ลูกสาวของแม่กำลังก้าวผ่านความเจ็บปวดจากการผ่าตัดกระดูกสันหลังคดในวัย 11 ขวบ 7 เดือน

สวัสดีค่ะ กระทู้นี้ดิฉันตั้งใจเขียนขึ้น เพื่อแชร์ประสบการณ์ การพาลูกเข้ารับการผ่าตัดกระดูกสันหลังคด เพราะหมอบอกว่าเด็กสมัยนี้เป็นกันเยอะมาก ในขณะที่มาหาหมอในแต่ละครั้ง เราก็จะพบเด็กที่มาพบคุณหมอด้วยโรคนี้อยู่ตลอด จึงอยากแชร์เผื่อมีคุณพ่อคุณแม่ท่านใด กำลังหาข้อมูลเพื่อที่จะรักษาหรือเตรียมผ่าตัดค่ะ และในการบอกเล่าครั้งนี้ คุณแม่อาจจะใช้คำศัพท์ทางการแพทย์ไม่ถูกต้อง 100% นะคะ บางสิ่งก็จำได้บ้างไม่ได้บ้าง อาศัยว่าเล่าจากความเข้าใจส่วนตัวค่ะ 

ย้อนกลับไป 28 มีนาคม 2561
          พาลูกไปพบคุณหมอครั้งแรกที่โรงพยาบาลตากสิน เพราะลูกสาว (ตอนนั้นอายุ 10 ขวบ) ชอบบ่นว่าปวดหลัง ปวดไหล่ แรกๆ เราก็จะนวดๆ ไหล่ให้ลูกบ้างเพราะเข้าใจว่ากระเป๋านักเรียนมันหนักเกินไป (พ่อแม่หลายท่านอาจจะเจอปัญหานี้นะคะ กระเป๋านักเรียนที่ต้องแบกหนังสือเรียนวันละ 6-7 วิชา ที่ผู้ใหญ่อย่างเรายังบ่นหนัก) แต่พอสังเกตุ เราเริ่มเห็นหลังของลูก ช่วงสะบักแขนข้างขวาโค้งออกมา หลังมันไม่เรียบเหมือนหลังปกติ แต่ตอนนั้นถ้าไม่สังเกตก็แทบจะมองไม่เห็นว่าโค้งนะคะ  พอไปพบคุณหมอ เอ็กซเรย์แล้ว ผลออกมา หมอบอกว่า "กระดูกสันหลังของน้องคดนะคุณแม่"
ได้ยินครั้งแรกคือเครียดนะคะ ตกใจด้วยว่าเกิดขึ้นได้ยังไง หมอวัดออกมาปรากฏว่าคด 20 องศา สำหรับเรา ก็ว่าเยอะแล้ว แต่หมอบอกว่าเด็กสมัยนี้เป็นเยอะมาก บางคนคด 10 หรือ 20 องศา ก็ใช้ชีวิตปกติเยอะแยะไป มันไม่เป็นไร ถ้าองศาที่คดมันไม่เพิ่ม หมอนัดอีก 6 เดือน มาวัดกันใหม่ แม่ใจเย็นๆ นะ ไม่ต้องเครียด หมอบอก (ภาพนี้เอ็กซเรย์ครั้งแรก คด 20 องศาค่ะ)

3 ตุลาคม 2561 ไปพบคุณหมอครั้งที่ 2 ตามนัด ผลเอ็กซ์เรย์ หมอบอกว่าคดเพิ่มเป็น 30 องศา หมอขอดูอีก 6 เดือนนะ ว่ามีแนวโน้มจะหยุดคดไหม แม่ใจเย็นๆ นะ อีก 6 เดือนมาวัดกันใหม่ ตอนนั้นฟังแล้วก็ยิ่งเครียด เริ่มกลับมาหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคนี้ หมอบอกว่าจะเป็นมากในช่วงที่เด็กเข้าสู่วัยรุ่น ซึ่งหลายๆ ครั้งก็ไม่สามารถบอกสาเหตุที่แน่ชัดได้ว่าเกิดจากอะไร ถามว่าเกี่ยวกับกระเป๋าหนักไหม หรือเป็นเพราะเด็กชอบนั่งงอตัวรึป่าว คุณหมอบอกว่าไม่เกี่ยวกัน
(เอ็กซเรย์ครั้งที่ 2 คด 30 องศา) 

