เรียนรู้เพื่อที่จะไม่เรียนรู้ (learning against learning)
Thanong Fanclub
สืบเนื่องจากภาพที่แพร่หลายในโซเซี่ยลในเวลานี้ ขอแสดงความเห็นว่าอย่าไปโทษเด็กอย่างเดียว โทษครูบาอาจารย์ด้วยว่าสอนเด็กให้ออกมาจาบจ้วงพ่อของแผ่นดินได้อย่างไร
ปู่ของพ่อให้ที่ดินให้สร้างโรงเรียน ลุงของพ่อยกระดับเป็นมหาวิยาลัย แล้วพวกอาจารย์และนักเรียนที่ได้ประโยชน์จากสถาบันการศึกษาแห่งนี้ (และที่อื่นๆ อีกมากมาย) มีการสอนการเรียนการสอนอย่างไรถึงไม่รู้จักบุญคุณของแผ่นดิน
ถือว่าเป็นความล้มเหลวของวิชาการโดยสิ้นเชิง ต้องมีการสังคายนากันใหม่ หรือต้องปฏิรูปแบบถอนรากถอนโคนกันเลยทีเดียว
ความเป็นอิสระทางวิชาการเป็นคำพูดที่หลอกลวง ถ้าหากว่าความเป็นอิสระนั้นไม่ใช้เพื่อปกป้อง รักษา สืบทอดรากเหง้าที่เป็นหลักของชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์
ครูบาอาจารย์ไปเรียนเมืองนอก ไปได้ดีกรีสูงๆ มา แล้วเอาปรัชญา หรือแนวความคิด ทฤษฎี และตำราของฝรั่งมาสอนหรืออบรมเด็กนักศึกษาต่อ โดยไม่สามารถแยกแยะได้ว่า ตำราฝรั่งที่ดูดีแต่แท้ที่จริงแล้วเคลือบด้วยยาพิษที่แยบยล สอนให้เรารู้เพื่อที่จะไม่รู้
เหมือนเรากินมันฝรั่งที่หอมหวาน โดยหารู้ไม่ว่ามันมาจากการดัดแปลงพันธุกรรมจีเอ็มโอ รวมทั้งมีสารเคมีที่ทำลายร่างกายเราเจือปน
เมื่อครูบาอาจารย์รู้โดยที่ไม่รู้ จึงมีความหลง เนื่องจากคิดว่าตัวเองเรียนมาสูง เรียนมามาก ทั้งๆ ที่อ้างตำราที่เคลือบยาพิษของฝรั่งทั้งนั้น จึงถ่ายทอดความรู้ที่เป็นอวิชชาให้นักเรียน นักศึกษา ทำให้คนไทยที่จบจากสถาบันการศึกษาต่างๆ เป็นคนพิกลพิการทางสมองเสียส่วนใหญ่
การแสดงออกจากทางเมืองของคนรุ่นใหม่ในเวลานี้ที่มุ่งทำลายสถาบันหลักของประเทศ ไม่เห็นความสำคัญของพระพุทธศาสนา ไม่เข้าใจหลักความมั่นคงของชาติแต่เน้นสิทธิเสรีภาพของตัวเองที่ไม่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงถือว่าเป็นความล้มเหลวของระบบการศึกษาไทย
ในทางกลับกันมันเป็นความสำเร็จอันงดงามของขบวนการ (soft power) ในระดับโลกในการทำลายระบบศีลธรรมจริยธรรม และการศึกษาของไทย
ขบวนการสอนให้เรารู้เพื่อที่จะไม่รู้ (learning against learning) มีมานาน 400-500 ปีแล้ว เพื่อให้มนุษย์ท้ังโลกมีความคิด ความเชื่อหรือศรัทธาไปในทิศทางเดียวกันเหมือน Animal Farm
เมื่อมนุษย์ถูกลดสภาพเป็น Animal Farm ก็ง่ายที่จะครอบงำโดยไม่มีแรงต้านทาน เพราะว่าไม่มีปัญญาที่จะต่อสู้
เป้าหมายที่สำคัญของการเรียนรู้เพื่อที่จะไม่เรียนรู้เพื่อสร้างความแตกแยก เมื่อเกิดความแตกแยกก็ง่ายที่จะถูกครอบงำ divide & rule
ขบวนการ Learning against learning จะมุ่งทำลายรากฐาน หรือรากเหง้าของประเทศ โดยเอาแนวคิดมายามาหลอกหล่อให้คนหลงผิด ด้วยเหตุนี้ความเป็นชาติ ศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์จึงตกเป็นเป้าของการทำลาย
