สวัสดี เราจะมาแชร์ประสบการณ์การเรียนภาษาที่ฟิลิปปินส์  เมืองบาเกียว กับสถาบันไพนส์

แนะนำตัวก่อน!! เราอายุ  25 ปี ประสบการณ์ทำงานสองปีอารมณ์เหมือนเด็กจบใหม่ทั่วๆไป  เราตัดสินใจมาที่นี่เพราะเราทำงานแล้วภาษาเราแย่มากพูดแทบจะไม่ได้เลยไม่ใช่งูๆปลาๆนะแต่มันคืองูครึ่งตัว  ฮ่าาาาา
ปล.เราจบการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ ทำงานเกี่ยวกับการขนส่ง

เรามาที่นี่ 6 เดือน (มีนาคม - สิงหาคม 2019) ตอนนี้ยังเรียนอยู่จ้า

สถาบัน : http://pinesacademy.com/  เมืองบาเกียว ภาคเหนือของฟิลิปปินส์  https://www.facebook.com/pinesschool/
สถาบันในเครือ http://cebublueocean.com/  เกาะเซบู เมืองท่องเที่ยวของฟิลิปปินส์ https://www.facebook.com/cebublueocean/

ทำไม? ทำไมเลือที่นี่ ทำไมเลือกไพน์ บลาาาาาา??!!
มากมายหลายคำถามที่ถามว่าทำไมเลือกที่นี่ ไม่มีไรมากแค่ค่ายใช้จ่าถูกคือคิดแค่นี้ตอนนั้นเพราะถ้าไปประเทศอื่นเราคงจ่ายไม่ไหวเพราะเราไม่มีคนช่วยจ่าย ฮ่าาาา  แต่มันก็ไม่ใช่เหตุผลที่เราเลือกที่นี่ซะทีเดียว เราคิดว่าการเรียนที่ฟิลิปปินส์มันก็ทำให้เราได้ใช้ภาษาอังกฤษได้เหมือนกันแล้วทำไมเราต้องจ่ายเงินเยอะๆเพื่อไปอเมริกาจะดีกว่าไหมถ้าเราเก็บเงินส่วนนั้นไว้ใช้จ่ายเมื่อเราต้องหางานใหม่ โอเค!! นั้นคือความคิดเห็นส่วนหนึ่งของเราใครมีคำถามเพิ่มเติมก็ส่งมาถามได้เลย สำหรับทำไมเลือกที่นี่น่ะหรอ เพราะที่นี่มีชื่อเสียงด้านการสอน ห้องพักสะอาดและเป็นสัดส่วน สิ่งอำนวยความสะดวกครบ นักเรียนส่วนใหญ่เป็นชาติญี่ปุ่น เกาหลี ใต้หวัน ซะส่วนใหญ่ ไทยน้อยมาก และมันคือข้อดีของเราพูดไม่ได้ก็ต้องพูด ไปค่ะไปฟิลิปปินส์กันนน!!


ห้องพักแบบ 4 คน และ 6 คน ห้องพักจะมีแม่บ้านทำความสะอาดให้สัปดาห์ละสองครั้ง และเปลี่ยนผ้าปูให้ทุกๆเดือนค่ะ


เมืองบาเกียว ฟิลิปปินส์
หลายคนคงรู้จักแต่นักมวยชื่อปาเกียว ฮ่าาา ปาเกียวเขาไม่ได้อยู่บาเกียวนะแค่ชื่อคล้ายๆน่ะ  เมืองนี้ตั้งอยู่บนภูเขาสูงเหมือนลำปางหรือลำพูนของบ้านเรา อากาศดีมากหนาวทั้งปีไม่ต้องกลัวร้อนอากาศร้อนสุด20องศากว่าๆ  และฝนตกช่วงมิถุนายนถึงกันยายน เป็นเมืองไม่ใหญ่มากแต่เป็นย่านเศรษฐกิจของเขา มีสถาบันสอนภาษามากมายที่นี่
ปล.ที่นี่ค่อนข้างปลอดภัยกว่าที่อื่นเพราะคนไม่วุ่นวายมากเหมือนมะนิลาและสถาบันมีการเช็คชื่อเข้าออกทุกวันจ้า

การเดินทาง
ที่บาเกียวไม่มีแอร์พอร์ตเด้อ ต้องนั่งรถบัสจากมะนิลาประมาณ 5-6  ชั่วโมง ใครที่ชอบอเวนเจอร์หน่อยก็น่าจะถูกใจ

เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องการสอนเพราะสำเนียงอเมริกันมากที่สุดและมีสถาบันสอนภาษาที่นี่มากมาย เนื่องจากสิ่งแวดล้อมที่นี่ค่อยข้างดีกว่าที่อื่นๆไม่ว่าจะเป็นอากาศหรือตัวเมืองที่เหมาะแก่การเรียน สถาบันตั้งห่างจากตัวเมืองราว 3 กิโล คุณสามารถจะนั่งแท็กซี่หรือจิบนี่ก็สะดวก  หรืออาจจะใช้แกรปก็ได้จ้า  


เราถึงสถาบันตอนตีหนึ่งกว่าๆ ไม่ต้องถามว่าเหนื่อยไหมหมดแรงจ้า  เราได้รูมเมทเป็นคนใต้หวันและมันคือครั้งแรกที่เราอยู่ร่วมกับเพื่อนต่างชาติมันทำให้เราเกร็งๆนิดหนึ่งกลัวทำตัวไม่ถูกและเข้ากับเพื่อนไม่ได้ แต่ก็ผ่านไปด้วยดี วันแรกที่นี่ไม่ได้ทำไรมากปฐมนิเทศแนะนำสถาบันและสอบวัดระดับภาษา ที่นี่มีเด็กไทยแค่สองคนรวมเราแล้วแต่เรายังไม่เจอเพื่อน ฮ่าาาาา เพื่อนหนูอยู่ไหนนนน! วันแรกที่นี่ฟังใครไม่รู้เรื่องเลยทั้งครูทั้งเพื่อนสำเนียงแต่ละคนฟังยากมากและงงงวยทั้งวัน  เปิดมือถือแปลทั้งวันจ้าแปลวนไปๆๆๆ 


เรามาดูการสอนกันดีกว่า ที่นี่มีหลายคอร์สให้เลือกเรียนอยู่ที่เราอยากเน้นทักษะด้านไหน มีจุดมุ่งหมายอะไร เรียนเพื่ออะไร ดังนั้นเวลาเรียนแต่ละคนจะแตกต่างกัน มีทั้งคาบเดี่ยวและคาบกลุ่มซึ่งส่วนใหญ่กลุ่มเล็กๆ การสอนของครูที่นี่แบบตัวต่อตัวเขาจะเป็นกันเองมากซึ่งการเรียนแบบนี้มันช่วยให้เราได้พูดภาษาอังกฤษมากขึ้น อยากรู้อะไรเราสามารถถามเขาได้เลยครูใจดีมากๆ ไม่ต้องนึกภาพตอนเราเรียนนะเปิดมือถือแปลต่อไปปปปฟังไม่รู้เรื่อง
สำหรับคาบกลุ่มเรียนสนุกมากครูเขาจะมีหัวข้อต่างๆมาให้พูดคุยกับเพื่อน แสดงความคิดเห็นเมื่อเราพูดผิดตรงไหนครูจะช่วยแก้ให้ทันที มันทำให้เราสนุกกับการเรียน สนุกกับเพื่อนและครู ทางสถาบันมีวิชาเลือกให้ด้วยนะใครที่ชอบเรียนหนักๆ จัดไปจ้าเรียนจนเบื่อกันไปข้างเลย ตั้งแต่ 6 เช้าถึง 4ทุ่ม ยาวไปๆๆ วิชาเลือกก็จะมี คำศัพท์ที่สำคัญ ดูหนังภาษาอังกฤษ กีต้าร์ ภาษาอังกฤษเพื่อสมัครงาน 