20 มีนาคม 2562 ครบ 1 ปีเต็มที่พบอาการ วันนี้ถูกส่งไปตรวจกับอาจารย์หมอ หมอบอกว่าวัดอยู่ตั้งนาน ทำไมคดเยอะจัง 40 องศา หมอหันมามองหน้า "เราคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วนะ ว่าจะใส่เสื้อเกราะดามไว้หรือจะผ่าตัด ถ้าใส่เสื้อเกราะดามไว้ ก็ต้องมาเอ็กซเรย์ดู และต้องไม่คดเพิ่มแล้วนะ ถ้าใส่เสื้อเกราะแล้วยังคดเพิ่ม คือเสียเวลา เพราะสุดท้ายยังไงก็ต้องผ่าตัด แต่ถ้าจะผ่าเลย ตอนนี้ยังทำไม่ได้นะ เพราะหมอที่โรงพยาบาลนี้ผ่าไม่ได้ ต้องไปโรงพยาบาลที่เครื่องมือพร้อมกว่านี้ ประเด็นที่สองคือ น้องยังไม่มีประจำเดือน นั่นหมายความว่าร่างกายน้องยังไม่หยุดโต ถ้าผ่าตอนนี้ น้องสูงขึ้น ก็จะมีปัญหาตามมาอยู่ดี แม่ลองคิดดูนะ ว่าจะไปรักษาต่อที่ไหน ต้องเลือกโรงพยาบาลที่ผ่าตัดกระดูกสันหลังได้ และให้หมอที่นั่นวินิจฉัยหาแนวทางรักษาอีกที"
ฟังแค่นี้ หัวอกแม่ เข่าอ่อนเลย สงสารลูก ถามหมอว่าถ้าจะผ่า ค่าใช้จ่ายเยอะไหมค่ะ หมอบอกแค่ค่าเหล็กก็สองแสน บอกเลยว่าเครียดมากๆ ถ้าผ่าแล้วจบปัญหาทุกอย่าง มันก็ไม่ต้องคิดเยอะ แต่กลัวว่าจะมีอะไรตามมาอีกไหม มันเครียดไปหมด นี่ยิ้มไม่ออกตั้งแต่เดินออกจากโรงพยาบาล จนลูกสาวเอามือมาจบหน้าแล้วบอกว่า "แม่อย่าทำหน้าแบบนี้" ถึงต้องฝืนยิ้มออกมา เพราะแม่จะอ่อนแอไม่ได้ แม่ต้องเข้มแข็ง เพื่อลูกและเราจะผ่านมันไปด้วยกัน....

ภาพเอ็กซเรย์ครั้งที่ 3 จำได้ว่าตอนที่เห็นครั้งแรก กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่จริงๆ ค่ะ แอบหันหน้าหนี้ไปร้องไห้ เพราะสงสารลูก แค่คิดว่าหลังจากนี้ เค้าจะต้องรักษา เค้าจะต้องเจ็บตัว ก็ทำเราเครียดมากๆ 

