ขอเกริ่นก่อนนะ ..ตอนนี้เราและและแฟนเรียนจบหมาดๆ และพึ่งทำงานเริ่มต้นชีวิจวัยทำงานจริงๆจังๆ ..

หึๆชีวิตของพนักงานที่ยังไม่ผ่านโปรนั้นเป็นอย่างงี้นี่เอง พึ่งเริ่มเองนะแต่ไฟในการทำงานมันชักจะมอดเร็วเกินไปแล้ว

 เพื่อให้เรามีแรงและกำลังในการทำงานต่อไปได้ !!

เราก็ตกลงกับแฟนว่าเสาร์ อาทิตย์นี้แหละ จะไปเที่ยวกัน อิอิ แค่ 2 วัน ก็เอา อย่างน้อยก็ได้เที่ยวแหละวะ

ป้ะ ! ไปกาญจนบุรีกัน ถึงแม้รอบนี้จะเป็นรอบที่ 4 แล้วนะ แต่ก็คิดว่ามันเป็นเส้นทางที่ง่ายและสวยงามที่สุดแล้ว

ที่เราจะขับมอเตอร์ไซค์ไปได้แบบใกล้ชิดป่าไม้ ธรรมชาติ ไม่มีรถบรรทุกเยอะ และที่สำคัญคือ ไม่แพงมากเกินไป

พอตกลงกันได้ ก็ทำการหาที่พักจองที่พักผ่านทางไลน์จ้า เราตกลงจะไปนอนแพกันที่เขื่อนศรีนครินทร์

เพราะเราเคยไปนอนแพที่ไทรโยคกันมาแล้ว ครั้งนี้เลยอยากหาประสบการณ์ใหม่เพิ่ม และ

พอเรามาเจอรีสอร์ตนี้ชื่อ heaven bay resort เราก็สะดุดตาทันทีกับโปรโมชั่นนี้ 

ใช่แล้ว ถูกมาก คุ้มมากเลย เลยทำการสอบถามไปจ้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ตอบคำถามดีค่ะ เขาบอกว่าวันเสาร์จะราคา 1300 บาทต่อคน

วันธรรมดาจะ 990 บาท ราคานี้รวมแพพักห้องพัดลม.. ก็กลัวจะร้อนนะ แต่เอาเข้าจริง เฮ้ย ! อาจจะเพราะอยู่กับน้ำ

น่าจะมีลมพัดโชยตลอดนะ ตอนกลางคืนก็คงชิลล์ไปอีก ไป 2 คนก็คงจะเงียบๆ โรแมนติคๆ หน่อย555

ที่นี่เขารวมล่องแพเปียก อาหาร เย็น ดึก(ข้าวต้ม) และเช้า รวมเครื่องเล่นกิจกรรมทางน้ำทุกอย่าง

ที่ไม่ใช้นำมันแล้วด้วยอ่ะนะ เราเลยโอเคเซย์เยสส ทำการจองแล้วโอนมัดจำไปครึ่งนึง

จากกนั้นก็เรียบร้อย ถึงวันออกเดินทาง ป้ะ เก็บเป๋า ลุย !!

เราออกเดินทางจากรังสิต กันช่วงสายค่ะ ประมาณ 11 โมง เพราะตื่นสาย ครั้งนี้ก็เดินทางด้วยรถมอไซค์คู่ใจ

Honda click 125i ที่รับมรดกต่อมาจากหม่อมแม่เช่นเคย 55 เปิด Gps ปักหมุดขับรถมุ่งหน้าไปที่พักเลย

เส้นทางที่ใช้คือ รังสิต บางใหญ่ บางเลน กำแพงแสน พระแท่น พนมทวน และเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี

ใช้เวลาประมาณ 3 ชม. เพราะแดดร้อนมากเลยต้อง พักรถกินกาแฟ เติมน้ำมัน เข้า7-11บ่อย

พอถึงตัวเมืองกาญแล้วจากนั้นก็มุ่งหน้าสู่อำเภอศรีสวัสดิ์ต่อเลยจ้า ลืมบอกว่า

ให้ตั้งพิกัด ไปที่ เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท เพราะการเช็คอิน เราจะไปเช็คอินกันที่เลค เฮฟเว่นค่ะ

แล้วนั่งเรือข้ามไปยัง Heaven Bay Resort ค่ะ นั่ง  นาทีถึง สบายๆค่ะ

เส้นทางที่เราขับไปที่เขื่อนศรีนครินทร์ จะผ่านอุทยานแห่งชาติเอราวัณ น้ำตกขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 7 ชั้น มีความสวยงามทางธรรมชาติถ้าใครมีรถยนต์มากับครอบครัว