รูปจากเพจ Pines International Academy:Best English as a Second Language School 

หลักสูตรของเราคือ Intensive ESL เราจะได้เรียนแบบตัวต่อตัว 5 คาบ กลุ่ม 2 คาบและวิชาเลือก รายละเอียดสอบถามเพิ่มเติมกับทางสถาบันได้โดยตรงเลยเพราะมีเว็ปไซส์ภาษาไทย เราเรียนที่นี่มันบังคับให้ใช้ภาษาอังกฤษทุกวัน ฮ่าาา ไม่มีคนพูดภาษาไทยด้วยมันทำให้เราได้ฝึกฝนการพูดไปในตัว และที่บอกว่าสำเนียงคนญี่ปุ่นฟังยากมาที่นี่ก็จะได้เรียนรู้สำเนียงเพื่อนๆจากหลายประเทศเลยล่ะค่ะ ส่วนครูที่นี่ใจดีและเป็นกันเองมาก ไม่เกร็ง บางครั้งเป็นเหมือนเพื่อนไปเลย อยากรู้อะไรก็ถามได้ตลอด หรือหากต้องการอะไรเพิ่มเราก็สามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของสถาบันได้เลย และที่นี่จะแบ่งนักเรียนเป็นระดับเลเวลและมีการสอบทุกๆ เทอมเพื่อวัดผลและเลื่อนระดับเลเวล นักเรียนที่มีระดับ เริ่มต้น - 5N จะเรียนที่สถาบันหลัก(Main Campus) ส่วนนักเรียนที่มีระดับเลเวลสูงขึ้นไปหรือนักเรียนที่ลงเรียนโทอิค ไอเอลล์ จะเรียนอีกที่เป็นวิทยาลัยเขตของสถาบัน (Chapis) 

ปล.ใครที่ชอบพูดชอบคุยอยากมีเพื่อนเยอะๆ แนะนำลงหลักสูตร Power ESL เพราะจะมีคาบเรียนกลุ่มเยอะกว่า กลุ่ม 4 คน 4 คาบ และค่าบตัวต่อตัว 4 คาบ

เราอยู่ที่นี่มาสามเดือนแล้ว รู้สึกว่าเราสามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้มากขึ้น ไม่กลัวหรืออายที่จะพูดเหมือนเมื่อก่อน ฟังรู้เรื่องมากขึ้น กล้าถาม กล้าแสดงความคิดเห็น ถึงแม้ว่ามันจะผิดแกรมม่าไปบ้างก็ตาม อาจารย์เขาก็จะคอยแก้ให้ตลอด แฮ่ๆ เรามีความสุขกับการได้มาที่นี่และหลงรักที่นี่ไปแล้วล่ะ ถึงแม้ว่าบางอย่างจะยังไม่ความสะดวกสบายเท่าบ้านเรา แต่กลับรู้สึกสบายใจและสนุกไปกับเพื่อนๆ
ห้องเรียนภายในสถาบัน
ห้องเรียนเดี่ยว คาบตัวต่อตัว

นอกจากการเรียนแล้วแน่นอนว่าจะไปไหนทำอะไรต้องใช้ภาษาอังกฤษตลอดชอบสุดตรงที่แท๊กซี่เขาพูดภาษาได้มันทำให้เราเห็นหลายๆมุมมองที่ๆไม่เคยเห็นมาก่อน  มาถึงเรื่องเพื่อนกันหน่อยเราประทับใจที่สุด เรามีเพื่อนเยอะมากๆโดยเฉพาะใต้หวันและญี่ปุ่น ทุกๆวันหยุดสุดสัปดาห์เราจะออกไปเที่ยวกับเพื่อน ชายหาด เดินเขา เดินป่า ดูพระอาทิตย์ขึ้น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ บลาาาาาา เพื่อนๆที่นี่หลากหลายอายุแต่ไม่ต้องไปคิดมากทุกคนคือเพื่อน ทุกๆสองสัปดาห์จะมีนักเรียนจบการศึกษาและกลับประเทศ ร้องไห้ตามเพื่อนวนไป งื้ออออออ ไม่ชอบสถานการณ์แบบนี้เลย และมีเพื่อนใหม่มาแบบนี้วนไปๆๆ ค่ะเราต้องสร้างเพื่อนใหม่ตลอดเวลานั้นคือเหตุผลทำไมมีเพื่อนเยอะ ฮ่าาาา (สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวเราจะเขียนอีกพาร์ทนะ)

เพื่อนๆของเราเอง มีหลายประเทศเลยนะ ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ใต้หวัน เวียดนาม

เราก็ฝากถึงคนที่กำลังมองหาที่เรียนภาษาอังกฤษราคาไม่สูงและได้ใช้ภาษาอังกฤษทุกวัน แนะนำสถาบันไพส์เป็นอีกตัวเลือก เพราะเรามาที่นี่ได้มากกว่าการเรียนภาษาจริงๆ

**ฝากติดตามพาร์ทต่อๆไปด้วยนะคะ เราจะเขียนเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองบาเกียวและรายละเอียดเกี่ยวกับสถาบันเพิ่มเติม