ครั้งนี้ คุณหมอที่ตากสินแนะนำว่าให้ไปรักษาต่อที่เลิดสิน หรือไม่ก็ศิริราช แต่เราหาข้อมูลมามีแต่คนบอกว่าหมอกระดูกที่เลิดสินเก่ง และไม่ไกลจากบ้านเรามากนัก คนรู้จักส่วนใหญ่ก็มีประสบการรักษาโรคกระดูกที่เลิดสินค่ะ เราเลยตัดสินใจว่าจะไปรักษาต่อที่เลิดสินค แต่ด้วยค่าใช้จ่ายที่มันเยอะมาก เราเลยวิ่งไปจัดการเรื่องเอกสาร เราใช้สิทธิ์บัตรทองในการรักษา โดยต้องไปติดต่อที่คลินิคที่สิทธิ์เราอยู่ เขาก็ส่งตัวเราไปที่โรงพยาบาลที่สิทธิ์อยู่ แต่ก็เป็นโรงพยาบาลเล็กๆ ไม่สามารถผ่าตัดได้เช่นกัน ทางโรงพยาบาลจึงทำเรื่องส่งต่อ เขาถามเราว่าอยากไปผ่าที่ศิริราชหรือเลิดสิน เราก็เลือกเลิดสินค่ะ นั่นหมายความว่า หลังจากนี้ถ้ามีการนัดหรือจะมารักษาที่เลิดสิน เราต้องวิ่งไปขอใบส่งตัวทุกครั้ง ซึ่งก็วุ่นวายพอสมควร เพราะคลินิคจะทำใบส่งตัวให้แบบวันต่อวัน แต่ถ้าจะนอนโรงพยาบาล ต้องไปเอาใบส่งตัวที่คลินิก ให้ส่งตัวไปโรงพยาบาลต้นสังกัด จากนั้นโรงพยาบาลต้นสังกัดถึงทำใบส่งตัวมาเลิดสิน ซึ่งแค่ใบส่งตัวก็วิ่งวุ่นอยู่หลายรอบกว่าจะได้มา

******************************************************
1 เมษายน 2562 เราได้ใบส่งตัวมาที่เลิดสิน
วันนี้มาพบอาจารย์หมอสมบัติที่เลิดสินค่ะ หมอให้ลงไปเอ็กซเรย์ใหม่แบบละเอียด จากนั้นก็กลับพบคุณหมอ คุณหมอวัดไป วัดมา 54 องศาค่ะ หมอบอกมันคดเยอะมาก คดเป็นตัว S เลย แบบนี้ต้องผ่าตัดแล้ว แต่เด็กส่วนมากจะมาผ่าช่วงปิดเทอม ซึ่งคิวยาวมาก ต้องรอ เราเลยบอกคุณหมอว่าน้องเพิ่งจบ ป.6 ค่ะ ถ้ามีคิวที่ไม่ตรงกับช่วงปิดเทอมเราก็ยินดีค่ะ เพราะถ้ายิ่งรอ มันก็จะยิ่งคด และโชคดีมาก มีคิวว่าง 1 คิวคือวันที่ 23 พฤษภาคม (เดือนหน้านี้เอง) แม่เอาไหม ถ้าไม่เอาก็รอไปอีก 4-6 เดือน "เอาค่ะหมอ" เรารีบตอบ

หลังจากที่ตกลงกับคุณหมอได้ว่าจะผ่าตัดเดือนหน้า คุณหมอเลยให้ไปทำเอกสาร ส่งตัวไปทำ MRI ซึ่งต้องไปทำข้างนอก เพราะถ้ารอคิวทำ MRI ที่เลิดสินต้องรออีก 4 เดือน ซึ่งมันไม่ทัน คุณหมอให้รายชื่อสถานที่ ที่สามารถส่งตัวไปทำ MRI ได้ เราเลือกที่คิดว่าใหล้เราที่สุดคือ MRI ประชาชื่น สาขาบางแค ซึ่งเราต้องโทรไปนัดเอง หลังจากได้วันนัดแล้วเราก็แจ้งคุณหมอ เราได้นัดไปทำ MRI วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2562 หมอเลยนัดให้กลับมาเจอกันอีกครั้งก่อนผ่าตัด 2 พฤษภาคม