อยากพาเด็กๆเล่นน้ำตกก่อนก็ได้นะคะ หรือจะไว้ค่อยกลับลงมาเที่ยวก็ได้

แต่เราเคยเที่ยวที่น้ำตกแล้วที่เคยเขียนไว้ในกระทู้นี้จ้าใครจะตามรอยไปอ่านดูนะ https://ppantip.com/topic/36865862

รอบนี้เลยขอไปที่เขื่อนเลยละกัน เนอะ

ถึงละจ้า ร้อนมากจ้า เหนื่อยมาก เมาลมมาตลอดทาง 555 จอดรถฝากกับพี่เจ้าหน้าที่แล้วต้องเดินตรงลงไป

ที่เคาน์เตอร์ของ Lake Heaven เพื่อทำการเช็คอิน

เช็คอินแล้วก็รอนะคะจะมีเรือพาเราข้ามไปยัง Heaven Bay Resort ใช้เวลาข้ามเพียง 5 นาทีเท่านั้น เรือจะมีเป็นรอบๆ นะคะ

ตอนที่เราไปพัก ตารางเรือเป็นแบบนี้จ้า ยังไงก็แนะนำว่าพอจองที่พักแล้วให้เช็คเวลากับทางรีสอร์ทช่วงนั้นๆให้ดีน๊า

อาจมีเปลี่ยนแปลงได้  (ปล.เรายืมภาพมาจากที่รีสอร์ทส่งให้เรานะคะ)

เรือมาแล้วจ้า ขนของขึ้นเรือไปให้หมด ห้ามลืมนะคะ เราโชคดีมาทันได้ขึ้นเรือรอบ 15.00 น. นะคะ

จากนั้น 5 นาทีต่อมา ถึงแล้วจ้า เกาะเฮฟเว่นเบย์

หลังจากติดต่อที่เคาน์เตอร์ของ Heaven Bay เพื่อรับกุญแจห้องพักจะมีเจ้าหน้าที่อธิบายกฎระเบียบของการเข้าพัก

และการลงเล่นน้ำซึ่งใช้เวลายาวนานในการอธิบาย แต่เอาเหอะ เพื่อความปลอดภัยต่อเราเอง ก็ฟังๆ และปฎิบัติตามนะคะ

อาจดูน่าเบื่อไปหน่อย และจริงจรังมากไปนิด จนทำลายบรรยากาศความเป็นมิตร

ในการต้อนรับไป เสร็จแล้ว เราก็ไปที่ห้องพักได้เลยย

ทางเดินไปห้องพัก สวยดีนะคะ

ถึงห้องพักแล้วค่ะ มาถึงก็ตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศรอบๆ ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติมากๆ เหมือนอยู่ท่ามกลางขุนเขาที่แท้จริง ในห้องพักก็สวยดีค่ะ แต่ติดที่ไม่มีแอร์ อากาศมันร้อน 55 ส่วนของห้องพักก็สะอาด ที่พักแต่ละหลังมีห้องน้ำในตัว มีทุกอย่างไว้บริการครบถ้วน และทุกห้องจะมีชานยื่นออกมาให้ได้สัมผัสลมเย็นจากธรรมชาติได้เต็มปอด มีเก้าอี้นั่งไว้ชมวิวธรรมชาติแบบเต็มตา ฟินๆ

ห้องน้ำก็โอเคนะคะ แต่วันที่เราไปพัก ประตูกระจกมันดันเสีย ปิดไม่อยู่  (ตู้อาบน้ำค่อนข้างแคบ)เลยเซ็งหน่อยๆ เพราะอาบน้ำแล้วมันกระเด็นออกมา

เปลี่ยนชุดแล้วลงเล่นน้ำเลยจ้า เวลามีไม่มากแล้ว เพราะเรามาถึงช้านะคะ เราต้องรีบไปเล่นน้ำแล้วค่ะ ที่นี่มีกฎคือห้ามใส่เสื้อผ้าที่มีกระดุมหรือซิป เพราะอาจไปทำให้เครื่องเล่นเสียหาย เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินไปรับเสื้อขูชีพที่เคาน์เตอร์ ถ้าใครต้องการพายเรือคายัค ก็ขอรับไม้พายที่เคาน์เตอร์ได้ แต่มีมัดจำไม้ละ 100 บาทด้วยนะ 

ถ่ายมาให้ชม สไลเดอร์น้ำ ม้าโยกน้ำ และเครื่องเล่นอื่นๆ มีเยอะดี แต่เราเองไม่กล้าเล่น คนส่วนมากที่มาวันนี้ก็ไม่ค่อยเล่นกัน มันสูงมากเลย 55 เลยลงไปว่ายๆน้ำเฉยๆรอไปล่องแพเปียก ค่ะ ทางรีสอร์ทก็มีเรือแคนนูไว้บริการ พายๆชิวๆ ในโซนสวนน้ำ เรียกได้ว่ากิจกรรมเยอะ เล่นกันจนเหนื่อนจนค่ำไปเลย เอ้อ อีกอย่าง ก่อนเล่นกิจกรรมทางน้ำทุกครั้ง รีสอร์ทบังคัลให้ใส่เสื้อชูชีพนะจ๊ะ เพื่อความปลอดภัยของเราเอง