ถ้าทำลายพระ และครูได้ ประเทศไทยก็มอดม้วย
ในทางศาสนาจะเห็นพระปลอม หรือพระที่มีแนวการตีความทางศาสนาออกจากหลักคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นมากมาย มีการส่งคนของตัวเองเข้าไปในสถาบันสงฆ์เพื่อทำให้อ่อนแอ ให้เกิดความแตกแยก
ให้ยกเลิกการเรียนการสอนศาสนาในระบบการศึกษา ไม่ให้มีการเรียนการสอนพระไตรปิฎกกันต่อไป ทั้งๆ ที่พระไตรปิฎกเป็นมรดกโลกที่ล้ำค่าที่สุด ความจริงคนไทยทุกคนก่อนจบการศึกษาต้องได้อ่านประไตรปิฎกจบกันทุกคนถึงจะได้ดีกรี
ในทางการศึกษา ไม่สอนหน้าที่พลเมือง หน้าที่ศีลธรรม ประวัติศาสตร์ถูกบิดเบือนไม่ให้คนไทยรู้ว่าเราเป็นอู่อารยะธรรมที่สำคัญของโลก วิชารัฐศาสตร์เน้นส่งเสริมลัทธิประชาธิปไตย ไม่สอนระบบพ่อปกครองลูก ไม่สอนภัยของลัทธิล่าอาณานิคมที่ยังมีอยู่ แยกแยะไม่ออกเกมภูมิรัฐศาตร์ของมหาอำนาจที่ต้องการยึดครองดินแดนไทย วิชาเศรษฐศาสตร์ไม่สอนกลลวงของระบบเงินตรา & แบงกิ้งที่ต่างชาติวางเอาไว้เพื่อยึดครองทรัพยากรธรรมชาติของประเทศต่างๆ ไม่สอนระบบเศรษฐกิจพอเพียง ไม่เน้นให้คนไทยเก่งด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์
การศึกษาไม่สอนให้บัณฑิตมีความรู้แบบองค์รวม แต่ให้มีความรู้เฉพาะเพื่อออกไปหางาน เมื่อมีความรู้เฉพาะแบบแคบๆ ทำให้ง่ายในการชักจูงให้เข้าไปบูชาลัทธิเงินตรา เกิดความเห็นแก่ตัว ไม่มีความคิดเรื่องส่วนรวม ไม่เข้าใจความเป็นมาของประเทศว่าดำเนินมาอย่างไร ตอนนี้เราอยู่จุดไหน และจะเดินหน้าไปทางไหน
เมืองไทยมาถึงจุดต่ำสุดแล้ว ในด้านความมั่นคงของสถาบันต่างๆ ที่เป็นเสาหลักค้ำประเทศอยู่ เนื่องจากคนไทยโดนล้างสมองจากระบบการศึกษาที่สอนให้เรารู้โดยไม่รู้อะไรเลย แม้จะรู้บ้างแต่ก็ขาดจิตสำนึก
ไม่มีทางเลือกแล้ว ทางรอดของเมืองไทยต่อไปคือการปฏิรูปโครงสร้างของประเทศทุกภาคส่วน เพื่อ
1. ให้คนไทยออกจากระบบการเรียนรู้เพื่อที่จะไม่เรียนรู้
2.ให้คนไทยทุกคนมีส่วนร่วมปกป้อง รักษาสืบทอดสถาบันศาสนา ชาติและพระมหากษัตริย์
3. ให้คนไทยมีอำนาจในการบริหารเศรษฐกิจและการเงินของประเทศที่แท้จริง ไม่ใช่เป็นอาณานิคมของต่างชาติด้านเศรษฐกิจและการเงินโดยที่เราไม่รู้ตัว
4. ให้ฟื้นฟูหรือเอาทรัพยากรธรรมชาติกลับมาเป็นของคนไทยอีกครั้ง
5. ให้คนไทยมีที่ดินทำกิน ให้ชาวบ้านกลับภูมิลำเนาเดิมเพื่อรักษาชุมชนของตัวเอง
6. ให้คนไทยร่วมกันรักษาประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามของประเทศ หรือปกป้องรากเหง้าของประเทศ
7. ให้คนไทยมีความเจริญก้าวหน้าด้านวิชาการที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่
8. ให้ระบบของประเทศกลับมาอยู่ระบบของความพอเพียง ไม่มากเกิน ไม่น้อยเกิน แต่พอดีๆ และคนไทยทุกคนกลับมาเป็นชาวประชาหน้าใสอีกครั้ง
Thanong Fanclub
9/6/2019