เคสเราต้องไปทำ MRI ข้างนอก ดังนั้น สิ่งที่ต้องกลับมาทำคือ กลับไปขอใบส่งตัวที่คลินิกบัตรทองของเรา ซึ่งเราจะมีใบนัดทำ MRI 1 ใบ และใบนัดอ่านผล MRI อีก 1 ใบ คลินิกก็ออกใบส่งตัวให้เรา 2 ใบ ตามวันที่ใบนัดเป๊ะๆ ไม่ขาดไม่เกิน และต้องใช้ตามวันที่นั้นเท่านั้น 

28 เมษายน เราเดินทางไปทำ MRI ที่ MRI ประชาชื่น บางแค คุณหมอที่นั่นบอกว่าน้องต้องทำทั้งหลัง ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง เขาก็ให้ลูกสาวเราเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วขึ้นนอนบนเตียงที่เป็นแบบอุโมงค์ ต้องถอดทุกอย่างที่เป็นโลหะออก โดยให้แม่เข้าไปนั่งอยู่ในห้องด้วยได้ เครื่องทำ MRI จะเสียงดังมากๆ เจ้าหน้าที่เขาจะให้เราและลูกสาวใส่ที่ปิดหู มีผ้าห่มให้เพราะในห้องนั้นหนาวมาก เครื่องก็จะเลื่อนไปเลื่อนมา คนนั่งรอก็นั่งนับเลขในใจไป เพราะต้องนั่งเฉยๆ ทำอะไรไม่ได้ ไม่มีนาฬิกาดูเวลา ได้แต่นั่งจับขาลูกให้เขารู้ว่าแม่อยู่ตรงนี้นะ ส่วนลูกก็หลับบ้างตื่นบ้าง บางช่วงได้ยินเสียงหายใจแรงๆ เหมือนหลับไป บางช่วงก็ตื่นลืมตา ทำหน้าเหมือนไม่สบายตัว จนมาถึงช่วง 10 นาทีสุดท้าย ลูกสาวเรากดปุ่มขอหยุด เจ้าหน้าที่เข้ามา น้องบอกว่าไม่ไหวแล้ว ปวดหลังไปหมดเพราะนอนท่าเดียวนาน จนต้องปลอบกันพักนึง น้องยอมทำต่อ อีกประมาณ 10 นาทีก็เสร็จค่ะ 
หลังจากทำ MRI เสร็จแล้ว ต้องรอผลอีกประมาณ 2 ชั่วโมง เราเลยไปเดินเล่น ทานข้าวกันในห้างใกล้ๆ พอผล MRI ออก จะมีเจ้าหน้าที่โทรตามให้เข้ามารับค่ะ ซึ่งเราจะได้เป็นฟิล์มเอ็กซเรย์มาปึกนึง แล้วก็มีเอกสารที่เขียนสรุปผลเอ็กซเรย์และแผ่นซีดี ซึ่งเราต้องถือผลทั้งหมดนี้กลับไปให้คุณหมอที่เลิดสิน ค่าใช้จ่ายในการทำ MRI ครั้งนี้อยู่ที่ 15,500 บาท ทางศูนย์ MRI จะให้เอกสารใบแจ้งหนี้ ให้เราถือกลับไปยื่นที่เลิดสินด้วยค่ะ ซึ่งเค้าจะไปเคลียร์กันเอง เราไม่ต้องจ่ายค่ะ