                                 แล้วก็เครื่องเล่นเป่าลมจะเปิดให้เล่นจนถึงประมาณ 6 โมงเย็นเท่านั้น หรือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ

สำหรับเราก็สนุกดีนะคะ ที่ได้ว่ายน้ำในเขื่อน แต่สำหรับการล่องแพเปียกที่ทางพี่พักบอกไว้ว่ามันส์มาก นี่คือ ไม่จริงเลยค่ะ

ลากไป ปล่อยไว้ แล้วก็ลากกลับ เงียบ ไม่มีแม้แต่เสียงเพลงให้ เลยไม่ค่อยมันส์เท่าไรค่ะ

แต่สำหรับการเล่นน้ำที่หน้าห้องพักก็สนุกดีเพราะไม่เคยทำมาก่อน

จะบอกว่าน้ำลึกมากนะคะ ทุกคนต้องใส่เสื้อชูชีพเท่านั้น แม้จะว่ายน้ำเก่งแค่ไหนก็ตาม เพราะถ้าเกิดเป็นตะคริวหรือเกิดมีอะไรฉุกเฉินขึ้นมา

ถ้าเราไม่ใส่เสื้อชูชีพ เราจะจมลงทันที 

 ตกเย็นมาก็ทานข้าวที่นี่ก็มีอาหารเซ็ตให้ทานค่ะ เป็นต้มยำ  ปลาทอดแล้วก็ไก่ผัดเม็ดมะม่วง

รวมๆก็ดี เพียงแค่อาหารเย็นไปหน่อย เย็นสมกับเวลาจริงๆ55 รสชาติพอใช้ได้ไม่ได้อร่อยอะไรมากมาย

ถึงเวลาพักผ่อนแล้วค่ะ

นอนหลับยากหน่อยเพราะที่บอกว่างดใช้เสียงดังหลังเวลา 22.00 น. เรายังได้ยินเสียงคนร้องเพลงจนตีสองอยู่เลยจ้า

หลับๆตื่นๆ แหะๆ

เช้าวันต่อมาเรารีบเก็บของ เช็คเอ้าท์ กินอาหารเช้า จะเป็นแบบข้าวต้ม ข้าวผัด ไข่ดาว ขนมปังปิ้ง กาแฟ อะไรทำนองนี้

แล้วก็เดินทางกลับค่ะ เพราะกลัวว่าแดดจะร้อนมากกว่านี้ เราออกมาทานข้าวและเช็คเอ้าท์ตอน 8.40 ค่ะ ขึ้นเรือกลับ รอบ 9 โมง

ไม่ได้ถ่ายอาหารให้ดู เพราะทั้งอาหารเย็น เช้า คือมันไม่ค่อยน่าทาน ไม่อร่อยด้วย เลยไม่ถ่ายมานะคะ อาหารเหล่านี้ถูกปรุงมาจากLake Heaven

ข้ามเรือมา ความร้อนนี่หายไปอย่างแน่นอน ทำให้อรรถรสในการทานนี่หายไปเยอะ

เราเดินทางกลับออกมาจากที่พัก แล้วก็ขอแวะถ่ายรูปเท่ๆกับวิวของสันเขื่อนศรีนครินทร์กันหน่อย

จบทริปแล้วจ้าา เดี๋ยวเราจะสรุปรายละเอียดค่าใช้จ่ายคร่าวๆให้นะ

ให้คะแนนกันหน่อย

เครื่องเล่น+ล่องแพ  : 5 เต็ม 10

ห้องพัก : 6 เต็ม 10

พนักงาน/บริการ : 3 เต็ม 10 ควรปรับปรุงนะจ๊ะ

อาหาร : 3 มื้อ ให้ 5 เต็ม 10 

บรรยากาศ : 6 เต็ม 10

ค่าใช้จ่าย

น้ำมัน ไปกลับ 400 บาท

ค่าที่พัก 2,600 บาท

ค่ากินจิปาถะ 875 บาท 

สรุปว่าถ้าจะขับมอไซค์ไปเที่ยวนอนแพที่เขื่อนนี้ เตรียมงบ 4,000 บาท ก็มีเงินทอนนะคะ

อย่าลืมออกไปเที่ยวกันนะ เที่ยวที่ไหนก็ได้ ให้ใจเรามีแรง ใช้ชีวิตให้สนุกนะคะ บ๊ายบาย