ผมควรไปหาหมอไหมครับ (ซึมเศร้า)

คือผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้าครับ
ผมเป็นนักเรียนมหาลัยนี้เเหละครับผมเป็นคนขี้กลัว มากๆ
กลัวอะไรไปหมด สุดท้ายจนตัวเองกลายเป็นคนไม่กล้าจะทำอะไรใหม่ๆ
เเต่เวลาพูดหน้าชั้นอะไรพวกนี้ผมทำได้นะครับเเต่กลัวจนพูดกระตุก
บ้านผมค่อยข้างจนครับเพราะพ่อผมเป็นนี้มากเเบบ มากๆเลย
ผมมาเรียนเพราะ ทุน กยศ. ครับเลยผ่านมาได้ตลอดๆ 
ช่วงเรียนมหาลัยมันเหนื่อยมากครับมันเหนื่อยเเบบเหนื่อยมากๆ 
กับต้องคิดว่าเงิน ที่ได้ในเเต่ละวันจะกินอะไรน้ำเท่าไหร่ข้าวเท่าไหร่ครับ
เเต่ผมก็ดีใจที่มีเพื่อนมีช่วยเหลืออยู่บ้าง
เข้าเรื่องดีกว่าครับ อยู่ๆ ตอนนี้ก่อนเข้ามหาลัยครับหลายปีมาก ครับ ก่อนเข้ามหาลัย (ตอนนี้อยู่ ปี 3)
บ้านผมเป็นบ้านที่ครอบครัวไม่ค่อยอบอุ่นครับ
ผมก็เข้าใขนะครับว่าครอบครัวเราเป็นเเบบนี้เขา
พ่อเเม่ผมทะเลาะกันตลอดครับ ตลอดเเบบข้างบ้านได้ยินเลย
ผมมีความใฝ่ผันอยากเป็น พ่อครัวครับเเต่ด้วยสภาพครอบครัวที่ไม่ดี
ผมเลยต้องจบความฝันของตัวเองเเล้วค่อยทำเป็นงานอดิเรก (ซึ้งตอนนี้หมดไฟในการทำเเล้วละครับ)
ผมเลยจำใจหางานสายข้าราชการหรือเงินเดือนดีๆครับเพื่อจะได้ช่วยครอบครัว
ผมเลยเสียใจมากๆเพราะเมื่อก่อนสายพ่อครัวอะไรพวกนี้ยังไม่บูมเท่าตอนนี้
ซึ่งผมก็ไม่ถนัดสายพวกนี้ผมเลยกลั้นใจเรียนไปไม่อยากติดเอฟเพราะ
ต้องเสียเงินลงซัมเมอร์อีกครับเป็นภาระครอบครัว ช่วงเรียนผมเครียดมากครับ
เรื่องบ้าน เรื่องเงิน เรื่องเรียน มากมายอยู่ในหัวผม
ผมลองให้คำเเนะนำทางบ้านหลายอย่างมาก ทั้งอย่าเอาไปทำนู้นนะ นี้นะ 
เเต่เขาก็ไม่ฟังเขาไปฟังเเต่พี่สาวผม ทั้งบ้านไม่ฟังอะไรผมเลย
วันหนึ่งผมอยากระบายบ้างผมเลยไปเหล่าว่าเหนื่อยมากเลยเครียดมากด้วย
เเล้วทั้งบ้านก็สวนมาเลยว่านี้ก็เหนื่อยเหมือนกันหาเงินมาเนี่ยยยย
ผมก็ช๊อด....ผมเเค่ต้องการคำเเนะนำคำให้กำลังใจต่างๆเเค่นั้นผมคงมีเเรงฮึด
เเต่นี้ยิ่งทำให้ผมท้อเเท้เเบบคิดว่าตัวเองเป็นตัวถ่วงของบ้าน
