[CR] เด็กน้อยของบ้าน Yamaha Bolt-R

กระทู้รีวิว
หลังจากที่ผมใช้จนเลขไมล์เกินหมื่นโล ก็คิดว่าน่าจะมีข้อมูลพอให้รีวิวเจ้าเต่าน้อยคันนี้ได้แล้ว

สภาพวันแรกๆหลังรับรถมาใหม่ๆ
ก่อนจะอัพมาเป็นคันนี้ผมมีพื้นฐานมากับ แฟนท่อม 200 และนินจา 300 ส่วนแกรนด์ฟีลาโน่อย่าไปนับเลย 
นินจา 300 อาจช่วยให้ชินกับรถที่เร็ว และน้ำหนักที่มากขึ้น แต่ถ้าเอาพื้นฐานจริงๆก็ต้องแฟนท่อมนี่แหละ
ก่อนตัดสินใจถอยคันนี้ผมก็ค่อนข้างลังเล เพราะตัดสินใจซื้อสดและต้องเลือกให้ดีเพราะการใช้งานรอบนี้
จะเน้นออกทริปเดินทางไกลเป็นหลัก ใช้กันยาวๆไปเลย

ตัวเลือกอื่นๆในสายครุยเซอร์นอกจาก bolt-r เท่าที่ดูไว้ก็มีตามนี้
iron 883 / vulcan900 / c50 / rebel500

อีกใจนึงก็แอบเหล่สายทัวริ่ง ซึ่งตอนนั้นดูไว้แค่สองตัว
cb500x / versys650

แต่สุดท้าย ใจมันไปทางครุยเซอร์มากกว่า แต่การเลือกของผมคราวนี้ใช้เหตุผลเข้ามาร่วมพิจารณามากพอสมควร
เหตุผลในการเลือกของผมคือ
1.ล้อแม็กปะยางง่าย
2.ไม่มีหม้อน้ำให้จุกจิก
3.ท่านั่งไม่เมื่อยมากเกินไป
4.ค่าเซอร์วิสพอรับได้
5.มีเบรคเอบีเอส

iron 883 ตัดออกด้วยลักษณะท่านั่ง และแอบเกรงค่าเซอร์วิส
vulcan900 ตัดออกด้วยเหตุผลหลักเลยคือคาวาเลิกขาย
c50 ตัดออกด้วยล้อที่เป็นซี่ลวด และไม่มีเอบีเอส
rebel500 ตัดออกเพราะกำลังเครื่องน้อย และตอนไปดูตัวจริงรู้สึกว่ารถมันดูป้อมๆไปหน่อย

bolt r จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในตอนนั้น
สุดท้ายก็ตัดสินใจจอง แต่แอบเซ็งนิดๆตรงที่สีมีให้เลือกน้อยไปคือเทากับน้ำเงิน ใจตอนนั้นอยากได้สีแดง
แต่สีแดงเป็นของปีเก่า จะขอสลับสีกับทางศูนย์แล้วแต่ศูนย์บอกว่าทำไม่ได้เลยตัดสินใจเลือกสีน้ำเงินมา
หลังจากจองและมัดจำ สองสัปดาห์ศูนย์ก็โทรเรียกให้ไปรับรถ พอได้รถก็สั่งของแต่งเลยเพื่อเตรียมไปทริป
โดยของที่สั่งทางศูนย์ไปก็มีกระเป๋าข้างกับพนักพิงหลังแบบสูง เลือกพนักพิงแบบสูงเพราะเผื่อเอาไว้มัดของ
ส่วนท่อแต่งผมไปจอง akrapovic เอาไว้ ที่เลือกยี่ห้อนี้ด้วยเหตุผลคือเสียงที่เงียบ ไปไหนก็ไม่มีปัญหา
ระหว่างที่รอของแต่งก็ต้องเอารถไปขี่ทดสอบใช้งานในชีวิตจริงกันก่อน สิ่งที่พบว่าต่างจากคันที่ขี่มาก่อนหน้า
อันดับแรกเลยคือน้ำหนักรถที่มากถึง 250 กก. เวลาเลี้ยวถ้าแรงส่งไม่ดีมีล้มแปะเอาง่ายๆ ช่วงแรกที่ปรับตัว
มีเหวอๆไปเหมือนกัน ต่อมาคือโช๊คหลังค่อนข้างแข็ง ส่วนโช๊คหน้าระยะยุบตัวมากเกินไปลงหลุมแรงๆมียัน
และเบรคเอบีเอสที่ต่างจากนินจา 300 ไม่ต้องเหยียบเบรคแรงเท่านินจา300 ระบบเอบีเอสก็ทำงานแล้ว
พอหลังจากครบเดือนก็เริ่มปรับตัวได้ ทริปแรกเป้าหมายหลักคือไปดูประเพณีไหลเรือไฟที่นครพนม

