[CR] มากินบุฟเฟ่ต์ร้าน ชาบูเร ที่สาขา ลาดพร้าววังหิน จะเป็นไงมาดูกัน

สวัสดีเพื่อน ๆ ชาวพันทิป นะคะ ช่วงนี้ยังคงขยันรีวิวอย่างต่อเนื่อง 
รอบนี้ขอลองรีวิวร้านอาหารละเอียดๆ ดูบ้างค่ะ เพราะจริงๆ ก็เป็นสายกิน 555… อันนี้ตั้งใจถ่ายรูป ตั้งใจเขียนมากกก
ก็ใครว่าร้านไหนดี ร้านไหนเด็ด ก็จะตามไปกิน รอบนี้ก็จัดเลย มากับเพื่อนๆหลายคน
รอบนี้ไปกินบุพเฟ่ที่ร้านชาบูเร Shaburei สาขาลาดพร้าววังหิน 69 มาค่ะ 
หรือถ้าใครไม่รู้ว่าจะมาอย่างไร ก็สังเกตุง่ายๆ คือ ร้านจะอยู่ที่ตลาดวังหิน 71 หรือ ตลาดอัลปาก้า ค่ะ
อันนี้จะเป็นหน้าร้านค่ะ (ถ่ายตอนกลับ) แสงอาจจะมืดไปนิด เพราะไฟหน้าถนนมันสีส้มไม่ค่อยสว่าง
สำหรับร้านนี้จะมีทั้งปิ้งย่างกับชาบูไว้ด้วยกันแล้ว คือบางทีเราไม่ได้อยากทานแค่ชาบูอย่างเดียว
อยากมีฟิลเอากุ้งไปย่างทานบ้าง 5555 แล้วอีกอย่างสาขานี้จะเป็นแบบนั่งกลางแจ้งนะคะ
ที่นั่งก็กว้างขวาง ไม่ต้องนั่ง อัดๆกัน  สำหรับใครที่อยู่แถวลาดพร้าววังหิน ก็น่าจะเคยมาบ้างแล้ว

ที่ร้านจะมีโต๊ะสำหรับนั่งทานอาหารน่าจะประมาณ 15 – 20 โต๊ะ
ข้างๆ รู้สึกจะเป็นตลาดวินเทจนะกำลังแต่งอยู่ ร้านนี้จะเปิดตั้งแต่เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป 
คือใครมาเร็ว ก็จะได้โต๊ะดีทำเลเหมาะสำหรับเดินไปตักอาหารไรงี้ ต้องลองดูนะคะ
หลังจากเดินเข้ามาในร้านแล้วก็เลือกโต๊ะเรียบร้อย ต้องเลือกว่าจะทานเป็นแบบไหน เพราะมันจะมีหลายแบบ
ทั้งแบบ 199.- คือทานแบบออริจินอลไม่มีซีฟู้ด มีหมู มีเนื้อ ไรงี้ แล้วก็เพิ่มน้ำรีฟิว 39.-
กับอีกอันหนึ่งจะราคา 399.- อันนี้จะมีซีฟู้ด แล้วก็พวกเนื้อนอก อันนี้จะรวมน้ำรีฟิวแล้ว
ส่วนใครอยากกินแบบเผาๆ ปิ้ง ๆ อย่างที่บอกก็คือ สามารถเพิ่มเตาได้  100บาท
และครั้งนี้ เลือกทาน แบบ ราคา 399.-  ค่ะ  แล้วพอแจ้งพนักงานแล้ว ก็ไปตักอาหารได้เลย
โซนอาหารทะเล จะมี ปูทะเล ปูดำ หอยแมลงภู่ หอยเชลล์ หอยนางรมปลาหมึก อย่างที่เห็นตามภาพ ส่วนพวกเนื้อนอก
ก็สั่งพนักงานเพิ่มได้ จะเป็นพวก “เนื้อวัวแองกัส” “เนื้อริบอาย” และ“กุ้งแม่น้ำ” ค่ะ
อันนี้คือกุ้งแม่น้ำ ไซร์ใหญ่ สด โอเคอยู่
ต่อมาก็จะเป็นพวกปู ก็มีหลายประเภทอยู่ ยิ่งกว่าบุฟเฟ่ต์บางแสนไปอีก 5555
แต่ตัวเราจะชอบทานปูดำที่สุดเพราะเนื้อมันเยอะกว่า แล้วเนื้อก็ออกหวาน ๆ แต่อันนี้แล้วแต่คน
อันนี้คือ ปูทะเล ปูม้า ไม่มีกลิ่นคาว เวลาเอาไปปิ้งทานกลิ่นมันจะไม่แรงมาก
อันนี้คือปูดำที่เราบอกไป ปูตัวใหญ่มาก  เนื้อจะแน่น ๆ ตัวใหญ่ มีไข่ด้วย
ปลาหมึกก็ตัวใหญ่ สด แค่คิดว่าจะเอาไปย่างแล้วจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดก็น้ำลายแตกแล้ว 555
ก่อนที่จะอดใจไม่อยู่ ขอข้ามมาดูส่วนของพวกเนื้อหมู และพวกอาหารทานเล่นอื่นๆ กับเครื่องดื่ม กันบ้าง
ก็จะอยู่ด้านในเหมือนกัน  เวลาเดินไปหยิบหมูจะใส่ไว้ในจานคอนโด ในตู้ทำความเย็น  โอเค ดูสะอาดดี จะได้ไม่มีแมลงมาตอม
เนื้อหมูหั่นพอดีคำ
เบค่อน
ในส่วนของผักเครื่องเคียงก็มีให้ตักไม่อั้น เพื่อใครทานชาบูแล้วอยากได้ผักมาทานคู่กับเนื้อก็อร่อยไปอีกแบบ