เขาหาเงินมาให้เรา เขาคงลำบากมาก ตอนนั้นผมเริ่มคิดได้ละว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้าเเน่ๆ
เเต่ผมก็ไม่คิดอะไรมากเเค่คิดไปเองเเหละมั้ง จนกระทั่งเข้าปี 2 ผมกลายเป็นคนที่ขาดเรียนบ่อย
เเบบบ่อยมากๆ ตอนนั้นตัวเองคิดว่าเเค่เหนื่อยเเหละมั้ง 
เเต่มันไม่ใช่ มันเหมือนกับว่าไม่มีเเรงไปไหนนอนเข้าห้องน้ำก็เหนื่อยเเล้ว
เเบบไม่มีเเรงทำอะไรเลยเเต่เวลาเจอเพื่อนผมต้องทำตัวปกติเข้าไว้
การเรียนตอนนั้นต่ำลงมาก ทางบ้านผมก็ว่าผมว่าไม่ตั้งใจเรียน
อ่านหนังสือไม่พอ อะไรมั้งเยอะเเยะมากมาย
ในหัวผมตอนกลับบ้านคืออยากหายไปอยากไปนั่งโง่ๆที่หอตัวเอง ห้องตัวเอง
ไม่มีเเรงอำอะไรอยากหายไปจากโลกนี้ อยากตาย...
อยากพูดอะไรที่บ้านก็ไม่ฟัง เขาไม่เคยรับอะไรจากผมเลยเข้าได้เเต่ให้ผมรับมันไว้
ตอนนั้นผมรู้ตัวเเล้วว่าเป็นโรคซึมเศร้าจริงๆ เเต่ผมไม่มีเงินไปหาหมอ ขนาดรถผมยังไม่มีเลย
ผมเลยได้เก็บเรื่องเเบบนี้เอาไว้เเล้วยิ้มสู้มัน เเต่มันไม่มีอะไรดีขึ้นเลย
มันเเย่ ยิ่งกว่าเดิมเสียอีก ไม่กลายเป็นคนไม่ยุ่งกับคนอื่นไปเลย
เรียนเสร็จผมจะรีบกลับหอ เพื่อกลับไปร้องไห้หรือนั่งเฉยๆ
นอนผมก็นอนไม่หลับ หลับคือเหนื่อยเเล้วหลับไปเอง ประมาณ 7-8 โมงเช้า
ผมนอนน้อยลงเรื่อยๆ สัก 2 3 ชั่วโมงเเล้วตื่นไปเรียน
จนผมได้กลับมาบ้านอันเเสนไม่น่าอยู่อีกครั้งหนึ่ง....
มันก็เหมือนเดิมทุกอย่าง หลายคนคิดว่าทำไมไม่คิดบวก
ผมคิดมากๆเลยนะ ปกติผมเป็นคนตลกเลยทำได้
เเต่มันจะมีจุดๆหนึ่ง ที่เราคิดไม่ออกถึงสิ่งที่ทำให้มีความสุข
จนกระทั่งตอนปิดเทอมนี้ยิ่งไม่มีเเรงทำอะไรไม่มีเเรงทำอะไรเลยครับ
ออกมาช่วยทางบ้านด้วยสภาพที่คิดไปเสมอเเบบ อยากหายไป อยากหายไปๆๆๆๆ
เเต่เรื่องจะไปหาหมอผมยังไม่ได้บอกทางบ้านนะครับเพราะเขาไม่ค่อยฟังอะไรผม
ตอนนี้ผมปิดเทอมอยู่เเต่ผมคิดว่าตอนเปิดเทอม ผมจะเเอบไปหาหมอเอง
เเต่ผมไม่รู้ค่าใช้จ่ายมัน เเต่ผมคงต้องไปเเล้วละถ้าไม่ไปมันต้องเเย่ถึงขั้นสุดเเน่ๆ

.....ขอบคุณที่มาอ่านเรื่องของคนบ้าๆคนหนึ่งครับขอบคุณครับ 
ปล.เขียนผิดอะไรขออภัยด้วยนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่