หลังจากได้อุปกรณ์ครบเรียบร้อยทั้งกระเป๋าข้างและท่อแต่ง


ทริปแรก สมุทรปราการ - นครพนม
หลังจากทริปนครพนมจบไป คนซ้อนบอกเลยว่าโช๊คหลังแข็ง ซึ่งก่อนไปนครพนมผมได้นำรถไปเช็คระยะก่อนแล้ว
และให้ช่างปรับโช๊คเพื่อให้นิ่มลงมาอีก เพราะสำหรับผมมันยังกระด้างอยู่แต่ยังพอรับได้ แต่เมื่อคนซ้อนยังว่าแข็ง
ก็เลยต้องเปลี่ยนโช๊คใหม่ ตัวเลือกที่เหมาะสมสุดในตอนนั้น คือ yss

วันเข้าติดตั้งโช๊คหลังที่โรงงาน yss 

พอเปลี่ยนโช๊คเสร็จ ให้คนซ้อนลองเทสต์ผลตอบรับไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากนั้นก็มีทริปตามมาอีกเรื่อยๆ

ทริป สมุทรปราการ-หมู่บ้านอีต่อง(ไม่ได้ลงเหมืองแร่สมศักดิ์)
ชึ่งทริปลงอีต่องได้ลองโช๊คใหม่กันจนตูดระบมไปเลย
และปิดท้ายก่อนตั้งกระทู้นี้ ด้วยทริปตะลอนแม่ฮ่องสอนและเชียงใหม่

ทริป สมุทรปราการ-แม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่

ในส่วนที่ชอบรถคันนี้

1.ค่าเซอร์วิสแพงกว่านินจา 300 ไม่เท่าไหร่
2.บิดติดมือมากขึ้น วิ่งทางไกลๆไม่ต้องเค้น
3.ด้วยตัวรถที่น้ำหนักมาก เจอลมปะทะรู้สึกมั่นคง
4.เติม E20 ได้ ก็เซฟค่าน้ำมันได้เยอะ ผมเติมตั้งแต่ออกจากศูนย์มาเลย
5.การซดน้ำมันอยู่ที่ 16 กม./ลิตร ผมค่อนข้างพอใจเพราะขนาดเครื่องที่ใหญ่(950 ซีซี) ไม่มีตัวช่วยตัดลมปะทะ และต้องแบกน้ำหนักรวมที่ 350 กก.
6.โหมดเตือนน้ำมันหมด นอกจากไฟเตือนแล้วจะมีระยะบอกด้วยว่าตั้งแต่น้ำมันต่ำ รถวิ่งได้ระยะทางไปเท่าไหร่แล้ว

ในส่วนข้อติของตัวรถ
1.ปัญหาโช๊คหน้าหลังตามที่กล่าวไว้ข้างต้น
2.โหมดเตือนน้ำมันหมด เมื่อเติมน้ำมันกลับเข้าไปไม่ว่าจะเติมแค่ให้พ้นระดับน้ำมันต่ำหรือเติมเต็มถัง โหมดนี้จะดับแค่ไฟเตือนแต่ระยะทางที่นับยังไปต่อเราต้องกดเซ็ทเพื่อลบไป
3.ตำแหน่งเครื่องอยู่ใต้เบาะ ทำให้ไม่เหมาะถ้าจะขี่เข้าไปในเขตที่รถติดเพราะจะร้อนมาก ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้การใส่กางเกงยีนส์ขายาวก็พอช่วยได้บ้าง

ข้ออธิบายเพิ่มเติมในส่วนอื่นๆและปัญหาที่พบเจอ

กระเป๋าข้างที่เบิกศูนย์มา ภายนอกดูเหมือนใหญ่แต่จุได้น้อยเพราะด้านในเว้าเข้าไม่คุ้มกับราคา
จากรูปรองเท้าเบอร์ 42 ข้างเดียวก็เกือบเต็มแล้ว


กระเป๋าข้างจุดยึดดูแน่นหนาแข็งแรงมาก

สายเบรคแตกน้ำมันรั่วซึม ทางศูนย์เปลี่ยนสายให้ใหม่และเปลี่ยนชื้นส่วนที่โดนน้ำมันเบรคให้ทั้งหมด
และทุกอย่างไม่มีค่าใช้จ่ายยกเว้นค่าแท็กซี่วันไปรับรถกลับ

จุดที่แตกคือตรงที่วงไว้ตามภาพเลยครับ (หาภาพใกล้เคียงที่สุดจากเน็ต เพราะของจริงไม่ได้ถ่ายเอาไว้)

น้ำมันเบรคที่ไหลลงมา ทางศูนย์บอกว่าผมโดนเคสแรกเลย


น้ำมันเครื่องที่เปลี่ยนไปสองรอบ รอบแรกเป็น putoline รอบสองเป็น motul เทียบกันสองตัว ยี่ห้อแรกโอกว่า เกียร์แข็งช้ากว่า
ซึ่งราคาทั้งสองตัวเท่ากันที่ 680 บาท/ลิตร เปลี่ยนรอบนึงใช้ทั้งหมดคือ 4 ลิตร



***แล้วพบกันอีกครั้ง ตอนโดนจัดหนักเรื่องอะไหล่สิ้นเปลืองและการเช็คใหญ่ครับ***
ชื่อสินค้า:   YAMAHA Bolt R spec
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่