2 พฤษภาคม 2562
กลับมาพบคุณหมอพร้อมผล MRI เพื่อคอนเฟิร์มการผ่าตัดวันที่ 23 และออกใบนัดมานอนโรงพยาบาล คุณหมอแจ้งว่าในการผ่าตัดจะมีการใช้เครื่องมือตัวนึงช่วย เป็นเครื่องเอ็กซเรย์ไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการผ่าตัด เครื่องนี้จะใช้ตอนผ่าตัดค่ะ แต่ค่าใช้จ่ายคือเบิกไม่ได้ทุกกรณี ถ้าจ่ายไหวก็อยากให้ใช้ ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 35,000 บาท ซึ่งเราตกลงใช้ค่ะ จากนั้นคุณหมอให้เอาซีดี MRI ไปลงที่ห้องเอ็กซเรย์ และให้ไปทำใบนัดทำ CT Scan ทางห้องเอ็กซเรย์ให้เรามาทำ CT Scan วันที่ 23 เลย หาหมอที่เลิดสินเสร็จก็วิ่งกลับไปเอาใบส่งตัวที่คลินิคบัตรทอง 

23 พฤษภาคม 2562 วันนี้ก็มาถึง เรามาโรงพยาบาลกันแต่เช้า เช็คสิทธิ์ที่ห้องสิทธิ์ ผลปรากฏว่าเรายังทำ CT Scan ไม่ได้ ต้องทำเรื่องนอนโรงพยาบาลก่อนไม่งั้นต้องจ่ายค่า CT Scan เอง ก็เลยต้องไปรอคิวพบคุณหมอ คุณพระช่วย ได้คิว 233 ค่ะ พยาบาลบอกว่าน่าจะได้เจอหมอช่วงบ่ายเลยค่ะ
รอไปจนเกือบๆ เที่ยง ได้เจอหมอ คุณหมอก็ทำเอกสารให้นอนโรงพยาบาล และให้เอ็กซเรย์เพิ่ม จากนั้นก็ลงไปที่ห้อง 107 เพื่อทำเรื่องนอน เราอยากจองห้องพิเศษ แต่วันนั้นห้องเต็มหมด เลยลงชื่อจองไว้ แล้วต้องไปแอดมิดที่ห้องรวมก่อนค่ะ ทำเรื่องนอนโรงพยาบาลเสร็จก็ไปรอทำเอ็กซเรย์และ CT Scan หลังจากนั้นขึ้นไปที่ชั้น 16 ตึกกาญจนาภิเษก ศัยลกรรมกระดูกเด็ก
3 ทุ่มครึ่ง Ward ปิดไฟแล้วคร่าาา พรุ่งนี้หมอมาประเมินความพร้อมเตรียมผ่าตัด ถ้าผลเลือดปกติ หมอให้ลากลับไปนอนที่บ้านได้✌😄 แล้วค่อยมาลุ้นอีกที ว่าวันอาทิตย์ จะได้ห้องพิเศษไหม เพิ่งรู้นะเนี่ย ห้องรวมที่นี่ ไม่ได้แย่อย่างที่คิด แต่.... No air con, No Hot Water ค่ะ 😜😖 นอนที่โรงพยาบาล 5.30 น. พยาบาลจะมาปลุก วัดไข้ วัดความดัน🌞😊👧 แฟ้มคนไข้มารอปลายเตียงล่ะ อาจารย์หมอมาก่อน 8 โมง ซึ่งคุณหมอ ให้ลากลับบ้านได้ กลับมาอีกที บ่ายวันอาทิตย์ ผ่าตัดเช้าวันอังคาร ตัดยอดค่าใช้จ่าย มีค่าเจาะเลือด, ค่าวินิจฉัยโรค, ค่าเอกซเรย์, ค่าทำ CT Scan, ค่าห้องพักและค่าบริการอื่นๆ 2 วันกับ 1 คืน 31,750 บาท พยาบาลให้เราถือบิลไปจ่ายที่การเงินชั้น 8 แต่เราจ่ายจริงแค่ 200 บาท ค่ะ
26 พฤษภาคม 2562 Welcome back to hospital ✌😊 โชคดีจังจ้า วันนี้เราได้ห้องพิเศษแล้ว เป็นพิเศษคู่นะคะ (เราต้องจ่ายค่าห้องเองวันละ 850 บาทค่ะ) 

ต่อในคอมเมนท์นะคะ.......
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่