แวะมาตักอาหารทานเล่นบ้าง ก็จะมีไก่ทอดเกาหลี เกี๊ยวทอด มันเส้นทอดกรอบ ทางร้านแจ้งว่าจะผลัดเปลี่ยนเมนูไม่ซ้ำกัน
อาจจะมี ไข่ตุ๋น ข้าวผัดกระเทียม ข้าวแกงกระหรี่ญี่ปุ่น เห็ดเข็มทองทอด ปูอัดทอด แล้วแต่วันด้วย
ส่วนบาร์น้ำจะมีเป็น น้ำ เก็กฮวย กระเจี๊ยบ  พั้นซ์  แล้วก็พวกน้ำอัดลม
ร้านจะมีน้ำจิ้มให้เลือก 7 แบบ มีน้ำจิ้มพอนซึ กับ น้ำจิ้มงา แล้วก็มีพวก น้ำจิ้มสุกี้ น้ำชิ้มซีฟู๊ด น้ำจิ้มแจ่ว
น้ำชาบูจะมีให้เลือก 4 แบบ น้ำซุปใส น้ำซุปต้มยำ น้ำซุปดำญี่ปุ่น และน้ำซุปฮอกไกโด
เกือบลืม…เราสั่งพวกเมนูเนื้อมาเพิ่มด้วย
จะเป็นพวกเนื้อวัวแองกัส ทางร้านบอกว่านางจะเป็นเนื้อโคขุนสายพันธุ์ออสเตรเลียแท้ๆ
 นอกจากนี้ยังมี “เนื้อริบอายสไสซ์”ไปอีก แต่วันนี้เหมือนของทางร้านจะหมด
ทางร้านเลย ชดเชยด้วยการให้เป็นเนื้อที่คุณภาพดีเหมือนกันมาเสริฟ์แทน ก็ชิ้นใหญ่ จัดเต็มสุดๆ
หลังจากที่เราไปหยิบอาหารมาพอสมควรแล้วก็ถึงเวลาทานกันได้แล้วจ้า
โดยในส่วนของหม้อชาบูเราได้ขอรีเควสเป็นชาบูน้ำดำกับชาบูต้มยำ
เพราะอยากได้ฟีลแบบชาบูแบบญี่ปุ่นผสมกับการทานเผ็ดๆแบบไทยๆ ด้วย
ไม่รอช้าก็นำเนื้อวัวกับเนื้อหมูตักลงไปในหม้อชาบู โดยหม้อต้มยำเราใส่เป็นพวกของทะเล
จากนั้นก็นำปลาหมึกก็ใส่ไปในหม้อต้มยำเลย
เนื้อปลากระพงขาวเนื้อแน่นอวบน่าทานมากจัดเลย
แล้วที่ขาดไม่ได้คือ ชีสมอซเซอเรลลา ก็เอาไปใส่หม้อละลายให้เป็นน้ำซอสพร้อมจิ้มกับเนื้อบอกเลยเข้ากันอย่างลงตัว
มาต่อกันด้วยปิ้งย่างทะเลที่เรารอคอย
ก่อนอื่นก็ขอเอาพวกหอยแมลงภู่มาวางบนเตาปิ้งก่อน เค้าบอกว่าเตาปิ้งที่นี้จะใช้เป็นถ่านชาโควร์ มันจะไม่มีกลิ่นติดเสื้อ
จากนั้นจึงเริ่มวางพวกปูม้า ปูดำ แล้วก็วางปลาหมึกจ้า
(ปูดำจะยังสดอยู่ถ้าไม่อยากให้น้องปูวิ่งตกมาจากเตา ก็ขอแนะนำให้ทางร้านช่วยน็อคน้องปูก่อนได้จ้า)
กุ้งที่เอาไปใส่ในหม้อชาบูก็สามารถเอามาปิ้งย่างได้เหมือนกันจ้า จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดก่อนเพิ่มความอร่อยไปอีก
มาต่อกับปูที่เราย่างทิ้งไว้สักพักตอนนี้เนื้อปูก็สุกได้ที่แล้วพร้อมรับประทานแล้วตอนนี้
ปูดำที่เรานำไปย่างตัวใหญ่เวอร์มาดูกันว่าเนื่อจะแน่นแค่ไหน
เนื้อปูหลังจากเอาเปลือกออก เนื้อเยอะมว๊ากกก
ตบท้ายด้วยของหวานเป็นไอศกรีม โดยมีให้เลือกทั้งไอศกรีมวนิลา ช็อกโกแล็ต และ กะทิ ใครสะดวกแบบไหนก็ทานแบบนั้นจ้า
สรุปส่งท้ายหลังจากทานเสร็จ
เราชอบตรงที่ร้านชาบูเร สามารถทานได้ไม่จำกัดชั่วโมง คือ ใครจะมาตั้งแต่ร้านเปิดแล้วจะนั่งทานไปเรื่อยๆ จนกว่าอิ่มก็ไม่ว่ากัน
นอกจากนี้ยังเลือกทานได้ทั้งชาบู หรือปิ้งย่างก็ได้ หรือใครอยากทานแค่เนื้อปิ้งย่างอย่างเดียวไม่เอาซีฟู้ดก็ได้
ส่วนรสชาติถือว่าไม่แย่ แต่อยากให้มีส่วนของเนื้อนอกเยอะกว่านี้หน่อย
พวกเนื้อแกะอะไรแบบนี้ แต่รวมๆถือว่าโอเค สำหรับใครเคยไปทานมาบ้างแล้ว ลองแชร์กันดูได้ค่ะ
ถือว่าโอเคเลย อิ่ม อิ่ม อิ่ม ^^ ใครเป็นสายบุพเฟ่ แนะนำไปลองจ้า
ชื่อสินค้า:   ร้านชาบูเร
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่