เรียนรู้เพื่อที่จะไม่เรียนรู้ (learning against learning)
Thanong Fanclub
สืบเนื่องจากภาพที่แพร่หลายในโซเซี่ยลในเวลานี้ ขอแสดงความเห็นว่าอย่าไปโทษเด็กอย่างเดียว โทษครูบาอาจารย์ด้วยว่าสอนเด็กให้ออกมาจาบจ้วงพ่อของแผ่นดินได้อย่างไร
ปู่ของพ่อให้ที่ดินให้สร้างโรงเรียน ลุงของพ่อยกระดับเป็นมหาวิยาลัย แล้วพวกอาจารย์และนักเรียนที่ได้ประโยชน์จากสถาบันการศึกษาแห่งนี้ (และที่อื่นๆ อีกมากมาย) มีการสอนการเรียนการสอนอย่างไรถึงไม่รู้จักบุญคุณของแผ่นดิน
ถือว่าเป็นความล้มเหลวของวิชาการโดยสิ้นเชิง ต้องมีการสังคายนากันใหม่ หรือต้องปฏิรูปแบบถอนรากถอนโคนกันเลยทีเดียว
ความเป็นอิสระทางวิชาการเป็นคำพูดที่หลอกลวง ถ้าหากว่าความเป็นอิสระนั้นไม่ใช้เพื่อปกป้อง รักษา สืบทอดรากเหง้าที่เป็นหลักของชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์
ครูบาอาจารย์ไปเรียนเมืองนอก ไปได้ดีกรีสูงๆ มา แล้วเอาปรัชญา หรือแนวความคิด ทฤษฎี และตำราของฝรั่งมาสอนหรืออบรมเด็กนักศึกษาต่อ โดยไม่สามารถแยกแยะได้ว่า ตำราฝรั่งที่ดูดีแต่แท้ที่จริงแล้วเคลือบด้วยยาพิษที่แยบยล สอนให้เรารู้เพื่อที่จะไม่รู้
เหมือนเรากินมันฝรั่งที่หอมหวาน โดยหารู้ไม่ว่ามันมาจากการดัดแปลงพันธุกรรมจีเอ็มโอ รวมทั้งมีสารเคมีที่ทำลายร่างกายเราเจือปน
เมื่อครูบาอาจารย์รู้โดยที่ไม่รู้ จึงมีความหลง เนื่องจากคิดว่าตัวเองเรียนมาสูง เรียนมามาก ทั้งๆ ที่อ้างตำราที่เคลือบยาพิษของฝรั่งทั้งนั้น จึงถ่ายทอดความรู้ที่เป็นอวิชชาให้นักเรียน นักศึกษา ทำให้คนไทยที่จบจากสถาบันการศึกษาต่างๆ เป็นคนพิกลพิการทางสมองเสียส่วนใหญ่
การแสดงออกจากทางเมืองของคนรุ่นใหม่ในเวลานี้ที่มุ่งทำลายสถาบันหลักของประเทศ ไม่เห็นความสำคัญของพระพุทธศาสนา ไม่เข้าใจหลักความมั่นคงของชาติแต่เน้นสิทธิเสรีภาพของตัวเองที่ไม่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงถือว่าเป็นความล้มเหลวของระบบการศึกษาไทย
ในทางกลับกันมันเป็นความสำเร็จอันงดงามของขบวนการ (soft power) ในระดับโลกในการทำลายระบบศีลธรรมจริยธรรม และการศึกษาของไทย
ขบวนการสอนให้เรารู้เพื่อที่จะไม่รู้ (learning against learning) มีมานาน 400-500 ปีแล้ว เพื่อให้มนุษย์ท้ังโลกมีความคิด ความเชื่อหรือศรัทธาไปในทิศทางเดียวกันเหมือน Animal Farm
เมื่อมนุษย์ถูกลดสภาพเป็น Animal Farm ก็ง่ายที่จะครอบงำโดยไม่มีแรงต้านทาน เพราะว่าไม่มีปัญญาที่จะต่อสู้
เป้าหมายที่สำคัญของการเรียนรู้เพื่อที่จะไม่เรียนรู้เพื่อสร้างความแตกแยก เมื่อเกิดความแตกแยกก็ง่ายที่จะถูกครอบงำ divide & rule
ขบวนการ Learning against learning จะมุ่งทำลายรากฐาน หรือรากเหง้าของประเทศ โดยเอาแนวคิดมายามาหลอกหล่อให้คนหลงผิด ด้วยเหตุนี้ความเป็นชาติ ศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์จึงตกเป็นเป้าของการทำลาย
