยายเท่านั้นเอง
เคยมีผู้จัดละครค่ายเล็ก ๆ แห่งวิก "สี-หาม" พยายามยื่นนิยายเรื่องนี้ให้บอร์ดสถานีพิจารณา พร้อมเลือกอดีตนางงามทิฟฟานี ปี 2542 ชื่อ "โอ๋-ภัทรียา" เจ้าของฉายา "ลูกเกด-เมทินี 2" ที่เพิ่งได้ตำแหน่งระดับโลกมาใหม่ ๆ ให้กับช่อง
ก่อนจะถูกสถานีระงับโครงการนี้ไป เพราะสมัยนั้นสังคมยังไม่ยอมรับมากนัก ถึงกับห้ามกะเทยออกจอทีวี
กระทั่งผู้จัดละครกะเทยแห่งวิกเดียวกัน ยังถูกจับผิดว่าทำไมเดี๋ยวพูดครับ เดี๋ยวพูดค่ะ ในรายการวาไรตี้ของตัวเอง ที่ตอนนี้ "ระเบิดตัวเอง" ไปนานแล้ว
แม้ดิฉันจะมิใช่กะเทย แต่ก็จะขอเป็นกำลังใจให้ กับการโลดแล่นผ่านจอแก้วครั้งแรกของนิยายเรื่องนี้ค่ะ หลังผ่านมรสุมมากมายเมื่อครั้งอดีต
และขอเป็นกำลังใจให้ผู้จัดละครตลอดจนนักแสดงทุกท่านค่ะ โดยเฉพาะ ”ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก” ที่ต้องมารับบทหนักเป็นกะเทยแปลงเพศ ถึงแม้ดิฉันจะอยากให้กะเทยจริง ๆ มารับบทนี้มากกว่า แต่ก็เข้าใจสถานีค่ะ เพราะเขาต้องแคร์เรื่องการตลาดด้วย และกะเทยที่สวยเก่งเด่นดังในวงการก็ยังขาดแคลนอยู่มากด้วยค่ะ
แม้แต่ปอย-ตรีชฎา ที่ ’เนียนนี’ แถมมีชื่อเสียง แต่ฝีมือก็ยังไม่ดีเท่าหน้าตาของเธอเลยค่ะ
ฉะนั้นการให้นางเอกเจ้าบทบาทมารับบทนี้ ถือเป็นความแปลกใหม่ของคนดู และได้แฟนละครในวงกว้างกว่าด้วยค่ะ แล้วจะรอชมนะคะ ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