ผมไม่ได้อยู่ในวงการนี้นะ แต่ขอเดาจากประสบการณ์เล็กน้อย
เคยเรียน เทคโนโลยี remote sensing มาบ้าง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เพราะมาสายวิศวกรรมโทรคมนาคม ต้องเรียนวิชานี้ อย่างน้อย 1 เทอม
คือการประมวลผล ภาพถ่ายระยะไกลมากจากพื้นดิน ประมวลภาพจากการแผ่รังสี

ทั้งเรื่องระยะไกล และยิ่งต้องใช้ได้ทั้งกลางวันกลางคืน จึงเน้นให้ความถี่ที่ sensor รับได้ กินไปในทาง ย่าน infrared เยอะ หรือ พูดให้เข้าใจง่ายๆ จากการกระจายความร้อนจากวัตถุ ต่างๆ เน้นแค่การอ่านออกมาเป็นรูปร่าง
มีทั้งเป็นสิ่งมีชีวิต ที่มีรูปร่างจะออกมาจากการผลิตในตัวเอง
ถ้าวัตถุทั่วไป มากน้อย ขึ้นกับการเก็บความร้อนจากดวงอาทิตย์


แต่ผมคิดว่าเทคโนโลยีสมัยนี้ถึงแล้ว
แต่ยังไงก็ตาม เรื่องการประมวลผล การ render ภาพ ที่ต้องการสีครบทั้ง spectrum ใช้ memory เยอะ จะกินเวลานาน กว่าจะได้ภาพแต่ละ frame คงไม่ทันกิน ในการบินไปด้วยถ่ายไปด้วยสดๆ
( เน้นภาพสวย รายละเอียดเยอะ คอมทำงานไม่ทัน ภาพก็จะสะดุดๆ)

ภาพที่ต้องการได้ output ไวๆ แบบนี้
ต่างจากภาพถ่ายทางอากาศ ภาพดาวเทียม แบบที่เห็นใน Google earth ที่ใช้กล้องจำนวนมาก เก็บข้อมูลมหาศาล อันนั้น มีเวลามา render ในห้อง ใช้ซอฟแวร์มาแต่งสีสันบนพื้นดิน (ขนาดมีเวลา เรายังเห็นภาพกระดำกระด่างเลย)


ขอเอา link จาก Wikipedia มาเพิ่มละกันครับ

https://en.m.wikipedia.org/wiki/Forward-looking_infrared


Forward-looking infrared (FLIR) cameras, typically used on military and civilian aircraft, use a thermographic camera that senses infrared radiation.[1]

The sensors installed in forward-looking infrared cameras, as well as those of other thermal imaging cameras, use detection of infrared radiation, typically emitted from a heat source (thermal radiation), to create an image assembled for video output.

They can be used to help pilots and drivers steer their vehicles at night and in fog, or to detect warm objects against a cooler background. The wavelength of infrared that thermal imaging cameras detect is 3 to 12 μm and differs significantly from that of night vision, which operates in the visible light and near-infrared ranges (0.4 to 1.0  μm).