ถ้าทำลายพระ และครูได้ ประเทศไทยก็มอดม้วย
ในทางศาสนาจะเห็นพระปลอม หรือพระที่มีแนวการตีความทางศาสนาออกจากหลักคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นมากมาย มีการส่งคนของตัวเองเข้าไปในสถาบันสงฆ์เพื่อทำให้อ่อนแอ ให้เกิดความแตกแยก
ให้ยกเลิกการเรียนการสอนศาสนาในระบบการศึกษา ไม่ให้มีการเรียนการสอนพระไตรปิฎกกันต่อไป ทั้งๆ ที่พระไตรปิฎกเป็นมรดกโลกที่ล้ำค่าที่สุด ความจริงคนไทยทุกคนก่อนจบการศึกษาต้องได้อ่านประไตรปิฎกจบกันทุกคนถึงจะได้ดีกรี
ในทางการศึกษา ไม่สอนหน้าที่พลเมือง หน้าที่ศีลธรรม ประวัติศาสตร์ถูกบิดเบือนไม่ให้คนไทยรู้ว่าเราเป็นอู่อารยะธรรมที่สำคัญของโลก วิชารัฐศาสตร์เน้นส่งเสริมลัทธิประชาธิปไตย ไม่สอนระบบพ่อปกครองลูก ไม่สอนภัยของลัทธิล่าอาณานิคมที่ยังมีอยู่ แยกแยะไม่ออกเกมภูมิรัฐศาตร์ของมหาอำนาจที่ต้องการยึดครองดินแดนไทย วิชาเศรษฐศาสตร์ไม่สอนกลลวงของระบบเงินตรา & แบงกิ้งที่ต่างชาติวางเอาไว้เพื่อยึดครองทรัพยากรธรรมชาติของประเทศต่างๆ ไม่สอนระบบเศรษฐกิจพอเพียง ไม่เน้นให้คนไทยเก่งด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์
การศึกษาไม่สอนให้บัณฑิตมีความรู้แบบองค์รวม แต่ให้มีความรู้เฉพาะเพื่อออกไปหางาน เมื่อมีความรู้เฉพาะแบบแคบๆ ทำให้ง่ายในการชักจูงให้เข้าไปบูชาลัทธิเงินตรา เกิดความเห็นแก่ตัว ไม่มีความคิดเรื่องส่วนรวม ไม่เข้าใจความเป็นมาของประเทศว่าดำเนินมาอย่างไร ตอนนี้เราอยู่จุดไหน และจะเดินหน้าไปทางไหน
เมืองไทยมาถึงจุดต่ำสุดแล้ว ในด้านความมั่นคงของสถาบันต่างๆ ที่เป็นเสาหลักค้ำประเทศอยู่ เนื่องจากคนไทยโดนล้างสมองจากระบบการศึกษาที่สอนให้เรารู้โดยไม่รู้อะไรเลย แม้จะรู้บ้างแต่ก็ขาดจิตสำนึก
ไม่มีทางเลือกแล้ว ทางรอดของเมืองไทยต่อไปคือการปฏิรูปโครงสร้างของประเทศทุกภาคส่วน เพื่อ
1. ให้คนไทยออกจากระบบการเรียนรู้เพื่อที่จะไม่เรียนรู้
2.ให้คนไทยทุกคนมีส่วนร่วมปกป้อง รักษาสืบทอดสถาบันศาสนา ชาติและพระมหากษัตริย์
3. ให้คนไทยมีอำนาจในการบริหารเศรษฐกิจและการเงินของประเทศที่แท้จริง ไม่ใช่เป็นอาณานิคมของต่างชาติด้านเศรษฐกิจและการเงินโดยที่เราไม่รู้ตัว
4. ให้ฟื้นฟูหรือเอาทรัพยากรธรรมชาติกลับมาเป็นของคนไทยอีกครั้ง
5. ให้คนไทยมีที่ดินทำกิน ให้ชาวบ้านกลับภูมิลำเนาเดิมเพื่อรักษาชุมชนของตัวเอง
6. ให้คนไทยร่วมกันรักษาประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามของประเทศ หรือปกป้องรากเหง้าของประเทศ
7. ให้คนไทยมีความเจริญก้าวหน้าด้านวิชาการที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่
8. ให้ระบบของประเทศกลับมาอยู่ระบบของความพอเพียง ไม่มากเกิน ไม่น้อยเกิน แต่พอดีๆ และคนไทยทุกคนกลับมาเป็นชาวประชาหน้าใสอีกครั้ง
Thanong Fanclub
9/6/2019